วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) กฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม แกนนำกลุ่มราษฎร จากการพูดคุยในหลายประเด็น โดยทุกคนไม่ได้กังวลใจ มีกำลังใจที่ดี ซึ่งมีเพียงสองคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ คือ พริษฐ์ ที่มีปัญหาโรคหอบหืด อีกทั้งอยู่ห้องขังที่คับแคบ ที่มีผู้ต้องขัง 26 คน ซึ่งค่อนข้างแออัด ส่วนสมยศป่วยด้วยโรคไขข้อ
กฤษฎางค์กล่าวต่อไปว่า ได้มีการพูดคุยประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้คดี ซึ่งปกติการถูกคุมขังลักษณะนี้ ใช้เวลาในการพิจารณาคดีไม่ต่ำกว่า 3 ปี และถ้าหากไม่ได้รับการประกันตัว ก็อาจจะถูกคุมขังอีก 3 ปี ซึ่งทั้ง 4 คนก็ทำใจยอมรับหากเป็นเช่นนั้น
ทั้งนี้ กฤษฎางค์ระบุว่า อานนท์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เหตุใดศาลจึงไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนประเด็นเหตุผลที่ไม่ให้ประกันตัวนั้น ในสำนวนการสั่งฟ้องของอัยการไม่ได้ระบุว่า เป็นการกระทำผิดซ้ำ แต่เพราะเหตุใดศาลถึงให้เหตุผลการไม่อนุญาตในการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเกรงจะกระทำผิดซ้ำ
นอกจากนี้ อานนท์ยังได้ฝากข้อความระบุว่า การที่ถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ ทำให้มีเวลาในการทบทวนเรียบเรียงความคิด ถึงแนวทางการต่อสู้ในอนาคต โดยยืนยันว่าอยู่ข้างในก็สู้ได้ และหากอยู่ข้างนอก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะมีข้อมูลว่า มีขบวนการสั่งเก็บ และทำร้ายร่างกายแกนนำ แม้อยู่ข้างในก็ยังมีการกระทบกระทั่งกับผู้ต้องขังที่เห็นต่างทางการเมืองเช่นกัน
“สำหรับการยื่นอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราว มีการยื่นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งลงมา ทั้งที่ปกติระบุว่าจะต้องพิจารณาโดยเร็ว” กฤษฎางค์กล่าว
นอกจากนี้ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องคดีการชุมนุม ซึ่งมี 24 คน ในจำนวนนี้ 3 คน คือ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก และ ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ที่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 ด้วย โดยทางทีมทนายคาดการณ์ว่า พนักงานอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องจำเลยทั้งหมด และอาจไม่ได้รับการประกันตัวเช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
