อังกฤษยกระดับโควิด-19 หนึ่งในสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียเป็น ‘สายพันธุ์ที่น่ากังวล’ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ที่สหราชอาณาจักร หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England: PHE) กำลังติดตามเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดีย (B.1.617) อย่างใกล้ชิด ซึ่งดูเหมือนว่าเชื้อสายพันธุ์ B.1.617.2 นี้จะแพร่ระบาดได้เร็วกว่าเชื้อที่เป็นสายพันธุ์ย่อยอื่นของสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียอีก 2 สายพันธุ์

ล่าสุดมีการยืนยันว่า PHE ได้ประกาศยกระดับให้เชื้อสายพันธุ์ B.1.617.2 จาก ‘สายพันธุ์ภายใต้การสอบสวน’ กลายเป็น ‘สายพันธุ์ที่น่ากังวล’ เรียบร้อยแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่าเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวนี้ยังสามารถแพร่กระจายได้ดีอย่างน้อยเท่ากับเชื้อสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในเมืองเคนท์ของอังกฤษด้วย ขณะที่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า รัฐบาลต้องรับมืออย่างรอบคอบต่อการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียในสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้เพิ่มจาก 202 คนเป็น 520 คนแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเพิ่มที่รวดเร็ว และส่วนใหญ่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ในกรุงลอนดอนและทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ (England) ทั้งนี้เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับการเดินทางหรือมีการสัมผัสกับผู้เดินทาง อย่างไรก็ตาม ก็มีหลักฐานเกี่ยวกับการแพร่กระจายในชุมชนเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับสถานที่ทำงานและการชุมนุมทางศาสนา

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุกับ BBC ถึงคลัสเตอร์ในสถานดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้สูงอายุ 14 คนที่ได้รับวัคซีนไปแล้วแต่ยังติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว ซึ่งในจำนวนนี้บางรายต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่อาการไม่รุนแรง และคาดว่าทั้งหมดอาการดีขึ้นแล้ว ซึ่งวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันแม้จะป้องกันเชื้อไวรัสได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการติดเชื้อได้ทั้งหมด 100% โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สูงอายุ

ขณะที่ PHE ระบุว่า ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะบ่งชี้ว่าสายพันธุ์ใดก็ตามที่ตรวจพบในอินเดียระยะนี้จะทำให้เกิดอาการของโรคที่รุนแรงขึ้น หรือทำให้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดลง แต่ขณะเดียวกัน PHE ก็เพิ่มปริมาณการทดสอบหาเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อสายพันธุ์ B.1.617.2 ควบคู่ไปกับการติดตามผู้สัมผัสเพื่อหยุดยั้งการระบาดของเชื้อสายพันธุ์นี้ด้วย โดยผู้ที่อาศัยในพื้นที่ที่กำหนดจะถูกขอให้เข้ารับการทดสอบ PCR Test แม้จะไม่มีอาการใดๆ ก็ตาม ซึ่งการยกระดับการทดสอบนี้เริ่มต้นขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ของเมืองโบลตัน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ B.1.617.2 เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดร.ซูซาน ฮอปคินส์ ผู้อำนวยการด้านการตอบสนองเชิงกลยุทธ์โควิด-19 ของ PHE กล่าวว่า วิธีที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสทุกสายพันธุ์ยังคงเดิม

“แม้ว่าเรา (ชาวอังกฤษ) จะกำลังมีอิสระมากขึ้น แต่ไวรัสก็ยังอยู่กับเรา” ซูซานระบุ “เรากำลังติดตามเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ ทั้งหมดอย่างใกล้ชิดอย่างยิ่ง และได้ตัดสินใจจัดหมวดหมู่ให้สายพันธุ์นี้ (B.1.617.2) เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล เพราะข้อบ่งชี้ที่ว่าสายพันธุ์ B.1.617.2 (หรืออีกชื่อตามการตั้งของ PHE คือ VOC-21APR-02) เป็นสายพันธุ์ที่สามารถแพร่เชื้อได้ดีขึ้น” ส่วนไวรัสสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียสายพันธุ์อื่นๆ อีก 2 สายพันธุ์ยังไม่ถูกปรับเลื่อนจาก ‘สายพันธุ์ภายใต้การสอบสวน’ ให้เป็น ‘สายพันธุ์ที่น่ากังวล’ แต่จะเก็บไว้พิจารณาอีกครั้ง

ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ดังกล่าวดูเหมือนจะสะท้อนสถานการณ์เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า เพราะการทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 รายบุคคลและจำแนกสายพันธุ์จำเป็นต้องใช้การทำงานในห้องปฏิบัติการ

ขณะที่ข้อมูลจาก Wellcome Sanger Institute ซึ่งได้วิเคราะห์ผลตรวจ Swab ที่เป็นบวกสำหรับไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ระบุว่ายังพบคลัสเตอร์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B.1.617.2 ในหลายพื้นที่ของอังกฤษ อาทิ เลสเตอร์, โบลตัน, น็อตติงแฮม และแบล็กเบิร์น ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 24 เมษายนด้วย เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ B.1.617.2 รายใหม่ 7 รายที่พบในไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งถือเป็นการค้นพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรกในไอร์แลนด์เหนือด้วย

ภาพ: Hasan Esen / Anadolu Agency via Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: