หากยังจำกันได้ เมื่อปลายปีที่แล้วเริ่มมีกระแสข่าวว่า HP จะย้ายฐานการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหลายล้านเครื่องมายังไทย และส่วนหนึ่งจะไปยังเม็กซิโก ทว่าความร้อนแรงของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งคู่ขัดแย้งอย่างจีนและไต้หวัน และสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ยิ่งทำให้หลายๆ บริษัทเทคมองหาฐานผลิตนอกประเทศจีน โดยล่าสุดมีรายงานข่าวระบุว่า ไทยคือเป้าหมายที่ HP จะกระจายห่วงโซ่อุปทานจากจีนมากกว่า 50%
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานที่เร่งตัวขึ้นจากจีน และนับเป็นการเปลี่ยนแปลงจากจุดยืนที่สนับสนุนการผลิตในจีนมาหลายทศวรรษ หลังจากที่บริษัทและซัพพลายเออร์สร้างเครือข่าย จนในที่สุดก็เปลี่ยนเมืองฉงชิ่ง ซึ่งเป็นเมืองดังในจีนแผ่นดินใหญ่ให้กลายเป็นแหล่งผลิตและส่งออก PC ชั้นนำของโลกมาหลายสิบปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รายงานข่าวระบุว่า HP ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีฐานผลิตใหญ่ในจีน อยู่ระหว่างวางแผนย้ายการผลิตคอมพิวเตอร์มากกว่าครึ่งหนึ่งออกจากจีน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จีนและไต้หวัน
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างหารือกับซัพพลายเออร์ต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายภายใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าจะผลิตคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปมากกว่า 70% นอกประเทศจีน และเวลานี้กำลังมองฐานผลิตใหม่ไปที่ประเทศไทย
โดยแหล่งข่าวอ้างว่า HP กำลังทุ่มเงินลงทุนสร้างศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ในไทย เนื่องจากบริษัทมองว่าโรงงานที่มีอยู่แล้วในประเทศอื่นๆ ในอาเซียนไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ซึ่งในขณะนี้ HP มีซัพพลายเออร์ 5 ราย ที่กำลังตั้งโรงงานผลิตหรือคลังสินค้าแห่งใหม่ในไทย โดย 2 รายกำลังเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น
นอกจากย้ายสายการผลิตมายังไทยแล้วก็อยู่ระหว่างสร้างทีมสำรองในสิงคโปร์ เพื่อแทนศูนย์ออกแบบในไต้หวัน ซึ่งจะทำหน้าที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดการห่วงโซ่อุปทาน มีรายงานว่า HP จะจ้างพนักงานด้านวิศวกรรม ผู้เชี่ยวชาญห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงวิศวกรไฟฟ้าและวิศวกรเครื่องกลจากสิงคโปร์อีกประมาณ 200 คน
สำหรับ HP มียอดจำหน่าย PC ประมาณ 52 ล้านเครื่อง และกลายเป็นผู้จำหน่าย PC รายใหญ่อันดับ 2 รองจาก Lenovo โดย HP พึ่งพาจีนในด้านการผลิตมาอย่างยาวนาน และพัฒนาเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่งในจีน
แหล่งข่าวระบุอีกว่า ผู้บริหารระดับสูงของ HP หลายคนแสดงความกังวลถึงซัพพลายเออร์ในจีน ซึ่งอยู่ท่ามกลางสงครามการค้า ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้นทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ รวมถึงการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง
นอกจาก HP แล้ว ยังมีบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมถึง Dell, Apple และ Microsoft ก็ได้กระจายห่วงโซ่อุปทานจากจีนเพื่อกระจายความเสี่ยง และเริ่มย้ายการผลิต PC บางส่วนไปยังอาเซียนแล้ว
Jiu Zifang นักวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจไต้หวัน วิเคราะห์ว่า ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปีนี้มีความยืดหยุ่นอย่างมาก โดยสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน และเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานเป็นเวลาหลายเดือน เป็นประเด็นร้อนที่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ต่างเฝ้าจับตาดูแนวโน้มที่อาจเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกด้วย
“เพราะหากสหรัฐฯ ยกระดับการคุมเข้มการส่งออกชิปขั้นสูงไปยังจีนมากยิ่งขึ้น ความเสี่ยงในการผลิตหรือประกอบ PC ที่รองรับระบบ AI ก็ยิ่งมีความเสี่ยง ดังนั้น การเร่งเปลี่ยนฐานการผลิต PC จากจีน เพื่อลดความเสี่ยงจากกฎควบคุมส่งออกของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ และอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้หลายบริษัทเร่งพิจารณาการกระจายฐานผลิตอย่างรอบคอบ”
อ้างอิง:
- https://asia.nikkei.com/Spotlight/Supply-Chain/HP-plans-its-most-aggressive-shift-of-production-away-from-China?utm_campaign=IC_one_time_free&utm_medium=email&utm_source=NA_newsletter&utm_content=article_link&del_type=3&pub_date=20240807120000&seq_num=3&si=ac4026d2-34e2-42d5-bf01-b87128adc5af
- https://asia.nikkei.com/Spotlight/Supply-Chain/HP-to-move-production-of-millions-of-PCs-to-Thailand-Mexico