ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เร่งติดตามตัวผู้เดินทางจากแอฟริกาเข้าไทย เชื่อจะพบตัวในจำนวนก้าวกระโดดวันนี้

วันนี้ (2 ธันวาคม) พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เผยแพร่ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ข้อมูลทางฝั่ง ตม. จำนวนผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศเสี่ยงเป็นข้อมูลจากช่วงไหนถึงช่วงไหน และตัวเลขเป็นอย่างไร  

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวว่า ตม. ใช้ช่วงเวลาเดียวกับ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เริ่มต้นวันที่ 15 พฤศจิกายนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตัวเลขโดยรวมแล้วตรงกันทั้งหมด หากจะมีตัวเลขที่เขย่งหรือไม่นั้นเนื่องจากมีคนประจำยานพาหนะ หรือมีบุคคลอื่นๆ มาเกี่ยวข้องทำให้ตัวเลขไม่ตรงกันมาก แต่ถือว่าโดยรวมตรงกันทั้งหมด

ตัวเลขนี้รวมถึงคนที่เดินทางออกนอกประเทศด้วยทุกวัน ซึ่งจุดนี้จะมีการขยับขึ้นขยับลงตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการดำเนินการตามที่ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ สธ. ในการค้นหาที่อยู่ของบุคคลที่มาจากแอฟริกา แบ่งเป็น 2 อย่าง คือเสี่ยงกับไม่เสี่ยง

เมื่อหาแล้วฝ่าย ตม. ก็จะเป็นคนนำของ สธ. ไปที่พักของตัวบุคคล เมื่อถึงตัวบุคคลแล้วทาง สธ. ก็จะมีวิธีการตามมาตรการควบคุมโรคในเรื่องการไปสัมภาษณ์ ไปดูอาการ ไปสังเกต เราทำมาแล้ว 2-3 ระลอก ตั้งแต่อู่ฮั่น จนถึงทางฝั่งระลอก 2-3 เราก็ทำมา ครั้งนี้ก็จะเริ่มทำกันอีก

ผู้ดำเนินรายการถามว่าภารกิจของ ตม. มี 3 ภารกิจ คือหาตัวเลขว่าเข้ามาแล้วกี่คน, หาตัวให้เจอ และพาไปตรวจ ใช่หรือไม่           

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวว่า มี 3 ภารกิจ โดยภารกิจการพาไปตรวจว่ามีเชื้อหรือไม่จะเป็นการวินิจฉัยของ สธ. ที่เราจะเดินคู่กันเพราะหาก ตม. ไปเดี่ยวก็จะไม่มีความรู้เรื่องสาธารณสุข 

ปัจจุบัน (15 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม) ยอดผู้เดินทางจากแอฟริกามีประมาณ 1,100 คน โดยเป้าหมาย 1,100 คนนี้ ต้องเรียนว่าตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ระงับการออก Thailand Pass ให้กับกลุ่มประเทศเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจุดนี้จะมีตัวเลขที่ค่อนข้างนิ่ง และก็ยังมีตัวเลขที่เคยได้ออกไปแล้ว เป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศคุมเข้มในเรื่องนโยบาย 

ส่วนเรื่องในประเทศ เรามีหน้าที่เฝ้ามองว่าคนที่ได้รับ Thailand Pass ไปแล้ว เดินทางเข้ามาก็เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราจะไปพิสูจน์ทราบตัวตนทุกราย 

ส่วนที่สอง ในเรื่องการกักตัวหลังจากนี้ก็คงมีการกักตัวเต็มแม็กซ์คือ 14 วัน สำหรับกลุ่มคนที่อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยง และเป็นคนกลุ่มที่อาจจะไม่ได้เดินทางมาจากแอฟริกา แต่จะมีแนวนโยบายที่เฝ้ามองเป็นพิเศษ ถ้าเป็นคนจากแอฟริกาเดินทางจากที่ไหนในโลกก็ตามจะมีการเฝ้ามองเป็นพิเศษอยู่เหมือนกัน

ใน 1,100 คน มีผู้เดินทางจาก 8 ประเทศความเสี่ยงสูงจำนวน 30% ที่เหลือ 70% เป็นประเทศอยู่ในกลุ่มแอฟริกาที่ไม่ใช่ความเสี่ยงสูง 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ใน 30% ที่เดินทางจาก 8 ประเทศกลุ่มความเสี่ยงสูงยังเจอตัวจำนวนไม่มาก ยังมีปัญหาการตามหาตัวใช่หรือไม่

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวว่า ต้องนำเรียนว่าเราเพิ่งได้เริ่มถอดข้อมูลทั้งหมด ฉะนั้นวันนี้พรุ่งนี้ก็คิดว่าตัวเลขคงขยับขึ้นไปสูงพอสมควร เพราะเราคงต้องแยกประเภทว่าคนไหนที่ยังอยู่ในโรงแรมแรก คนไหนที่ยังกักตัวอยู่ เนื่องจากแอฟริกาไม่ได้อยู่ใน 63 พื้นที่ที่เข้ามาแล้ว Test & Go (ไม่ต้องกักตัว) ฉะนั้นจุดนี้เขาต้องมาอยู่อีกสักนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นยังมีเวลาสำหรับคนที่พันเศษๆ ยังมีหลายคนที่ยังอยู่ใน Quarantine ตามระเบียบ ยังกักตัวอยู่

ผู้ดำเนินรายการถามว่า การหาตัวให้เจอครั้งนี้ หากหาตัวไม่เจออาจจะทำให้ได้รับทราบว่ามีปัญหาการกักตัวไม่ครบตามกำหนดเวลาใช่หรือไม่ 

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวว่า เราทำเต็มที่ และต้องรายงานตามข้อเท็จจริง ซึ่งเราได้คาดโทษไว้แล้ว เรื่องโรงแรมหรือสถานประกอบการใดๆ ก็ตามที่มีส่วนร่วมในมาตรการควบคุมโรคก็ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ ศบค. ใครไม่ปฏิบัติตาม ถ้าเราได้ไปเห็นอย่างที่ผู้ดำเนินรายการชี้แจงมา ก็คงจะมีการรายงานและมีการดำเนินการ

ผู้ดำเนินรายการถามว่า จากจำนวนพันคน เจอตัวเพียง 40-50 คน ตัวเลขนี้ใกล้เคียงข้อเท็จจริงใช่หรือไม่

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวว่า ใกล้เคียง แต่ตอนนี้เป้าหมายทั้งหมดเรามีที่อยู่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ (2 ธันวาคม) จะเป็นยอดที่ก้าวกระโดด เพราะว่าในส่วนของ ตม. กับ สธ. วันนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ก็จะออกไปในแหล่งท่องเที่ยวและเป็นแหล่งที่อยู่ของคนที่มาจากแอฟริกา ตม. จะไปร่วมกับ สธ. ตัวเลขวันนี้ก็คงจะมีการขยับขึ้นอยู่พอสมควร

ในจำนวนพันกว่าคน เราคิดว่าสามารถช่วยเหลือเรื่องสาธารณสุขและช่วยเรื่องการพิสูจน์ตัวตนได้โดยใช้เวลารวดเร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ทุกวันก็ต้องรายงานกลับมาที่ท่านผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า ได้พบเท่าไร มีผลอย่างไร ทั้งนี้ทางหน่วยเหนือได้สั่งการมา ข้อแรกคือทำอย่างไรก็ได้ที่จะปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคให้เข้มข้นที่สุด เพราะถ้าเกิดเราเข้าไปแล้วไปสัมผัสแล้วดันกลับมาแพร่ต่อ นั่นเป็นความเสียหายใหญ่หลวง เคยมีประสบการณ์จุดนี้ ฉะนั้นก็ต้องกำชับและเดินคู่กับทาง สธ. ไปด้วยกันจนตลอดอย่างมีมาตรการด้วย