ผลตรวจเป็นลบ แต่ขอรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัว 14 วัน
‘การกักตัว’ ในความหมายของคนทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 แบบในทางระบาดวิทยา คือ
- การแยกกัก (Isolation)
- การกักกัน (Quarantine)
การแยกกัก (Isolation) เป็นการกัก ‘ผู้ป่วย’ หรือผู้ติดเชื้อจนครบระยะแพร่เชื้อ ซึ่งข้อมูลในปัจจุบันคือ 14 วัน* นับจากวันเริ่มมีอาการหรือวันที่ตรวจพบเชื้อหากไม่มีอาการ หมายความว่าเมื่อพ้นระยะนี้ไปแล้ว ผู้ป่วยจะไม่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้
*ระยะเวลาแยกกักเคยลดลงเหลือ 10 วัน แต่เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ของไวรัส ล่าสุด (13 เมษายน 2564) กรมการแพทย์ได้ประกาศปรับเพิ่มขึ้นเป็น 14 วัน ซึ่งจะเท่ากับระยะเวลาของการกักกันโรค
การกักกัน (Quarantine) เป็นการกัก ‘ผู้สัมผัสใกล้ชิด’ หรือผู้ที่มีความเสี่ยง จนครบระยะฟักตัวที่นานที่สุดคือ 14 วัน นับจากวันที่เจอกับผู้ป่วยวันสุดท้าย แต่หลายประเทศเริ่มมีแนวคิดลดวันกักกันลง เช่น สหราชอาณาจักรลดเหลือ 10 วัน
แล้วจะนับวันอย่างไร? ‘การแยกกัก’ จะนับวันที่เริ่มมีอาการเป็นวันที่ 0 วันถัดมาถึงจะนับเป็นวันที่ 1, 2, 3, … จนครบ 14 วัน ส่วน ‘การกักกัน’ จะนับวันที่เจอผู้ป่วยวันสุดท้ายเป็นวันที่ 0 วันถัดมานับเป็นวันที่ 1 และนับต่อจนครบ 14 วันเช่นกัน
หลักการคือ ‘ผู้ป่วย’ แยกตัว 14 วัน หลังจากเริ่มมีอาการหรือตรวจพบเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ‘ผู้สัมผัสใกล้ชิด’ กักตัว 14 วัน หลังจากเจอผู้ป่วยวันสุดท้าย เพื่อสังเกตอาการ
กรณีผู้ป่วยแยกตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม
สมมติให้
A เป็นผู้ป่วย
B, C และ D เป็นผู้ใกล้ชิด
ผู้ป่วย แยกตัว 14 วัน หลังเริ่มมีอาการหรือตรวจพบเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
ผู้สัมผัสใกล้ชิด กักตัว 14 วัน หลังเจอผู้ป่วยวันสุดท้าย เพื่อสังเกตอาการ
คำอธิบายจากภาพ:
เมื่อ A เริ่มมีอาการป่วย A วันที่เริ่มมีอาการจะนับว่าเป็นวันที่ 0 และจะเริ่มนับวันที่ 1 ในวันถัดไปต่อจนครบ 14 วัน ในกรณีนี้ A ตรวจพบเชื้อ และแยกไปรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 3
กรณีของ D: B, C และ D อยู่บ้านเดียวกัน นับจากวันที่ A ตรวจพบเชื้อ D แยกกักตัวจากคนอื่น เท่ากับว่า D สามารถเริ่มนับวันที่ 1 ได้เลยหลังจากวันที่ A ตรวจพบเชื้อ เท่ากับ 14 วันของ D สิ้นสุดลงในวันที่ 17
กรณีของ B และ C ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน เริ่มนับวันแรกหลังจากที่ A ตรวจพบเชื้อเช่นกัน แต่ต่อมา B ตรวจพบเชื้อในวันที่ 7 เท่ากับว่า B และ C เริ่มนับวันกักตัวใหม่ และเมื่อ B แยกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เท่ากับว่าวันกักตัวของ B และ C จะจบลงเท่ากันคือตรงกับวันที่ 21
กรณีที่ 2: ผู้ป่วยแยกกักตัวอยู่ที่บ้าน (Home Isolation)
สมมติให้
A เป็นผู้ป่วย
B, C และ D เป็นผู้ใกล้ชิด
กรณีเกิดการระบาดเป็นวงกว้าง ผู้ป่วยอาการรุนแรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนมากจน ‘เตียงเต็ม’ ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการอาจได้รับคำแนะนำให้กลับมาสังเกตอาการ และแยกกักที่บ้าน (Home isolation)
ในขณะที่ผู้ป่วยก็ไม่สามารถแยกจากผู้อื่นที่บ้านได้ หรือสมาชิกในบ้านจะต้องช่วยดูแลผู้ป่วย สมาชิกคนนั้นจะเริ่มนับวันกักกันก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการครบ 14 วันไปแล้ว คือต้องรอให้ผู้ป่วยพ้นระยะแพร่เชื้อไปก่อน แล้วค่อยนับเป็นวันที่ 0
คำอธิบายจากภาพ:
เมื่อ A เริ่มมีอาการป่วย การนับวันกักตัวของ A เริ่มนับ 1 ในวันถัดไป และนับต่อจนครบ 14 วัน กรณีนี้ A ตรวจพบเชื้อในวันที่ 3 และกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับ B และ C
กรณีของ D: เมื่อพบว่า A มีเชื้อในวันที่ 3 ดังนั้น D ได้แยกตัวออกจากคนอื่น และเริ่มนับวันกักตัวในวันถัดไป กรณีนี้ D จะครบกำหนดกักตัวในวันที่ 17
กรณีของ B: B และ C เริ่มกักตัวในวันเดียวกัน แต่เมื่อ B ตรวจพบเชื้อในวันที่ 7 เท่ากับ B ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ และจะกักตัวครบในวันที่ 21
กรณีของ C: เคสนี้ต่างจากกรณีแรกตรงเมื่อ B แยกกักตัวอยู่ที่บ้านและอาศัยอยู่ร่วมกับ C ทำให้ C เริ่มนับวันกักตัวของตัวเอง 1 วันหลังจากที่ B กักตัวครบแล้ว เพราะฉะนั้นวันกักตัวของ C จะสิ้นสุดในวันที่ 35
เรายกตัวอย่างมาให้ 2 กรณี คือ
- กรณีผู้ป่วยแยกตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
- ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) (คลิกดูที่ภาพเพื่ออ่านคำอธิบาย)
จะเห็นว่าการแยกกักที่ดีที่สุดคือการแยกผู้ป่วยไว้ที่โรงพยาบาล หากภาครัฐเตรียมโรงพยาบาลสนามหรือโรงแรมที่ดัดแปลงเป็นห้องผู้ป่วย (Hospitel) ผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงก็สามารถย้ายไปสังเกตอาการที่นั่นได้
ทั้งนี้ ก็เพราะถ้าให้ผู้ป่วยกลับมาแยกกักที่บ้าน อาจทำให้มีการแพร่เชื้อให้กับสมาชิกคนอื่น และผู้สัมผัสร่วมบ้านจะต้องถูกกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อต่อส่วนรวมเป็นเวลานานเกือบ 1 เดือน ยกเว้นผู้ป่วยพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว
สำหรับการตรวจหาเชื้อ ล่าสุด (13 เมษายน 2564) กรมควบคุมโรคได้ปรับปรุงแนวทางการสอบสวนโรค โดยให้ ‘ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง’ ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง คือ
- ครั้งแรก เมื่อเจ้าหน้าที่ระบุผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ หมายถึงเมื่อพบผู้ป่วยแล้ว เจ้าหน้าที่จะสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในไทม์ไลน์ของผู้ป่วยมาตรวจหาเชื้อ นับเป็นครั้งที่
- ครั้งที่ 2 ตรวจหลังจากครั้งแรก 7 วัน (นับไปอีก 1 สัปดาห์) หรือในวันที่ 13 หลังจากเจอผู้ป่วย แล้วแต่ว่าวันไหนถึงก่อนกัน เช่น ถ้าตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 5 ก็ต้องตรวจอีกครั้งในวันที่ 12
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง:
- ประกาศกรมการแพทย์ คำแนะนำในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 (COVID-19) สำหรับสถานพยาบาล ฉบับวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564 https://covid19.dms.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=118
- แนวทางกักกันผู้สัมผัสใกล้ชิด (Close Contact Tracing) https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_srrt/g_srrt_130464.pdf
- When to Quarantine https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/if-you-are-sick/quarantine.html
- Calculating Isolation and Quarantine Period https://www.phila.gov/media/20201119161650/Quarantine-Visual-Aid-.pdf