×

ประยุทธ์แจงแก้ปัญหาไฟใต้ โต้ไม่มีใครเอาชีวิตทหารไปตาย ชี้วิถีทหาร แม้รู้ว่าตายก็ต้องไป

โดย THE STANDARD TEAM
17.10.2019
  • LOADING...

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรกภายหลังเปิดอภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในวาระแรก ถึงการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ว่า สถานการณ์ภาพรวมความเคลื่อนไหวการก่อเหตุรุนแรงตั้งแต่ปี 2557-2562 เหตุการณ์รุนแรงลดลงทุกปีอย่างมีนัยสำคัญ 

 

สะท้อนให้เห็นมาตรการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ผู้ก่อเหตุเน้นสร้างสถานการณ์เชิงการเมือง เพื่อให้ประชาคมโลกกดดันไทย แต่ภาครัฐมีแนวทางพัฒนาแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งกำหนดแผนใช้จ่ายงบประมาณ โดยไม่ใช่ทหารนำการเมือง เพราะรัฐบริหารราชการในพื้นที่ และมีงบอยู่ทุกกระทรวง ครอบคลุมทั้งงานด้านความมั่นคงและการพัฒนา ไม่ใช่งบประมาณ ไม่ใช่เป็นงบทหารเพียงอย่างเดียว 

 

ขณะเดียวกันยังมีปัญหาแทรกซ้อนเศรษฐกิจและสังคม เฉพาะปัญหายาเสพติดที่ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตี โดยเฉพาะประเด็นสิทธิมนุษยชน รวมทั้งบิดเบือนสร้างความเกลียดชังในสื่อสังคมออนไลน์และในพื้นที่ 

 

โดยนายกรัฐมนตรียืนยัน ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้มีเอกภาพ โดยมีการบูรณาการ กำหนดเป้าหมาย แผนงาน ยุติความรุนแรง รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหม่ เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และต้องปรับให้สอดคล้องกับกลุ่มก่อขบวนการความรุนแรง ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีการหลบหนีการจับกุม 

 

ปัญหาผู้ก่อเหตุรุนแรงคือ ไม่มีการเปิดเผยตัวตน ไม่มีการยึดพื้นที่ ทำให้ปะปนกับประชาชนโดยทั่วไป แนวคิดการแบ่งแยกดินแดนจากรัฐไทย เราต้องหาทางแก้ปัญหาให้เหมาะสม พวกท่านไม่ทราบใครเป็นองค์กรนำ แต่ตนทราบ ดังนั้น ต้องให้ผู้ก่อเหตุหมดไป ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการทางทหารหรือการพูดคุยฉันมิตร เพื่อให้ข้อเรียกร้องต่างๆ ต้องหมดไป และทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 

 

และต้องขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้ผู้ก่อเหตุลดขีดความสามารถ รวมทั้งยุติการบ่มเพาะเยาวชนที่นำไปสู่การจัดตั้งมวลชน ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีหลายมาตรการ ทั้ง 3 กลยุทธ์หลัก 12 กลยุทธ์ย่อย คู่ขนานไปกับการพูดคุยสันติสุข

 

ส่วนการเยียวยา กระทรวงยุติธรรมจะรับผิดชอบ ทั้งเจ้าหน้าที่ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรง ขณะที่กลยุทธ์ด้านความมั่นคงจะเน้นความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ผ่าน กอ.รมน. ที่ควบคู่ไปกับงานด้านอื่น ไม่ใช่แผนงานความมั่นคงอย่างเดียว  เพราะตนไม่อยากให้เกิดความสูญเสียแม้แต่คนเดียว 

 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอร้องภาคเอกชนให้ช่วยลงทุนในพื้นที่ที่ปัจจุบันมีการลงทุนจากบริษัทต่างประเทศและในประเทศที่เกี่ยวกับการเกษตร เรื่องยางพารา เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจอื่นทั้งหมด ไม่ใช่แค่ภาคใต้ เพราะประเทศไทยไม่ได้มี eec เพียงอย่างเดียว

 

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงดุเดือดว่า การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ละเอียดอ่อนซับซ้อนไม่เหมือนประเทศอื่น เพราะประเทศอื่นยึดพื้นที่ทั้งหมด แต่ประเทศไทยเข้าได้ทุกตารางนิ้ว แต่จะเสี่ยงถ้าไม่มีทหาร ซึ่งมีทั้งกลุ่มเสี่ยงและไม่เสี่ยง ดังนั้น อย่าทำให้คน 2 ส่วน มีปัญหากัน เพราะจะกระทบกับการขับเคลื่อนของรัฐบาล พร้อมบอก มีคนบอกว่า มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

“ผมไม่เอาชีวิตคนทุกคนมาเพื่อประโยชน์ของผม ชีวิตใครใครก็รัก ผมรับผิดชอบทหาร ลูกเขา เมียเขา ผมจะรักษาให้มันสู้ไปทำไม คิดบ้าง คิดแบบนี้ได้อย่างไร ถ้าคิดแบบนี้ไม่เหมาะจะพูดกันในนี้หรอกครับ หรือพูดที่ไหน ชีวิตใครใครก็รัก ผมเป็นทหารเก่า ลูกน้องทุกคน ชีวิตเขา พาเขาไปรบ ตายแล้วใครรับผิดชอบ ผมด้วย คิดแบบนี้สิครับ ผมถามแล้วใครจะไป ไม่มีทหาร ใครจะไป ไม่มีทหารเกณฑ์แล้วใครจะไปรบ นี่แหละภาคใต้เป็นอย่างนี้ ถ้าเอาคนมาแล้ว ถึงเวลามีการรบ มีสงครามแล้วจ้างให้มารบ ผมถาม จะกล้าไปรบหรือไม่ เพราะต้องมาฝึกหัดการใช้อาวุธ ถึงเวลาการใช้ชีวิตแบบทหาร แม้จะรู้ว่าข้างหน้าคือการไปตาย เขาก็ไป เพราะเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา เขาควรได้รับการดูแล การเยียวยาภายหลัง นี่คือหลักการของการเป็นผู้นำ ต้องนึกถึงชีวิตเขาทุกเรื่อง ยามปกติต้องดูแลเขา มีบ้านอยู่ มีน้ำ มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อจะเรียกเขามาใช้งาน 24 ชั่วโมง นั่นคือทหาร ไม่อย่างนั้นมันไปไม่ได้ ทั้งหมดเรียกมา ใครมันก็ไม่มา” พล.อ. ประยุทธ์ ร่ายยาว

 

ซึ่งหลังแถลงอย่างดุเดือด นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอโทษ ส.ส. ที่พูดด้วยน้ำเสียงที่มีอารมณ์ว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดให้รุนแรง พอดีพูดเรื่องการสู้รบก็ต้องเอาหน่อย พร้อมยิ้มกล่าวขอบคุณ และสวัสดี ก่อนจะขอตัวไปพัก เพื่อลดอารมณ์ และบอกขอไปทานน้ำก่อน เพราะคอแห้ง ขอบคุณจ้ะ

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising