×

โศกนาฏกรรมกับลมหายใจที่สูญหายของเมืองแห่งฮอกกี้น้ำแข็ง

12.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรถบัสชนกับรถพ่วงบนถนนไฮเวย์สาย 35 ในรัฐซัสแคตเชวัน รัฐที่ตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของประเทศแคนาดา อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 คน
  • 10 คนในนั้นคือนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งระดับเยาวชน และอีก 5 คนคือสตาฟฟ์โค้ชที่ดูแลนักกีฬาของทีมฮัมโบลต์ บรองโกส์ (Humboldt Broncos)
  • หลังข่าวความสูญเสียครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เมฆหมอกของความเศร้าได้เข้าปกคลุมทุกพื้นที่หัวใจของชาวแคนาดาโดยฉับพลัน
  • เหตุผลเพราะฮอกกี้น้ำแข็งคือกีฬาประจำชาติของชาวแคนาดา และไม่มีความสูญเสียใดจะเลวร้ายไปกว่าการที่เหล่าเยาวชนซึ่งเป็นดั่งแสงแห่งวันใหม่ของชาติต้องจากไปอย่างไม่มีวันได้กลับมาแบบนี้

“ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าครอบครัวของพวกเขาจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง” คำพูดนี้เป็นคำพูดของ จัสติน ทรูโด ประธานาธิบดีแคนาดา ที่ร่วมแสดงความอาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสชนกับรถพ่วงบนถนนไฮเวย์สาย 35 ในรัฐซัสแคตเชวัน รัฐที่ตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 เม.ย.)

 

อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 คน ที่เหลืออีก 14 คนได้รับบาดเจ็บ โดย 3 คนในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน

 

10 คนในนั้นคือนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งระดับเยาวชน และอีก 5 คนคือสตาฟฟ์โค้ชที่ดูแลนักกีฬาของทีมฮัมโบลต์ บรองโกส์ (Humboldt Broncos)

 

โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางเพื่อไปแข่งขันในเกมเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศ ที่จะพบกับทีมนิพาวิน ฮอว์กส (Nipawin Hawks)

 

ความสูญเสียครั้งนี้ถือเป็น ‘โศกนาฏกรรม’ ครั้งใหญ่และเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของแคนาดา

 

แน่นอนว่ามันคือวันที่โศกสลดที่สุดของวงการฮอกกี้น้ำแข็งด้วยเช่นกันครับ

 

 

หยดน้ำตาบนธารน้ำแข็ง

หลังข่าวความสูญเสียครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เมฆหมอกของความเศร้าได้เข้าปกคลุมทุกพื้นที่หัวใจของชาวแคนาดาโดยฉับพลัน

 

เหตุผลเพราะฮอกกี้น้ำแข็งคือกีฬาประจำชาติของชาวแคนาดา และไม่มีความสูญเสียใดจะเลวร้ายไปกว่าการที่เหล่าเยาวชนซึ่งเป็นดั่งแสงแห่งวันใหม่ของชาติต้องจากไปอย่างไม่มีวันได้กลับมาแบบนี้

 

พวกเขาเดินทางไปพร้อมกับ ‘ความฝัน’ ไม่มีใครคาดหวังถึง ‘ความตาย’

 

ดาร์เรน ออปป์ ประธานของทีมฮอว์กส คู่แข่งที่ไม่ได้แข่งของพวกเขาเปิดเผยความรู้สึกว่า “มันเป็นอุบัติเหตุที่เลวร้ายมาก พระเจ้าช่วย มันเลวร้ายมากๆ พ่อ แม่ ลุงๆ ของเด็กๆ เฝ้ารอข่าวกันอยู่ว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขาโอเคไหม”

 

การรอคอยนั้นทรมานมากจริงๆ ครับ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือการที่มีการยืนยันผู้เสียชีวิตผิดพลาด 1 คน

 

จากเดิมมีการระบุว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ ซาเวียร์ ลาเบลล์ ผู้เล่นตำแหน่งเกมรับวัย 18 ปี แต่ในภายหลังมีการแก้ไขใหม่เมื่อพบว่าลาเบลล์ยังมีชีวิตอยู่ โดยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในซัสแคตเชวัน

 

เมื่อลาเบลล์ยังมีชีวิตอยู่ นั่นหมายถึงมีคนอื่นเสียชีวิตแทน และคนนั้นคือ ปาร์กเกอร์ โทบิน ผู้เล่นตำแหน่งประตู

 

“สิ่งที่ผมบอกได้คือปาฏิหาริย์มีอยู่จริง” ไอแซก ลาเบลล์ พี่ชายของซาเวียร์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว

 

แต่ในเวลาเดียวกับที่ปาฏิหาริย์ได้นำลาเบลล์กลับคืนมา ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสูญเสียของครอบครัวโทบินที่หัวใจถูกฉีกจนไม่เหลือชิ้นดี

 

เรื่องนี้ทางการชี้แจงว่า เนื่องจากอุบัติเหตุรุนแรงมากจนทำให้แยกผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตได้ยาก ซึ่งทางที่จะพิสูจน์ได้ชัดเจนที่สุดคือประวัติทันตกรรมที่ต้องใช้เวลา และเด็กๆ ส่วนใหญ่มีลักษณะที่คล้ายกันมาก

 

แต่อย่างน้อยที่สุดด้วยความช่วยเหลือที่รวดเร็ว ทำให้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเมืองฮัมโบลต์ขอบคุณนักกู้ภัยทุกคน

 

สิ่งสำคัญหลังจากนี้คือการช่วยกันประกอบหัวใจที่แตกสลายของครอบครัวที่สูญเสียดวงใจของพวกเขาให้กลับมาเป็นรูปเป็นร่างโดยเร็วที่สุด

 

กำลังใจนั้นถูกส่งจากคลื่นหัวใจ ผ่านคลื่นไฟฟ้าให้ครอบครัวเด็กๆ ได้รับรู้ผ่านรูปและข้อความต่างๆ

 

แฮชแท็ก #HumboldtStrong แทนกำลังใจให้แก่พวกเขา

 

ขณะที่ผู้คนในโลกของฮอกกี้น้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเหล่านักกีฬาหรือแฟนๆ ร่วมอาลัยผ่านรูปที่พวกเขาวางสติก หรือไม้ฮอกกี้ พร้อมแฮชแท็ก #PutYourSticksOut

 

ในบรรดาคนเหล่านั้นมีนักกีฬาดังอย่าง เดวิด แบ็กเกส จากทีม Boston Bruins และอดีตผู้เล่น โคลแมน โฟลล์ราธ ใน NHL ด้วย

 

ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ช่วยอะไรมากมายนัก แต่ถ้ามันจะพอช่วยเช็ดน้ำตาให้เหล่าคนที่หัวใจสลาย ให้พวกเขารู้ว่าหัวใจของทุกคนยังอยู่ด้วยกันตรงนี้ นั่นก็มากพอแล้ว

 

 

ลมหายใจที่สูญหายของเมืองแห่งฮอกกี้น้ำแข็ง

อย่างไรก็ดีความสูญเสียของฮัมโบลต์ บรองโกส์ในครั้งนี้เป็นความสูญเสียที่ไม่ง่ายเลยในการฟื้นฟู

 

เมืองแห่งนี้แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรไม่มากเพียง 6,000 คน แต่เป็นเมืองที่เป็นดั่ง​ ‘จิตวิญญาณ’ ของฮอกกี้

 

เด็กคนไหนที่มีความฝันอยากจะเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง เด็กคนนั้นต้องอยากมาที่นี่

 

บรองโกส์อาจจะเป็นทีมระดับเยาวชนขนาดเล็ก แต่พวกเขามีแฟนๆ ท้องถิ่นถึง 5,000 คนที่พร้อมติดตามพวกเขา โดยที่ทีมเองก็มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ใช้สนามแข่งของทีมระดับอาชีพ มีการจ้างโค้ชมาฝึกสอน

 

ทีมยังมีอาสาสมัครชาวเมืองที่พร้อมยื่นมือช่วยเป็นจำนวนมาก เรียกว่าเกือบทั้งหมดของชาวเมืองฮัมโบลต์จะต้องมีส่วนร่วมช่วยทีมของพวกเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสจวร์ต คนทำความสะอาด คนขายตั๋ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ บางครั้งก็มีระดมทุนกันสนับสนุนทีมจนได้เงินใกล้เคียงกับทีมในระดับอาชีพ

 

หากเราเข้าไปในตัวเมือง จะได้เห็นการประดับตกแต่งด้วยเสื้อแข่งสีทอง เขียว และขาว ซึ่งเป็นชุดแข่งของทีมบรองโกส์ในร้านค้า ภัตตาคาร หรือโรงแรม

 

ชาวเมืองบางคนยังติดริบบิ้นสีเขียวเพื่อเป็นการแสดงออกว่าพวกเขาคือบรองโกส์

 

 

เรียกได้ว่าทีมฮอกกี้น้ำแข็งนี้ไม่ต่างอะไรจาก ‘ลมหายใจ’ ของเมืองเลยทีเดียว โดยสิ่งที่พวกเขาทำลงไปนั้นมีเป้าประสงค์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้เด็กๆ ได้ก้าวเดินต่อไปตามความฝันของพวกเขา ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านี้

 

และด้วยความ ‘พิเศษ’​ นี้ ทำให้ฮัมโบลต์ บรองโกส์เป็น ‘ที่หมาย’ ที่เด็กๆ ทั่วแคนาดา ใฝ่ฝัน ซึ่งไม่ใช่แค่ระยะเวลาปีสองปี หากแต่เป็นระยะเวลากว่า 50 ปีแล้วที่ฮัมโบลต์ถูกใช้เป็นจุดเริ่มต้นของความฝัน

 

ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าทีมนี้ได้ เพราะมีการแข่งขันอย่างสูงกว่าที่เด็กสักคนจะได้เข้าทีมบรองโกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมดังของรัฐซัสแคตเชวัน ที่เปรียบดั่ง ‘โรงงาน’ ผลิตยอดนักกีฬาฮอกกี้เข้าไปประดับวงการมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน

 

หนึ่งในนั้นคือ เกล็นน์ ฮอลล์ ผู้เล่นตำแหน่งประตูที่ก้าวจากทีมบรองโกส์ ไปสู่ทีมระดับ NHL และคว้าแชมป์สแตนลีย์ คัพ ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของนักฮอกกี้น้ำแข็งได้ถึง 2 ครั้ง

 

นอกจากเด็กท้องถิ่นแล้ว ยังมีเด็กบางคนที่ตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองแห่งนี้เพื่อค้นหาเส้นทางของตัวเอง ทำให้พวกเขาต้องได้รับการดูแลจากครอบครัวของชาวเมือง ซึ่งยินดีที่จะเปิดทั้งประตูบ้านและประตูหัวใจเพื่อต้อนรับพวกเขา

 

บางครอบครัวมีลูกยังเล็ก แต่เมื่อมีเด็กที่ต้องการ ‘ผู้ปกครอง’ พวกเขาก็ดูแลเป็นอย่างดีเหมือนครอบครัวของตัวเอง

 

“เราเคยดูแลนักกีฬาที่เพิ่งจะอายุ 15 ปี ลองคิดดูว่าเขาเป็นเด็กอายุแค่ 15 ปี แต่พวกเขาจำเป็นต้องมีผู้ปกครองดูแล พวกเราในตอนนั้น (มีลูกเล็กๆ 3 คน) ไม่รู้หรอกว่าจะดูแลวัยรุ่นอย่างไร แต่สุดท้ายมันก็เป็นไปด้วยดี” ชาวเมืองฮัมโบลต์ ครอบครัวหนึ่งกล่าวไว้

 

ดังนั้นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ต่างจากการพรากเอาลมหายใจของชาวเมืองไปด้วย เพราะเด็กๆ พวกนี้คือเด็กๆ ที่พวกเขาเห็นมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ทุกครอบครัวรักและเอ็นดูเด็กๆ พวกนี้นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกัน

 

“พวกเขาเป็นเด็กๆในดวงใจของเรานับตั้งแต่พวกเขาเดินผ่านประตูบ้านเข้ามาแล้ว เราไม่ได้แค่เลี้ยงอาหารและให้ที่อยู่กับพวกเขา แต่เราห่วงใยพวกเขาด้วย”

 

“พวกเรารู้สึกเหมือนหัวใจของเราถูกฉีดจนวิ่น มีถึง 3 คนในชีวิตที่เราจะไม่มีวันได้จับมือ สวมกอด และบอกให้พวกเขาไปลุยในสนามอีกแล้ว”

 

หลังจากนี้ยากที่จะบอกได้ครับว่าเมืองฮัมโบลดต์จะเป็นเช่นไร

 

หัวใจของนักกีฬาในทีมที่แตกสลายกับลมหายใจของชาวเมืองที่รวยริน การจะฟื้นฟูกลับมานั้นต้องใช้กำลังใจอย่างมากมายมหาศาล ที่แน่ๆ บาดแผลนั้นไม่มีวันหายดี เพราะร่องรอยที่มีมันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะลบได้ด้วยคำว่าเวลา แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่ากีฬาเป็นหนึ่งในพลังมหัศจรรย์ของโลกที่จะเยียวยาได้ทุกสิ่ง

 

เราเคยได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของชาเปโคเอนเซ ทีมฟุตบอลของเมืองชาเปโค ในประเทศบราซิลที่คืนชีพกลับมาอีกครั้งหลังโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกจนผู้เล่นเสียชีวิตเกือบยกทีม​

 

หวังว่าสักวันหนึ่ง ฮัมโบลต์ บรองโกส์ จะกลับมา และเข้มแข็งกว่าเดิม…

 

อ้างอิง:

FYI
  • หลังเกิดโศกนาฏกรรม มีการระดมทุนออนไลน์กันเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย ทั้งเด็กๆ นักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ช โดยล่าสุดมีรายงานว่าได้เงินจำนวน 5 ล้านเหรียญแคนาดา หรือราว 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • จัสติน ทรูโด ประธานาธิบดีได้เข้าร่วมพิธีไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตด้วย
  • ชื่อของ เกล็นน์ ฮอลล์ นักกีฬาดังที่เป็นสายเลือดของฮัมโบลต์ บรองโกส์ ถูกนำไปตั้งเป็นชื่อถนน Glenn Hall Drive ในเมืองด้วย
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising