การทำเงินแบบรวดเร็วและไม่เหนื่อยใจได้ดึงดูดคนหนุ่มสาวให้ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเสมอ ซึ่งสำหรับคน Gen Z แล้ว สิ่งที่ว่าคือ Cryptocurrency และ NFT
Generation Z คือกลุ่มอายุที่เกิดระหว่างกลางปี 1990 ถึงต้นทศวรรษ 2000 พวกเขาเติบโตขึ้นมาในโลกออนไลน์ เล่นเกม และพบปะเพื่อนฝูง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเรื่องปกติ
Cryptocurrency เป็นสกุลเงินดิจิทัลและโทเคนที่ไม่ผลิตใหม่ หรือ NFT เป็นวิธีในการเป็นเจ้าของภาพดิจิทัลซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘คำตอบ’ สำหรับของสะสมดิจิทัล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผลวิจัยใหม่ Gen Z และ Millennials ยอม ‘ลาออก’ หรือ ‘ว่างงาน’ ถ้าต้องทำงานในบริษัทที่ ‘ไม่มีความสุข’
- ผลสำรวจชี้ มีเพียง 38% ของ Gen Z เท่านั้น ที่คิดว่าจักรวาลนฤมิต (Metaverse) จะมาในทศวรรษหน้า
- แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป เผยผลสำรวจพฤติกรรม Gen Z ของไทย พบเป็น ‘นักแสวงหาความเท่’ มองหาสิ่งน่าสนใจใหม่ๆ ตลอดเวลา
“เพื่อนผมล้วนพูดเกี่ยวกับคริปโต ดังนั้นวันหนึ่งผมจึงตัดสินใจว่า ‘Why Not’ และลองเข้าไปทำเงินจากมันดู” แพ็กซ์ตัน ซี โทว์ ในวัย 20 ปี กล่าวกับ BBC
ทั้งหมดที่ต้องมีคือ สมาร์ทโฟนของเขาและการซื้อ-ขายหลายพันดอลลาร์ก็สามารถทำได้เพียงคลิกเดียว
โดยเมื่อ 1 ปีที่แล้ว แพ็กซ์ตันซื้อ Bitcoin มูลค่ารวม ณ ตอนนั้นที่ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งทำให้เขามีกำไร 10% ทันที และตัดสินใจเพิ่มมูลค่าพอร์ตของเขาเป็น 4 เท่า หากแต่ราคาก็ลดลง
“มีคำกล่าวที่ว่า ‘ซื้อถูก ขายแพง’ อยู่เสมอ แต่ผมกลับทำตรงกันข้าม ผมปล่อยให้อารมณ์พาไป” เขากล่าว โดยเขาได้สูญเสียเงินไป 1,000 พันดอลลาร์ นอกเหนือจากเงินทั้งหมดที่เขาลงทุนไป ก่อนจะดึงเงินออกมาและวางกลยุทธ์ใหม่
สำหรับเทรดเดอร์ที่มีอายุมากกว่า เคลวิน คอง การสูญเสียนั้นยิ่งใหญ่กว่ามาก เขาได้ลงทุนเป็นตัวเลขกว่า 6 หลักในปี 2016 และเขาสูญเสียมากกว่าครึ่งล้านดอลลาร์ในปีต่อไป
“ผมสูญเสียทุกอย่าง” เขากล่าว “ผมคิดว่าผมเป็นราชาแห่งการค้าขาย ดังนั้นผมคิดว่าไม่มีอะไรจะฉุดรั้งผมไว้ได้ และผมก็ซื้อต่อไป” ในท้ายที่สุดเขาเหลือเงินเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์ในบัญชีธนาคารของเขา ซึ่งทำให้เขาเกือบจะเป็นโรคซึมเศร้าและมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
กระนั้นเรื่องราวเตือนใจของนักเทรดที่สูญเสียเงินจำนวนมหาศาลไม่สามารถห้ามนักลงทุนรายใหม่ได้
สำหรับหลายๆ คน สิ่งแรกที่ได้ลิ้มลองจากสินทรัพย์ดิจิทัลนั่นคือ เกม Play-to-Earn หรือเกมที่เล่นเพื่อหารายได้ซึ่งให้รางวัลแก่ผู้เล่นเป็น NFT และเหรียญคริปโตที่สามารถใช้ภายในเกมหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดข้างนอกได้
“เด็กทุกคนต้องการหาเงินจากเกม” นักเทรดวัย 23 ปีจากมาเลเซียที่มีนามแฝงว่า ‘YellowPanther’ กล่าว “นั่นเป็นความฝันของคนรุ่นผม”
หนึ่งเดือนหลังจากเริ่มเทรด NFT เมื่อเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อหันมาเทรด NFT แบบเต็มเวลา โดยมองว่า “งานประจำใช้เวลานานเมื่อเทียบกับค่าตอบแทนอันน้อยนิด และผมเห็นโอกาสอันใหญ่หลวงในพื้นที่ NFT ผมจึงก้าวออกไปด้วยศรัทธา”
ขณะนี้ YellowPanther กำลังทำงานร่วมกับ เรช ชันดร์รัน ในวัย 29 ปี ซึ่งเป็นผู้สอนเกี่ยวกับหุ้นทั่วไป NFT และคริปโตในประเทศสิงคโปร์ แต่เขาเตือนว่า ในนี้เป็น ‘พื้นที่ดิบเถื่อน’
การระบาดครั้งใหญ่ส่งผลให้การเติบโตของเทรนด์ NFT และคริปโตในหมู่วัยรุ่นเร็วขึ้น โดย ลิลลี แฟง ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากโรงเรียนธุรกิจ INSEAD กล่าวว่า “มีระดับความผันผวนที่รุนแรงมาก ดังนั้นเมื่อคุณมีความผันผวน คุณก็มีโอกาสในตลาดเช่นกัน
“คนหนุ่มสาวหลายคนอยู่แต่บ้าน และเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้เงื่อนไขสมบูรณ์และเกิดการเติบโตแบบปะทุ”
สำหรับนักเทรดมือใหม่ทั้งหลาย คำแนะนำส่วนใหญ่มีอยู่แล้วบนแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดีย เช่น YouTube, Twitter และ Reddit
ในวัย 23 ปี ไบรอัน จุง มีผู้ติดตามบน YouTube ถึง 1 ล้านคน และหากเทียบเขากับผู้มีอิทธิพลด้านคริปโตคนอื่นๆ เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องของการระวังคำพูดที่สุด
“ผมต้องแน่ใจว่าผมระมัดระวังคำพูดที่คุยกับคนดูของผม เพราะสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการเลยคือ ทำให้เกิดผลกระทบกับคนดูของผม” เขากล่าวกับ BBC
ครอบครัวของไบรอันอพยพจากเกาหลีใต้มาที่สหรัฐฯ สิ่งนี้ทำให้เชื่อว่าภูมิหลังของเขาส่งผลต่อวิธีการลงทุนและการพูดเกี่ยวกับเรื่องเงิน
“ครอบครัวของเรามีปัญหาการเงินมาโดยตลอด ดังนั้นผมจึงประหยัดอยู่เสมอ” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการสูญเงินมหาศาลแล้ว อันตรายอีกอย่างคือ ‘การเสพติด’ เนื่องจากตลาดคริปโตไม่เคยหลับใหล ดังนั้นจึงดึงดูดผู้คนได้ง่าย
แอนดี้ ลีช นักบำบัดยาเสพติดในสิงคโปร์ กล่าวว่า เขาเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะลูกค้าผู้ชาย ที่ติดใจกับความตื่นเต้นของการเทรดคริปโตและ NFT
“คุณสามารถดูการขึ้นและลงของ Bitcoin ได้ 24 ชั่วโมง และโดยพื้นฐานแล้วกระบวนการนี้ก็คือรถไฟเหาะ ดังนั้นมันเหมือนกับคุณขึ้นรถไฟเหาะอยู่ 24 ชั่วโมง” เขากล่าว
แม้ในอดีตจะสูญเสียเม็ดเงินในตลาดคริปโต แต่ทั้งแพ็กซ์ตันและเคลวินต่างก็กลับมาเทรดอีกครั้งหลังศึกษาอย่างใกล้ชิด
BBC ถามเคลวินว่าคุณเสพติดมันหรือเปล่า “คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้” เขาตอบ “แต่ผมเรียกมันว่าความหลงใหล”
อ้างอิง:
