วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจาก เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ในนาม 5 องค์กรภาคประชาชน ขอให้สอบหาข้อเท็จจริงการทุจริตประพฤติมิชอบและหามาตรการป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์
โดยเมธากล่าวว่า ครป. และองค์กรภาคประชาชนทั้ง 5 องค์กรตามรายนามแนบท้าย ได้ติดตามสถานการณ์และปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงขอร้องมายัง กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อสอบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่างชัด โดยขอให้สอบหาข้อเท็จจริงการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในคดีการค้ามนุษย์ ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือมีข้อมูลข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว เพื่อหามาตรการป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป เนื่องจากขบวนการค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และกำลังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของสังคมว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงและบุคคลในรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดี หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อผลประโยชน์ต่างตอบแทนในขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อขยายผลจากคดีที่ค้างอยู่ และคลี่คลายข้อสงสัยของสังคมจากพยานหลักฐานต่างๆ
ขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ตอนนี้ในคณะ กมธ. มีเรื่องที่ต้องพิจารณาเยอะมาก ซึ่งต้องคัดกรองว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องไหนไม่สำคัญ ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในส่วนนี้ด้วย ซึ่งเราต้องคัดเลือกดูว่าเรื่องไหนเป็นปัญหาสำคัญ เรื่องไหนด่วนก็จะรีบทำให้ ส่วนเรื่องที่คณะ ครป. มายื่นในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ก็จะเร่งดำเนินการให้ โดยจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือที่ยื่นมา และอาจจะเชิญมาให้ปากคำและขอข้อเท็จจริงที่มากกว่านี้ เพราะการตรวจสอบต้องใช้ข้อเท็จจริงรวมถึงพยานหลักฐานเพิ่มเติมมากพอสมควร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรื่องนี้ กมธ. กฎหมายฯ ก็รับเรื่องดังกล่าวเข้ามาดำเนินการตรวจสอบด้วย แบบนี้จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ทำงานร่วมกันก็ได้ แต่ต้องดูรายละเอียดว่าเหมือนกันหรือไม่ เพราะมี ส.ส. หลายท่านยังไม่เข้าใจข้อบังคับการประชุม คณะกรรมาธิการมีหลายคณะ แต่ละคณะก็มีหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุม ซึ่งมี ส.ส. หลายท่านไม่รู้หน้าที่ตัวเอง ส่วน กมธ. กฎหมายฯ นั้น เข้ามีหน้าที่ด้านนโยบายด้านกฎหมาย ด้านสิทธิมนุษยชน ไม่ได้มีหน้าที่เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐประพฤติมิชอบ เจ้าหน้าที่ของรัฐประพฤติมิชอบเป็นหน้าที่ของ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดี
“การรับเรื่องร้องทุกข์ถือเป็นเป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ จากกรณีที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและละเมิดกฎหมายขึ้น โดยเฉพาะรัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่นำงบประมาณไปดูแลทหารของตนเอง แทนที่จะนำงบประมาณไปดูแลพี่น้องประชาชน เราต้องช่วยกันให้ผู้มีอำนาจกระทำการอยู่ในกรอบ ดูแลประชาชนเป็นหลัก อย่าใช้อำนาจเลยเถิดบริหารงานอย่างอำเภอใจ ไม่อย่างนั้นก็ต้องมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว
