×

หมอวาโยขอตัดงบฯ บูรณาการ 6.2 พันล้าน ยกตัวอย่างกรมการปกครองไม่ตอบโจทย์ ซื้ออาวุธบางรายการแพงกว่าตำรวจ-กองทัพอากาศ

โดย THE STANDARD TEAM
22.08.2021
  • LOADING...
Wayo Assawarungruang

วานนี้ (21 สิงหาคม) นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้อภิปรายมาตรา 37 งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการในสัดส่วนกรรมาธิการว่า ในปี 2565 ได้มีการเสนอแผนบูรณาการเข้ามามากมาย เช่น แผนงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้และแผนรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งในแผนงานรัฐบาลดิจิทัลในส่วนของ GISTDA นั้นได้ถูกเสนอเข้าสู่แผนบูรณาการจำนวน 122 ล้านบาท ต่างจากปี 2564 ที่เสนองบประมาณเข้ามาเพียง 14 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า ในภาวะวิกฤตโควิด งบฯ ของ GISTDA เพิ่มสูงขึ้น 108 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 88.52 จึงเป็นข้อสังเกตว่า แผนบูรณาการดังกล่าวนำไปใช้อย่างไรที่มีงบประมาณเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

 

GISTDA หรือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้ของบประมาณในการจัดทำโครงการในปี 2565 เช่น เรื่องของไฟป่า ฝุ่นละออง และหมอกควัน จำนวน 12 ล้านบาท ขณะเดียวกันได้ตั้งงบประมาณจำนวน 109 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดทำแพลตฟอร์มข้อมูลมหภาพเชิงพื้นที่ หรือนำไปทำภาพถ่ายพื้นที่ภูมิประเทศ ในภาวะวิกฤตแบบนี้ ตั้งงบประมาณเป็นร้อยล้านในการดำเนินงาน ไม่ใช่เรื่องนี้ไม่สำคัญ เป็นเรื่องที่จะทำให้ประเทศไทยมีข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับภูมิประเทศและภูมิศาสตร์แผนที่ สามารถทำให้เราก้าวไปสู่เรื่อง One Map ได้ เป็นโครงการที่ดี แต่รู้สึกว่ามาผิดที่ ผิดเวลา 

 

ขณะที่แผนของสถาบันมาตรวิทยาในปี 2565 ได้ของบประมาณในการจัดซื้อนาฬิกาจำนวน 23.8 ล้านบาทเพียงรายการเดียว เพื่อควบคุมการถ่ายทอดเวลามาตรฐาน หรือเรียกว่า Atomic Clock เพื่อนำไปรองรับเทคโนโลยี 5G ที่จะต้องมีระบบเวลาไม่คาดเคลื่อนต่ำกว่าระดับนาโน จึงไม่มั่นใจว่าการซื้อนาฬิกามันจะคุ้มค่าหรือไม่

 

ด้านแผนบูรณาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอยกตัวอย่างออกมาจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และ กรมการปกครอง 

 

ในส่วนสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยนั้นตั้งของบประมาณเข้ามาที่ 5.3 ล้านบาท ซึ่งใน 5.3 ล้านบาทนั้นกลับเป็นงบประมาณในการจัดอบรมจำนวน 7.49 แสนบาท และมากไปกว่านั้นคือการขอจัดแฟชั่นโชว์ที่ไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ หรือที่สยามเซ็นเตอร์ จึงไม่เข้าใจว่าเป็นงบประมาณที่อยู่ในส่วนแผนบูรณาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร 

 

ในส่วนกรมการปกครอง ที่ประเทศไทย นอกจากจะมีกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และตำรวจ กรมการปกครองยังมีกองทัพอาสา (กองอาสารักษาดินแดน) อีก ซึ่งงบประมาณที่ปรากฏเป็นการจัดซื้อกระสุน 9 มม.จำนวน 132,990 นัด นัดละ 22.85 บาท ในขณะที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งงบฯ ในการจัดซื้อกระสุน 9 มม. เพื่อลงพื้นที่ภาคใต้เช่นกัน แต่จัดซื้อได้ที่ราคานัดละ 20 บาท เพื่อลงไปแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ จึงต้องตั้งคำถามไปยังกรรมาธิการว่าเป็นการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้อย่างไร เราจะเอาปืนเอากระสุนไปให้พี่น้องภาคใต้จริงๆ หรือ เหตุใดเราไม่นำเทคโนโลยี ดินสอ ปากกา หนังสือ หรือห้องเรียน ลงไปให้เขา

 

ขณะเดียวกันในการตั้งงบประมาณปี 2565 ของกรมการปกครอง ยังปรากฏรายละเอียดของกองทัพอาสาในการขอจัดซื้อหมวกกันกระสุนใบละ 28,000 บาท จำนวน 658 ใบ นอกจากนั้นทางกองทัพอากาศก็ได้มีการจัดซื้อรายการหมวกกันกระสุนเช่นกัน แต่จัดซื้อได้ที่ใบละ 25,000 บาท 

 

นอกจากนั้นกรมการปกครองยังขอตั้งงบประมาณในการจัดซื้อเสื้อเกราะอีกจำนวน 2,000 ตัว และจัดซื้อปืน 9 มม. จำนวน 542 กระบอก ราคากระบอกละ 55,000 บาท แต่ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถจัดซื้อได้ที่ราคา 13,000 บาท 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสรุปการเปรียบเทียบราคาแล้วจะพบว่า ตำรวจจัดซื้อปืน 9 มม. ที่ราคา 13,000 บาท กรมการปกครองจัดซื้อที่ราคา 55,000 บาท กระสุนตำรวจจัดซื้อนัดละ 20 บาท แต่กรมการปกครองจัดซื้อนัดละ 22.85 บาท หมวกกันกระสุนกรมการปกครองขอซื้อที่ราคา 28,000 บาท ขณะที่ทหารอากาศขอจัดซื้อที่ราคาเพียง 25,000 บาท 

 

ดังนั้นจากที่ตนได้ยกตัวอย่างและเสนอราคาโครงการจัดซื้อต่างๆ จึงขอเสนอปรับลดงบประมาณในส่วนแผนบูรณาการ 6.2 พันล้านบาท

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X