Q: เพิ่งเฟลเรื่องงานมาค่ะ เสียใจมาก เราว่าเราทำดีแล้ว แต่ก็ยังดีไม่พอ ตอนนี้เศร้ามากค่ะ อยากจะด่าตัวเองที่ทำไม่ดี เกลียดตัวเองชะมัดเลยค่ะ ทำอย่างไรถึงจะผ่านความรู้สึกแบบนี้ไปได้คะ
A: เห็นน้องถามว่า ทำอย่างไรถึงจะผ่านความรู้สึกแบบนี้ไปได้ พี่เลยขอสปอยล์ตอนจบให้น้องเลยก็ได้ว่า สิ่งที่น้องรู้สึกอยู่นี้ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปอยู่ดี ทั้งเรื่องดีหรือร้าย ดีใจหรือผิดหวัง สุดท้ายมันก็จะผ่านไปอยู่ดี มันมีวันหมดอายุครับ
สปอยล์ตอนจบแบบนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นไหมครับว่า เดี๋ยวน้องจะกลับมารู้สึกดีเป็นปกติแน่นอน ไม่ต้องไปคิดไปเค้นว่าทำอย่างไรถึงจะผ่านไปได้ เพราะสุดท้ายทุกความรู้สึกมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป มันอยู่เท่าที่เรายอมให้มันอยู่ และจะหายไปเมื่อเรายอมปล่อยให้มันหายไปจากเราเอง แต่ตอนนี้ที่ยังรู้สึกอยู่ก็เพราะเรายังถือมันไว้อยู่
ตอบไม่ได้ว่าจะผ่านไปได้เร็วหรือช้าแค่ไหน เพราะแต่ละคนคงมีระบบเยียวยาหัวใจที่ต่างกันตามแต่สติ วุฒิภาวะ ประสบการณ์ หรือสิ่งที่เข้ามากระทบจิตใจของเรา แต่นั่นแหละครับ สุดท้ายมันจะผ่านไป
ตอนนี้เราเสียใจแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปซ้ำเติมตัวเองเพิ่มด้วยการโกรธตัวเอง ว่าตัวเอง พี่คิดว่าตอนนี้ตัวน้องต้องการกำลังใจมากที่สุด น้องให้กำลังใจตัวเองหน่อยดีไหมครับ โอ๋ตัวเองบ้าง
มีคำหนึ่งที่พี่ชอบมาก ได้มาจากเพื่อนของพี่เองในวันที่พี่รู้สึกผิดหวังตัวเองที่ทำงานพลาด เพื่อนของพี่พูดมาคำหนึ่งว่า “ทำพลาดไปแล้ว แล้วให้อภัยตัวเองได้ไหม” พี่ฟังแล้วใช่เลย เวลาเราผิดหวังกับตัวเอง ข้างในเราจะต่อว่าตัวเองอยู่แล้ว ทำไมทำได้ไม่ดี ทำไมทำไม่ได้ เรานี่มันแย่จัง แต่เราต้องให้อภัยตัวเองด้วยว่า เราก็ผิดพลาดได้ ไม่โกรธตัวเอง และให้โอกาสตัวเองได้เริ่มใหม่ ถ้าไม่ให้อภัยตัวเองก่อน เราก็จะวนเวียนอยู่กับความรู้สึกว่าทำพลาดแล้วคือทำผิด ให้อภัยตัวเองก่อนเลย อย่าไปด่าทอตัวเองมาก เจ็บเยอะแล้ว อย่าไปกระทืบตัวเองซ้ำ นี่คือเวลาที่เราต้องกอดตัวเราเอง
พี่อยากบอกน้องว่า น้องมีสิทธิ์ที่จะรู้สึกผิดหวัง เสียใจได้ อย่างที่น้องรู้สึก ไม่ใช่เรื่องผิดบาปเลยที่เราจะรู้สึกผิดหวัง ไม่ต้องไปข่ม ไม่ต้องไปรู้สึกว่าทำไมฉันอ่อนแอ ปล่อยให้ความผิดหวังทำงานของมันก่อน พอมันทำงานของมันเสร็จแล้ว เราจะรู้สึกดีขึ้น
เคยดูหนังแอนิเมชันเรื่อง Inside Out ไหมครับ หนังเล่าว่า เราทุกคนมีหลากหลายอารมณ์ แต่ละอารมณ์มีหน้าที่ของมัน สุขอย่างเดียวไม่ได้ โกรธอย่างเดียวก็ไม่ดี ตื่นเต้นตลอดก็เหนื่อย เศร้าตลอดก็ไม่ไหว ทุกคนต้องการทุกอารมณ์ในตัวเอง และทุกอารมณ์มีประโยชน์หมด เมื่อมันถูกใช้ในเวลาที่ควร
เมื่อมันมีประโยชน์หมด ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้ความผิดหวังเป็นประโยชน์ที่สุดจากคำถามเหล่านี้ครับ
ทำไมเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นกับเรา
หาสาเหตุให้เจอก่อนว่า รอยรั่วเกิดจากตรงไหน ที่สำคัญคือ เรามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าคิดแค่ว่า เราซวยจัง เพราะถ้าเป็นเรื่องโชคชะตา เราคงควบคุมไม่ได้ แต่เรากลับมาหาสิ่งที่เราควบคุมได้ดีกว่า
เรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
เราต้องประเมินความรุนแรงของปัญหา ไม่ใช่แค่ประเมินทางความรู้สึกของตัวเราอย่างเดียวนะครับ แต่มองให้เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อใครบ้าง และกระทบอย่างไร อันนี้เอาไว้ให้เราทำความเข้าใจว่าเราต้องจริงจังกับปัญหานี้แค่ไหน
เราจะป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดได้อย่างไรบ้าง
เรารู้แล้วว่าสาเหตุของปัญหาคืออะไร ทีนี้ลองดูว่าจะไม่ให้สาเหตุของปัญหาเกิดขึ้นได้ เราต้องจัดการอะไรบ้างไฟจะได้ไม่ไหม้ อะไรบ้างที่ถ้าเราทำแล้วจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน หรือถ้าไม่ทำสิ่งนี้ ปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน ไปจนถึงเรามองออกไหมว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อมันเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว เรารู้วิธีจัดการกับมันหรือยัง เหมือนรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรมันต้องเกิดขึ้น เราทำให้มันไม่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเลยได้ไหม เราสามารถควบคุมหรือไปลดความรุนแรงของปัญหาที่เกิดได้ไหม ถ้าเราหาเจอ เวลาทำงานครั้งต่อไป เราสามารถใส่เรื่องพวกนี้ไว้ตั้งแต่ต้น ก่อนที่จะมีปัญหาได้เลย หรือหาคนที่มาจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะได้
เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
คำถามนี้สำคัญมาก เพราะบทเรียนที่สำคัญกับชีวิตเรามักมาพร้อมกับความผิดหวังและความผิดพลาด มันอาจจะเป็นบทเรียนที่มาในสถานการณ์โหดๆ หน่อย แต่มันทำให้เราจำได้ดีเลยล่ะครับ แต่มันจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเราไม่เรียนรู้
ถ้าสำเร็จทุกครั้ง สมหวังทุกคราว แบบนี้น่ากลัวมากครับ เพราะจะไม่มีภูมิต้านทานชีวิต ทักษะการรับมือกับความผิดหวังเป็นสิ่งที่เราต้องมีครับ เพราะคนที่รู้สึกกับมันได้มากที่สุดเวลาผิดหวังคือตัวเราเอง ใครก็ช่วยเราได้ไม่เท่าเราช่วยพยุงตัวเอง อย่างที่บอกครับว่าเรื่องนี้เป็นทักษะ แปลว่ามันฝึกกันได้ และจะฝึกได้ดีถ้าเราเจอความผิดหวังบ่อยๆ จนเราเข้าใจว่าจะรับมือกับมันอย่างไร
พี่ว่ามันดีนะครับ เวลาที่เราผิดหวังแล้วเราได้รู้จักตัวเองมากขึ้นไปด้วย อ๋อ…เวลาเราเสียใจ เราเป็นแบบนี้ เวลาเราผิดหวัง เราคิดแบบนี้ เราดิ่งแบบนี้ ฯลฯ พอเข้าใจตัวเองแล้ว เราจะรู้ว่าจะจัดการตัวเองอย่างไรในครั้งต่อไป
พี่จำไม่ได้แล้วว่าผิดหวังและผิดพลาดเรื่องงานมากี่ครั้ง ทุกครั้งพี่ก็เสียใจ เศร้า ไม่ต่างจากที่น้องและทุกคนรู้สึก จนพี่เริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่า เวลาพี่เศร้า พี่มีเวลาที่ตัวเองจะเศร้าอยู่นานแค่ไหน แล้วพี่ให้เวลาตัวเองได้ผิดหวังเสียใจในช่วงเวลานั้น ระหว่างที่ปล่อยให้ความเสียใจทำงาน พี่จะยังไม่มานั่งคิดทบทวนจริงๆ จังๆ ว่ามันเกิดจากอะไร หรือได้เรียนรู้อะไรบ้าง ให้ตัวเองผิดหวังเสียใจได้เต็มที่ก่อน แล้วระหว่างที่เราเสียใจนั่นแหละครับ พี่จะค่อยๆ ได้คำตอบจากคำถามที่พี่ยกมาตอนต้น พอผ่านช่วงที่เสียใจไปแล้ว พี่จะมาทบทวนอย่างจริงจังว่า ทำไมปัญหาถึงเกิด ปัญหารุนแรงแค่ไหน เราจะป้องกันได้อย่างไร และเราเรียนรู้อะไรบ้าง ได้คำตอบแล้วก้าวต่อไป ลุย!
กับอีกสิ่งที่ช่วยพี่ได้คือ ถ้าทำอะไรมาแล้วพลาด พี่จะคั่นเวลาด้วยการไปทำกิจกรรมบางอย่างที่พี่มั่นใจว่าพี่ทำได้ดี อันที่เราทำแล้วอยู่มือ แล้วทำสิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น หรือทำให้คนอื่นมีความสุข แล้วพอเราเห็นว่าตัวเราทำได้ หรือเราทำแล้วคนอื่นมีความสุข ความรู้สึกเฟลกับตัวเองที่พี่เคยมีมันก็จะค่อยๆ หายไปจนไม่รู้สึก เพราะพี่มีความภูมิใจเรื่องใหม่เกิดขึ้นแล้ว เราจะเห็นว่า เราไม่ได้ห่วยนี่หว่า เรื่องที่มันเวิร์กก็มีอยู่ มันไม่ได้เลวร้ายทุกเรื่อง และพอเห็นคนอื่นมีความสุข พี่ก็มีความสุขไปด้วย
ต่อไปเวลาที่น้องมีความสุข ได้รับคำชมจากใครก็ตาม ลองบันทึกคำชมนั้นไว้ เวลาที่รู้สึกผิดหวัง เอากลับมาดูอีกครั้ง น้องจะรู้สึกว่า เราไม่ได้ห่วย เราทำให้คนอื่นมีความสุข เรามีคุณค่า
มองความผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิด ปล่อยให้ตัวเองเศร้าได้เท่าที่จำเป็น ให้อภัยตัวเอง แล้วทบทวนบทเรียนที่มาพร้อมกับความผิดหวัง และชาร์จพลังด้วยการออกไปทำให้คนอื่นมีความสุข
มารับพลังบวกจากพี่ แล้วให้เวลาตัวเองฟื้นขึ้นใหม่นะครับ
ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์มาที่ Facebook: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ (Facebook.com/Toffybradshawwriter)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล