×

ขยี้ Insight การสร้าง ‘Inside SC’ ของ SC Asset สร้างแบรนด์อย่างไรให้คนรุ่นใหม่ยกให้เป็นอสังหาเบอร์ต้นๆ ที่อยากทำงานด้วย [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
10.03.2023
  • LOADING...
Inside SC

HIGHLIGHTS

  • SC Asset เพิ่งคว้ารางวัลบริษัทอสังหาอันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดเป็นปีแรกจากเวที Top 50 Companies in Thailand 2023 จัดโดย WorkVenture และครองตำแหน่งที่ 17 กระโดดจากอันดับ 42 ในปี 2022
  • มากไปกว่าสวัสดิการว้าวๆ อย่าง Workcation เปิดโอกาสให้พนักงานบินไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลกเป็นเวลา 10 วัน, สวัสดิการ Flexi-Benefits จัดงบ 10,000 บาทเอาไปดูแลตัวเองตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ และยังมีอินไซต์น่าสนใจที่ทำให้คนเก่งไม่อยากออก คนเก่งข้างนอกอยากจะเข้า
  • จับตาสวัสดิการปีนี้ บอกได้เลยว่าว้าวกว่าเดิม พร้อมแคมเปญสุดเจ๋งที่จะเปลี่ยนให้คนทำงานมีสิทธิ์เลือกบอส!

เหตุผลข้อแรกที่ทำให้ THE STANDARD อยากพูดคุยกับ จูน-โฉมชฎา กุลดิลก Head of Corporate Brand and Communications และ โบ๊ท-ฉัตรณรงค์ บุญเพ็ชรัตน์ Employee Relation and Corporate Culture สองหัวเรือใหญ่แห่งบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็เพราะ SC Asset เพิ่งคว้ารางวัลบริษัทอสังหาอันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดเป็นปีแรกจากเวที Top 50 Companies in Thailand 2023 จัดโดย WorkVenture และครองตำแหน่งที่ 17 กระโดดจากอันดับ 42 ในปี 2022

 

ส่วนเหตุผลอีกข้อคงเป็นเรื่องสวัสดิการสุดว้าวของพนักงาน SC Asset ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ดึงความสนใจจากคนรุ่นใหม่ให้อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการ Workcation เปิดโอกาสให้พนักงานบินไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลกเป็นเวลา 10 วัน, สวัสดิการ Flexi-Benefits จัดงบ 10,000 บาทเอาไปดูแลตัวเองตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ จะอัปหน้า เข้าสปา ตัดแว่น จ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว หรือลงเรียนคอร์สต่างๆ ไปจนถึงสวัสดิการสมรสเท่าเทียม ที่ไม่ใช่แค่สนับสนุนความต่าง แต่ยังมอบของขวัญพิเศษในวันพิเศษให้กับพนักงาน 10,000 บาท

 

แต่กว่าจะได้สวัสดิการที่ตอบโจทย์ ตรงใจ และยังสามารถ Customize ได้ตามต้องการจนคนในไม่อยากออก คนนอกอยากเข้า…ไม่ง่ายเลย ต้องผ่านการทำเวิร์กช็อปและโฟกัสกรุ๊ปกับพนักงานทุกระดับ นักศึกษาฝึกงาน ไปจนถึงบุคคลภายนอก เพื่อค้นให้เจออินไซต์ว่าอะไรคือสิ่งที่คนทำงานยุคนี้ต้องการ

 

‘ความยืดหยุ่น อิสรภาพ ความเชื่อใจ’ คือคีย์สำคัญที่ทีมเบื้องหลังการสร้าง Employer Branding ค้นพบว่า เป็นสิ่งที่คนทำงานยุคนี้มองหา แน่นอนว่า SC Asset มีครบในวัฒนธรรมองค์กร ขณะเดียวกันเป้าหมายของผู้บริหารคือ การสร้างองค์กรที่คนเก่งไม่อยากออก และคนเก่งจากข้างนอกอยากเข้ามาทำงาน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้องค์กรในระยะยาว การสร้าง Inside SC เพื่อมองหาคนใหม่ๆ ให้ตรงกับวัฒนธรรมองค์กรจึงเกิดขึ้น 

 

Inside SC

 

Inside SC ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่ค้นหาคนทำงานที่มี DNA ตรงกับองค์กรเท่านั้น แต่มุ่งส่งมอบ ‘Freedom to be Our Best’ ให้กับคนที่เลือกจะเติบไปกับ SC Asset โดยมีนโยบาย ‘3 ดี’ คือ สมดุลดี-สังคมดี-อนาคตดี เพื่อให้คนทำงานมั่นใจว่า พวกเขาจะมีอิสระในการเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิต 

 

 จูน-โฉมชฎา กุลดิลก Head of Corporate Brand and Communications

 

“ชีวิตที่สมดุลสำหรับคนยุคนี้ไม่ใช่ Work Life Balance แต่คืออิสระในการปรับเปลี่ยนรูปแบบชีวิตได้ด้วยตัวเอง เช่น ต่อให้คุณทำงานหนัก แต่มีอิสระในการออกแบบช่วงพักผ่อนให้ตัวเองได้ เป็นความสามารถในการผ่อนหนัก-เบาด้วยตัวเอง นั่นคือนิยามคำว่า ‘สมดุลดี’ ของเรา”

 

เพื่อให้ภาพของ ‘สมดุลดี’ เป็นรูปธรรมมากขึ้น SC Asset จึงปรับการทำงานให้เป็นแบบ Hybrid Workplace สำหรับพนักงานที่ทำงานในออฟฟิศให้ Work from Anywhere ได้ 2 วันต่อสัปดาห์ และออกแบบสวัสดิการ Workcation เที่ยวไปทำงานไป รวมถึง Flexi-Benefits ให้พนักงานจัดสรรสวัสดิการตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

 

โฉมชฎาบอกว่า ‘สังคมดี’ เป็นหัวใจหลักของ SC Asset ที่หลอมรวมอยู่ใน Core Value ของวัฒนธรรมองค์กรอยู่แล้ว ได้แก่ Care, Courage, Collaboration และ Continuous Improvement ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีการเพิ่มสวัสดิการที่ช่วยยกระดับสังคมดีๆ ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการสร้างพื้นที่ที่มีความเท่าเทียม สวัสดิการสมรสเท่าเทียม หรือแม้แต่สวัสดิการคนโสด 

 

ในขณะที่ ‘อนาคตดี’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหา SC Asset จึงจัดสรรงบสำหรับศึกษาดูงานในและต่างประเทศ รวมถึงมีงบสำหรับการเข้าร่วมหลักสูตร เพื่อต่อยอดเพิ่มเติมความรู้มาพัฒนางานและตนเองให้กลายเป็นคนที่ดีที่สุดในเวอร์ชันของตนเอง

 

 

‘Inside SC’ ผลลัพธ์ของการทำ Employer Branding ที่ออกแบบอย่างใส่ใจทุกรายละเอียด

เมื่อถามว่าอะไรคือจุดเด่นของ Inside SC จนสร้างการจดจำและทำให้คนรุ่นใหม่อยากเข้ามาทำงาน โฉมชฎาตอบคำถามนี้ด้วยการฉายภาพให้เห็นจุดเริ่มต้นของการทำ Employer Branding

 

“ต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณปี 2012 เรา Rebranding ครั้งใหญ่ ทำให้ได้ชุดของ Branding และสินค้าที่อยากส่งมอบให้กับลูกค้า หลังจากนั้นช่วงปี 2016 ก็ Reculture วิเคราะห์จริงจังเลยว่า พฤติกรรมแบบไหนของพนักงานที่จะสร้างสิ่งที่เราอยากจะส่งมอบได้ จนได้ออกมาเป็นชุดวัฒนธรรม #SKYDIVE”  

 

 

โบ๊ท-ฉัตรณรงค์ บุญเพ็ชรัตน์ Employee Relation and Corporate Culture

 

ฉัตรณรงค์เล่าเสริมว่า “ช่วงที่เกิดวัฒนธรรม #SKYDIVE เรามีกลุ่มคนที่เราเรียกว่า ‘โรบิน’ ซึ่งเป็นตัวแทนจากทุกหน่วยงานในองค์กรประมาณ 50 คน มาช่วยปั้น Core Value 4C เริ่มตั้งแต่ทำให้ทุกคนในองค์กรจำ 4C ได้ เมื่อจำได้ก็ต้องเข้าใจด้วย สุดท้ายคือลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติต่อลูกค้าหรือคนในองค์กร เราสร้างกิจกรรมหลายอย่าง เช่น ให้พนักงานช่วยกันออกแบบ Sticker LINE 4 คาแรกเตอร์ เป็นตัวแทนของ 4C เพื่อส่งชื่นชมเพื่อนพนักงานหรือให้กำลังใจ เราเอาคาแรกเตอร์เหล่านั้นมาทำเป็นสินค้า และยังทำเพลงไว้เปิดตามงานต่างๆ ขององค์กรด้วย”

 

“สนุกที่สุดคือการส่งดาวผ่านแอปพลิเคชันภายในองค์กร ทุกเช้าพนักงานทุกคนจะได้รับดาว 4 ดวง สามารถส่งให้ใครก็ได้ในองค์กรที่เรารู้สึกอยากชื่นชม ใครที่สะสมดาวได้เยอะๆ ก็เอาไปแลกของรางวัลได้” โฉมชฎากล่าว 

 

พวกเขาบอกว่า เมื่อฐานรากของวัฒนธรรมองค์กรแข็งแรง การทำ Inside SC จึงไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์

 

“Inside SC ทำขึ้นเพื่อ Matching คนทำงานที่จะเข้ามาอยู่กับเรา แทนที่เราจะเป็นฝ่ายเลือก พวกเขาต่างหากที่มีสิทธิ์เลือกเราเช่นกัน และเมื่อเขาเลือกเราแล้วเราต้องดูแลเขาอย่างดี ทำให้ช่วงเริ่มต้นเราทำเวิร์กช็อปกันหนักมาก เพื่อหาอินไซต์ว่าอะไรคือสิ่งที่คนทำงานยุคนี้ต้องการ อะไรทำให้คนเก่งๆ ไม่ไปจากเรา จุดแข็งเราคืออะไร และอะไรที่ยังขาด ยิ่งค้นหาเรายิ่งค้นพบว่า วันนี้เรามั่นใจว่าถ้าเขาเข้ามาอยู่กับเราแล้วเขาจะไม่ไปไหน ถ้าจะหวั่นใจก็คงเป็นตอนที่เขากำลังตัดสินใจว่าจะเลือกเราหรือเปล่ามากกว่า”

 

ฉัตรณรงค์ย้ำความมั่นใจอีกด้วยว่า “นอกจากเรื่องสวัสดิการต่างๆ ที่เล่าไป เรามี Employee Engagement Survey ให้พนักงานทำผ่านแอปพลิเคชัน ข้อมูลที่ได้มาจะนำไปวิเคราะห์เพื่อดูว่าแต่ละปีแต่ละหน่วยงานมีความต้องการอะไรที่เปลี่ยนไป เรามีการวัด Happinometer เกี่ยวกับสุขภาพกาย ใจ การเงิน และสังคมเพื่อนร่วมงาน เป็นมาตรวัดที่ทำให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข หากพบว่าหน่วยงานไหนสุขภาพใจต้องซ่อม เรามีโปรแกรมที่เรียกว่า RelationFlip ที่ปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์ สามารถโทรหาเพื่อพูดคุยกับจิตแพทย์ได้ทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงาน” 

 

โฉมชฎากล่าวเสริมว่า “นอกจากจะวัดเรื่องความสุข ประสิทธิภาพการทำงานก็ต้องถูกวัดควบคู่ไปด้วย หัวหน้าทีมจะมีการทำ Check-in กับน้องๆ ในทีมปีละ 4 ครั้ง เพื่อเช็กว่าความคาดหวังในเนื้องานที่มอบให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร หรือมีพัฒนาการอะไรที่น้องในทีมต้องการ แล้วตอนปลายปีจะมีระบบประเมิน Performance ซึ่งมาจากการ Check-in ทั้งปีที่ต้องมีการบันทึกทุกครั้ง” 

 

ผลรางวัล = ผลลัพธ์ของความใส่ใจ

ปี 2022 เป็นปีแรกที่ SC Asset ติดอันดับ 42 จากเวที Top 50 Companies in Thailand ปีนั้นทีมเคยประกาศว่าจะต้องพาแบรนด์ติด 1 ใน 20 วันนี้พวกเขาทำได้จริง! พาแบรนด์คว้าอันดับ 17 และยังเป็นอสังหาเพียงหนึ่งเดียวที่ติด Top 20 

 

 

ปีแรกเรียกว่าเป็นอานิสงส์จากชื่อเสียงที่เคยทำมา เพราะถ้าถามคนทำงานสายวิศวะ ตัวเลือกแบรนด์อสังหาในเมืองไทยไม่เยอะ มีความเป็นไปได้ที่เราจะติดอันดับ 42 ในปีแรก เราถือว่านั่นเป็นจุดที่คนได้ยินชื่อ SC Asset แล้ว จากจุดนั้นเรามาคิดว่าแล้วอะไรคือสิ่งที่เราอยากให้เขาได้ยิน ทำให้เราทำเรื่อง Employer Branding จริงจัง ถ้าคุณจะจำ SC Asset ต้องจำว่าเราคือ Freedom to be Our Best

 

เมื่อถามว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ติด 1 ใน 20 โฉมชฎาบอกว่า “เพราะลงมือทำอย่างจริงจัง เราทำหนังที่เล่าเรื่องชีวิตการทำงานใน SC Asset จากเดิมที่ทำแต่หนังขายบ้าน ขายคอนโด เราเจาะกลุ่มนักศึกษามากขึ้น ออก Road Show เยอะมากๆ การทำเยอะมันเลยส่งผลให้เราขยับตำแหน่ง ความท้าทายคือการรักษาตำแหน่ง หรือขึ้น Top 10 แปลว่าเราต้องทำมากกว่านี้ คงเป็นความท้าทายของทีมต่อไปว่าเราพร้อมจะลุยหรือยัง”

 

พวกเขายังบอกด้วยกว่า ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ตามปรัญชา ‘For Good Mornings’ ที่มุ่งสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พาร์ตเนอร์ หรือคนในองค์กร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นชัดเจนยิ่งขึ้น

 

“รางวัลมันสะท้อนให้เห็นว่าเราทำเพื่อทุกคนจริงๆ นอกจากพาร์ตเนอร์และลูกค้าแล้ว เราอยากให้พนักงานของเรามีเช้าที่ดีในทุกวัน เพราะถ้าคุณไม่มีความสุข คุณจะสร้างบ้านที่มีความสุขให้คนอื่นหรือดูแลลูกค้าอย่างมีความสุขได้อย่างไร ของที่ถูกสร้างขึ้นมาจากคนที่มีความสุข คนที่ได้รับไปจะสัมผัสได้” ฉัตรณรงค์กล่าว

 

จับตา Inside SC เวอร์ชันใหม่ สนุกกว่าเดิม สวัสดิการว้าวกว่าเดิม

เห็นด้วยกับที่พวกเขาบอกว่า การจะรักษาตำแหน่งนั้นไม่ง่าย แต่การทำต่อเนื่องและเตรียมวางแผนเพิ่มกิจกรรมและสวัสดิการสนุกๆ ในปีนี้จะทำให้พนักงาน SC Asset รักษาปริมาณความสุขไว้ได้อย่างแน่นอน  

 

“แผนปีนี้ตั้งเป้าที่จะไป Road Show ตามมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น รวมถึง Company Visit สำหรับคนทั่วไป อีกหนึ่งกิจกรรมที่คิดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก คือเราไปเจออินไซต์หนึ่งว่า ยุคนี้ไม่ใช่เราเลือกพนักงานเท่านั้น เพราะคนทำงานยุคใหม่ทางเลือกเขาเยอะมาก 

 

“ดังนั้นเราจะทำอย่างไรให้เขาเลือกต่างหากคือโจทย์ใหม่สำหรับเรา เขาจะเลือกเราได้อย่างไร เพราะยังไม่รู้เลยว่าเข้ามาแล้วจะไปอยู่ทีมไหน ใครเป็นบอส และบอสเป็นคนแบบไหน เราจะเปิดตัวแคมเปญใหม่ ‘เริ่มงานใหม่ใครเป็นบอส’ (ชื่อเรื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ทำเรซูเม่ของบอสให้เขาเลือก ทำตัวองค์กรให้เป็นองค์กรที่น่าเลือกมากขึ้น คงวางตัวเองให้ชัดเจนว่าจะเป็นองค์กรที่ไม่ได้มาเลือกใคร แต่เปิดโอกาสให้คุณเลือกเรา เราเป็นแบบนี้นะ มีแนวคิดแบบนี้ มีสวัสดิการเหล่านี้ ที่เหลืออยู่ที่คุณจะเลือกเราหรือเปล่า จะขยายเรื่องของ Inside SC ออกไปอีก” โฉมชฎากล่าว

 

ฉัตรณรงค์เสริมเรื่องสวัสดิการว่า “สำหรับพนักงาน ปีที่แล้วเราเปิดตัวสวัสดิการน่ารักๆ ที่เข้ากับยุคสมัยอย่าง Flexi-Benefits และ Workcation ปีนี้จะหาสวัสดิการที่เหมาะกับปี 2023 ต้องดูว่ามีเทรนด์อะไรใหม่ๆ และทำให้สวัสดิการมันทันสมัย ที่เริ่มเห็นก็เช่นสวัสดิการ ‘กินข้าวกันปะ’ ดึงชีวิตก่อนโควิดกลับมา หรือไปเอาท์ติ้ง พวกนี้เราเอากลับมาหมดแล้ว” 

 

“ต่อให้วันนี้เราไม่ได้รางวัล เราก็คงจะทำต่อไป เพราะเป้าหมายของเราไม่ใช่รางวัล แต่คือความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว ไม่มีอะไรที่ส่งเสริมความยั่งยืนขององค์กรได้เท่ากับการมีฐานรากของบ้านที่แข็งแรงเสมอ” โฉมชฎากล่าวทิ้งท้าย 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising