Geoffrey Okamoto รองกรรมการผู้จัดการอันดับหนึ่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF แสดงความเห็นกึ่งคำเตือนต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่กำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นตัวจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก โดยระบุชัดว่า รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องพิจารณาคัดเลือกมาตรการที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะปานกลางและระยะยาวต่อไป
สำหรับประเด็นที่ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้มาตรการกระตุ้นก็คือระดับหนี้ และความเปราะบางในภาคการเงิน โดยสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า คำเตือนดังกล่าวสะท้อนความพยายามของ IMF ที่ต้องการจะรักษาสมดุลระหว่างตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก กับคุณภาพการเติบโตของเศรษฐกิจโลกให้เป็นไปอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ แม้ IMF จะชื่นชมความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เพื่อหวังให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงเศรษฐกิจโลกสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ IMF ก็ยังไม่วายออกมาเตือนถึงความเสี่ยงของมาตรการดังกล่าวที่จะคุกคามโครงสร้างเศรษฐกิจโลกในระยะยาว
Okamoto กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นประโยชน์แน่นอนอย่างไร้ข้อกังขา และประเทศต่างๆ มีสิทธิ์ใช้เงินงบประมาณในการจัดการประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศ จนกว่าที่พลเมืองทุกคนจะสามารถกลับมายืนในช่วงที่เศรษฐกิจเปิดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน เมื่อถามว่ามาตรการที่ใช้กันอยู่ของธนาคารกลางในปัจจุบันเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเก็งกำไรมากเกินไปใช่หรือไม่ Okamoto ตอบว่า นโยบายการเงินการคลังที่ผ่อนคลายนี้ หากใช้ไปนานๆ จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาคการเงินอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และรายงานเสถียรภาพการเงินโลก หรือ Global Financial Stability Report ก็ระบุชัดว่ารัฐบาลจำเป็นต้องคำนึงถึงความเสี่ยงดังกล่าวด้วย
คำเตือนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทาง IMF เพิ่งจะออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ว่าจะอยู่ที่ 6% โดยเป็นอานิสงส์จากการฉีดวัคซีน และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนานาประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: