อุตสาหกรรม MICE ปีนี้จะสดใสขึ้นกว่าเดิม IMPACT ย้ำ พร้อมเร่งพัฒนาพื้นที่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี รองรับเมกะโปรเจกต์ Entertainment Complex พร้อมทุ่ม 5 พันล้านบาท สร้างโรงแรมระดับ 4-5 ดาวรองรับลูกค้าต่างชาติ
“หลังเดินหน้าประมูลเมกะโปรเจกต์ Entertainment Complex สถานบันเทิงครบวงจรมูลค่ากว่าแสนล้านบาท ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลจะเลือก IMPACT หรือไม่ก็ตาม เราเร่งพัฒนาพื้นที่โดยรอบริมทะเลสาบเมืองทองธานี เพื่อรองรับการจัดงานระดับโลก ผนวกกับชูจุดแข็งโครงสร้างพื้นฐานที่มีทั้งศูนย์ประชุมจัดงาน โรงแรม และอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง
“เรามั่นใจว่าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นพื้นที่ที่เหมาะสม และหากได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลก็จะกลายเป็นศูนย์กลางการจัดอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลก” พอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความฝัน ‘พอลล์ กาญจนพาสน์’ อยากให้อาณาจักร IMPACT มีโรงแรม 5 ดาว รับงานอีเวนต์-คอนเสิร์ตยาวถึงปีหน้า
- ไม่หวั่น! ‘อิมแพ็ค เมืองทองธานี’ ย้ำยังถูกเลือกให้จัดงานเพราะมีพื้นที่ใหญ่ แม้มีคู่แข่งในเมืองเพิ่ม ครึ่งปีหลังมียอดจองเต็มแล้ว
- คอนเสิร์ตจองจัดงานทุกสัปดาห์ ‘อิมแพ็ค เมืองทองธานี’ เทงบ 200 ล้าน สร้างสะพานเชื่อมอาคาร คาดรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายจะเปิดได้ปี 2568
ถึงกระนั้น ไม่ว่าอิมแพ็ค เมืองทองธานี จะถูกเลือกให้เป็น Entertainment Complex หรือไม่ ก็ต้องเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป ยิ่งในปี 2568 มีความเคลื่อนไหวหลายอย่าง โดยเฉพาะการวางแผนลงทุนพัฒนาโรงแรมแห่งใหม่ เฟส 2 จำนวน 1,000 ห้อง มีทั้งระดับ 4 และ 5 ดาว ซึ่ง 5 ดาวจะมีจำนวน 300 ห้อง อยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์
เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 4-5 พันล้านบาท หลังจากยื่นขอ EIA ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จากนั้นก็จะเริ่มสร้างทันที คาดว่าโรงแรมแห่งใหม่จะแล้วเสร็จในปี 2571 จากนั้นจะทำให้ IMPACT มีโรงแรมทั้งหมด 4 แห่ง
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันโรงแรมเราไม่เพียงพอที่จะให้บริการลูกค้า จนทำให้สูญเสียลูกค้ารายใหญ่จากต่างประเทศไป ดังนั้นในอีก 6-7 ปี ก็จะลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้น โดยเป้าหมายใหญ่คืออยากให้มีห้องพักรวมทั้งหมด 5,000 ห้องภายในปี 2578
สำหรับแผนงานทั้งหมดจะช่วยรองรับธุรกิจ MICE ที่กำลังเติบโต สะท้อนจากตัวเลขผู้ที่เข้ามาใช้บริการใน IMPACT ระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 มีเกือบ 10 ล้านคน ต่อจากนี้ต้องรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ ปัจจุบันตั้งทีมการตลาดและทีมขายเพื่อโฟกัสลูกค้าชาวจีน เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
โดยคาดการณ์ว่านักเดินทาง MICE นานาชาติจะเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก และการดำเนินมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติของภาครัฐ เนื่องจากอุตสาหกรรม MICE มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
พอลล์กล่าวต่อไปว่า นอกจากโอกาสใหม่ๆ แล้ว ความท้าทายของธุรกิจอาจมีผู้จัดงานที่หายไปตั้งแต่ช่วงโควิดและยังไม่กลับมา แต่ที่เห็นได้ชัดคือตลาดมี KOL เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ล่าสุดเราเพิ่งปล่อยแพ็กเกจดึง KOL และอินฟลูเอ็นเซอร์เข้ามาจัดงานกับเราด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ในปีนี้โครงการ Sky Entrance เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี) และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ที่เป็นการดำเนินงานก่อสร้างสะพานทางเชื่อมพื้นที่ล็อบบี้ด้านข้างอาคารชาเลนเจอร์ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตามแผน
จากนั้นก็จะเตรียมเปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายภายในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ด้านความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางเข้ามาประชุม มางานแสดงสินค้า และมางานคอนเสิร์ต ซึ่งจะช่วยเพิ่มทราฟฟิก และเป็นโอกาสในการอำนวยความสะดวกลูกค้าในการจัดงานและขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาอาณาจักรเมืองทองธานีเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานประชุม งานคอนเสิร์ต และเทศกาลดนตรีนานาชาติ บนพื้นที่กว่า 4,700 ไร่ ประกอบด้วย ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า, อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์, ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม และศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยทรัพย์สินทั้ง 4 แห่ง มีพื้นที่รวม 479,761 ตารางเมตร และพื้นที่จัดแสดงสุทธิ 122,165 ตารางเมตร อยู่ภายใต้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็คโกรท (IMPACT Growth Reit) โดยมีบริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ และปัจจุบัน IMPACT มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50%
“สุดท้ายแล้ว จากแผนงานทั้งหมดจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ IMPACT สามารถรับงานในสเกลที่ใหญ่ขึ้นได้อีก และปัจจุบันสถานที่จัดงานอีเวนต์และคอนเสิร์ตนั้นถูกจองเต็มตลอดทั้งปีแล้ว” พอลล์ย้ำ
