×

‘น้ำมันไฮดรอลิก’ กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจากยุคอุตสาหกรรมตั้งไข่ถึงยุค Go Green

โดย THE STANDARD TEAM
15.09.2023
  • LOADING...

‘เครื่องจักร’ มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเครื่องจักรระบบไฮดรอลิกที่ถูกใช้ในแทบทุกอุตสาหกรรม ซึ่งการใช้ระบบไฮดรอลิกครั้งแรกนั้นสามารถย้อนไปได้ไกลกว่า 4,000 ปีก่อนเลยทีเดียว

 

ความพิเศษของเครื่องจักรระบบไฮดรอลิกคือให้กำลังสูงเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ ภายหลังจึงถูกนำมาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งเครื่องจักรแบบที่ติดตั้งอยู่กับที่และเครื่องจักรกลเคลื่อนที่

 

แต่ถ้าหากเปรียบเครื่องจักรไฮดรอลิกเป็นสมอง สิ่งที่เป็นหัวใจสำหรับการทำงานของเครื่องจักรประเภทนี้ก็คือ ‘น้ำมันไฮดรอลิก’

 

รู้จักเครื่องจักรไฮดรอลิก

 

ไฮดรอลิก (Hydraulic) เป็นคำซึ่งมาจากรากศัพท์ภาษากรีก 2 คำ คือ Hydro ที่หมายถึงน้ำ และ Aulis ซึ่งหมายถึงท่อ ดังนั้นระบบไฮดรอลิกก็คือระบบที่ใช้น้ำส่งกำลัง จนกระทั่งเวลาต่อมามีการค้นพบว่า ‘น้ำมัน’ เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากไม่มีการกัดกร่อน ช่วยในการหล่อลื่นได้ดี และยังทนอุณหภูมิได้สูงกว่า ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ปัจจุบันระบบไฮดรอลิกส่วนใหญ่จึงนิยมใช้น้ำมันเป็นตัวกลางในการส่งถ่ายกำลังจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งของระบบ

 

แต่นอกเหนือจากการเป็นสื่อหรือตัวกลางที่ใช้ในการส่งถ่ายกำลัง น้ำมันไฮดรอลิกยังมีหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นและลดแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ หรือทำหน้าที่เป็นซีลป้องกันการรั่วซึมภายในอุปกรณ์ให้เกิดน้อยที่สุดเมื่อมีความดันเกิดขึ้น ตลอดจนช่วยลดการสึกหรอของเครื่องจักร และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

 

น้ำมันไฮดรอลิก หัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ

 

ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา เศรษฐกิจไทยเริ่มเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจที่อิงอยู่กับภาคเกษตรกรรมเข้าสู่เศรษฐกิจที่วางอยู่บนฐานการผลิตแบบอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้นขึ้น จากการที่บรรษัทข้ามชาติย้ายฐานการผลิตเข้ามาตั้งโรงงานในไทยเพื่อใช้ประโยชน์จากค่าเงินที่อ่อน และสิทธิพิเศษด้านการส่งออกไปยังตลาดในประเทศพัฒนาแล้ว

 

ในระหว่างเครื่องจักรทุกตัวเดินเครื่องเพื่อเร่งกำลังการผลิต PTT Lubricants ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไฮดรอลิก

 

จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่ PTT Lubricants ยืนเคียงข้างภาคอุตสาหกรรมไทย คอยเติมความลื่นไหลของเครื่องจักรที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศให้ทำงานได้เต็มกำลัง ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

โดย PTT Lubricants มีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ใช้งบประมาณกว่า 1,400 ล้านบาท ในการสร้างสถาบันวิจัยและเทคโนโลยีระดับสากลแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีขีดความสามารถสูงในสาขาปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ทั้งยังอัดแน่นด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมากมายในการร่วมคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี มีประสิทธิภาพสูง และสามารถแข่งขันในตลาดได้

 

น้ำมันไฮดรอลิกรักษ์โลกที่มาก่อนกาล

 

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ PTT Lubricants ที่มีที่มาน่าสนใจและสอดรับกับกระแสโลกในยุคปัจจุบันคือ HYDRAULIC BIOSYN น้ำมันไฮดรอลิกเกรดสังเคราะห์ที่สามารถย่อยสลายได้เองในธรรมชาติมากกว่า 60% ใช้ได้ทั้งในงานก่อสร้าง การทำเหมือง การเกษตร และอุปกรณ์บนเรือเดินสมุทร (Marine Applications) ที่มักมีน้ำมันรั่วไหลอยู่เป็นประจำ

 

แต่เนื่องจาก HYDRAULIC BIOSYN มีราคาสูง และในปี 2016 ที่วางจำหน่าย ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่ถูกระบุเป็นวาระสำคัญ HYDRAULIC BIOSYN จึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก

 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันหลายประเทศมีกฎระเบียบให้บางภาคอุตสาหกรรมต้องใช้ผลิตภัณฑ์ Environmentally Acceptable Lubricants (EAL) หรือน้ำมันหล่อลื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีข้อบังคับว่าน้ำมันหรือน้ำมันหล่อลื่นใดๆ ก็ตามที่ใช้สำหรับเดินเรือในน่านน้ำสหรัฐฯ จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ EAL ไม่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการสะสมทางชีวภาพ และสามารถย่อยสลายได้เอง

 

ทางด้านสหภาพยุโรปก็มี Ecolabel for Lubricants (EEL) หรือฉลากที่ให้การรับรองว่าผลิตภัณฑ์
น้ำมันหล่อลื่นใดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีข้อกำหนดที่สำคัญ 8 ประการ และครอบคลุมไปจนถึงด้านบรรจุภัณฑ์ การให้คำแนะนำผู้บริโภค ตลอดจนต้องมีส่วนประกอบที่นำกลับไปใช้ใหม่ได้ ฉลาก EEL จึงได้รับการยอมรับมากที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม EAL

 

ไม่เพียงเฉพาะกฎระเบียบข้อบังคับจากภาครัฐเท่านั้นที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องหันมาปรับการดำเนินงานให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ความตื่นตัวของภาคประชาชนเองก็เป็นแรงผลักดันสำคัญ เพราะฉะนั้นจึงคาดการณ์กันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ การพัฒนาและความต้องการน้ำมันไฮดรอลิกสูตรเป็นมิตรต่อโลกจะขยายตัวมากขึ้น

 

เส้นทางน้ำมันไฮดรอลิกของ PTT Lubricants

 

การเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิกในแง่หนึ่งก็เปรียบเหมือนเลือกคนรู้ใจ เพราะเครื่องจักรแต่ละชนิดใช้น้ำมันไฮดรอลิกแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น บางเครื่องจักรอาจต้องการความหนืดสูง แต่อีกเครื่องควรเน้นป้องกันการสึกหรอ ดังนั้นหากเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิกไม่เหมาะสม เครื่องจักรก็จะค่อยๆ เสื่อมอายุการใช้งานและพังลงในที่สุด

 

ปัจจุบัน PTT Lubricants มีผลิตภัณฑ์น้ำมันไฮดรอลิกออกมาแล้ว 5 รุ่น คือ HLP, HYDRAULIC, HYDRAULIC HVI, HYDRAULIC BIOSYN และ HYDRAULIC LONG LIFE ซึ่งทุกรุ่นต่างมีคุณสมบัติเฉพาะที่ตอบทุกโจทย์การใช้งาน

 

ยกตัวอย่างรุ่นล่าสุดอย่าง HYDRAULIC LONG LIFE ที่มีความโดดเด่นเรื่องผสมสารป้องกันการสึกหรอคุณภาพพรีเมียม เหมาะสำหรับอุปกรณ์ไฮดรอลิกรุ่นใหม่ที่ทำงานหนักต่อเนื่อง เพราะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถยืดอายุการใช้งานได้สูงสุดถึง 3,500 ชั่วโมง หรือสูงกว่าน้ำมันไฮดรอลิกอุตสาหกรรมทั่วไปถึง 50% (อ้างอิงผลการทดสอบจาก ASTM D2272: Rotating Pressure Vessel Oxidation Test, RPVOT)

 

ส่วน HYDRAULIC HVI ก็มีที่มาจากความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมว่าอยากได้น้ำมันไฮดรอลิกที่มีค่าดัชนีความหนืดสูง สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพทั้งในสภาวะอุณหภูมิสูง ร้อนจัด เย็นจัด หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องเครื่องจักรได้ดีแม้จะใช้งานหนักด้วย

 

แต่รุ่นขึ้นแท่นเป็นตำนานต้องยกให้ HLP ผลิตภัณฑ์น้ำมันไฮดรอลิกตัวแรกของ PTT Lubricants ที่แม้จะวางจำหน่ายมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ เพราะเป็นน้ำมันไฮดรอลิกเกรดมาตรฐานที่ทนความร้อนได้ มีความสามารถในการแยกกับน้ำได้ดี ทั้งยังผสมผสานสารป้องกันการสึกหรอ ช่วยปกป้องอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องจักรให้คงประสิทธิภาพการใช้งานได้ยาวนาน ด้วยคุณสมบัติครบครันแต่มีราคาไม่สูง HLP จึงได้ความนิยมมากใน ‘ภาคเกษตรกรรม’ ที่เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย

 

แม้ภาคเกษตรกรรมจะมีสัดส่วนแค่ 8.5% ของ GDP ทั้งประเทศ แต่มีประชากรอยู่ในภาคเกษตรกรรมมากถึง 25 ล้านคน หรือคิดเป็น 40% ของประชากรทั้งหมด และในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีมูลค่ากว่า 1.39 ล้านล้านบาทต่อปี

 

ภาคเกษตรกรรมจึงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อยไปกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่น และการดูแลเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ยาวนาน ในแง่หนึ่งก็ถือเป็นกลไกสำคัญที่ให้ช่วยให้เกษตรกรสามารถมีผลผลิตออกมาได้ทันตามฤดูกาล พร้อมต่อการวางขายตามท้องตลาดหรือส่งออกไปต่างประเทศ

 

PTT Lubricants ที่มุ่งมั่นจะตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่เหมาะกับเครื่องจักรทางการเกษตรออกมาต่อเนื่อง และก็สามารถครองใจเกษตรกรไทยได้อยู่หมัด จนภาคเกษตรกรรมเป็นกลุ่มผู้บริโภคอันดับต้นๆ ที่เลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิกของ PTT Lubricants ติดต่อกันหลายปี ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง:


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising