×

สรุป! รายงาน IMF ปรับขึ้นคาดการณ์ GDP โลกเป็น 3.1% เตือนรัฐบาลเร่งหันกลับมารักษาวินัยการคลัง รองรับความไม่แน่นอน

31.01.2024
  • LOADING...

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 มกราคม) โดยได้มีการปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกประจำปี 2024 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ 2.9% มาอยู่ที่ 3.1% โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของจีน

 

พร้อมทั้งประเมินว่า โมเมนตัมการขยายตัวจะต่อเนื่องไปถึงในปีหน้า โดยคาดว่า GDP โลกจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.2% ในปี 2025

 

โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีการขยายตัว 2.1% ในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.5%  ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะมีการขยายตัว 4.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.2% ส่วนยูโรโซนและญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะขยายตัว 0.9% ในปีนี้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์สำหรับปี 2024-2025 นั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ระหว่างปี 2000-2019 (พ.ศ. 2543-2562) ที่ 3.8% ท่ามกลางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การถอนการสนับสนุนทางการเงินของรัฐบาล ท่ามกลางหนี้ที่สูงที่จะส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และผลผลิตพื้นฐานต่ำ

 

IMF มอง โลกมีโอกาส Soft Landing

 

IMF ยังระบุว่า เศรษฐกิจโลกอยู่บนเส้นทางไปสู่ Soft Landing ขณะที่แนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะ Hard Landing (หรือเศรษฐกิจหดตัวลงหลังมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง) เริ่มลด ‘น้อยลง’ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ต้องเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง

 

อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

 

IMF ยังได้เปิดเผยการประมาณการณ์เงินเฟ้อโดยรวม โดยระบุว่า  การใช้นโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางต่างๆ ได้ทำให้เงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าคาดในภูมิภาคส่วนใหญ่

 

ปิแอร์-โอลิเวียร์ กูรินชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวว่า การคาดการณ์ในขณะนี้คือ ธนาคารกลางจะรอเพื่อให้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม โดยจะทำการตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ และคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

 

โดยในปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ในภูมิภาคส่วนใหญ่ ท่ามกลางปัญหาด้านอุปทานที่คลี่คลายและนโยบายการเงินที่เข้มงวด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั่วโลกคาดว่าจะลดลงเหลือ 5.8% ในปี 2024 นี้ และลดลงอีกในปี 2027 เหลือ 4.4% 

 

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในระยะสั้นของรัฐบาลนานาประเทศขณะนี้ คือการจัดการอัตราเงินเฟ้อให้บรรลุเป้าหมาย พร้อมๆ กับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อที่ซ่อนอยู่

 

เตือนรัฐบาลทั่วโลกเร่งหันกลับมารักษาวินัยการคลัง

 

ขณะเดียวกัน IMF ยังแนะให้มีการปรับปรุงนโยบายด้านการคลังเพื่อสร้างขีดความสามารถด้านงบประมาณขึ้นใหม่ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และเพิ่มรายได้สำหรับลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายใหม่ นอกจากนี้ การควบคุมระดับหนี้สาธารณะยังคงเป็นสิ่งที่จะเป็น 

 

ยิ่งไปกว่านั้น IMF แนะว่า การปฏิรูปโครงสร้างที่กำหนดเป้าหมายชัดเจนและจัดลำดับความสำคัญอย่างรอบคอบจะช่วยเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ความร่วมมือระหว่างประเทศถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะช่วยยกระดับรายได้ของประเทศให้สูงขึ้น ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาหนี้ และสร้างพื้นที่สำหรับการลงทุนที่จำเป็น ตลอดจนบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

มองบวกคาดเศรษฐกิจไทยโต 4.4% ในปีนี้

 

ในส่วนของการเติบโตของประเทศไทย รายงานของ IMF ระบุว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเสียโมเมนตัมของการฟื้นตัว ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง โดยในปี 2022 กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยสามารถขยายตัวได้ 2.6% ก่อนที่จะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง 1.9% ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2023 เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับอุปสรรคจากอุปสงค์ภายนอกที่อ่อนแอและการลงทุนในประเทศที่ชะลอตัวลง ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวลดลง แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกจากตัวเลขการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็วจนช่วยหนุนให้การบริโภคภาคเอกชนแข็งแกร่งมากขึ้น 

 

โดย IMF คาดว่าการฟื้นตัวของไทยในปีที่ผ่านมาจะยังคงน่ากังวลก่อนจะเร่งตัวขึ้นในปี 2024 นี้ โดยคาดว่า GDP ที่แท้จริงของไทยจะสามารถเติบโต 2.5% ในปี 2023 โดยได้แรงหนุนจากการเร่งส่งออกบริการ และการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 4 ปีแล้ว พร้อมทั้งประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3% ในปีนี้

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising