เสียงโห่ดังขึ้นบนอัฒจันทร์แฟนบอลในสนามมงก๊ก ซึ่งเป็นสนามเหย้าของฮ่องกง เมื่อเพลงชาติจีน March of the Volunteers (义勇军进行) ถูกบรรเลงก่อนการแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มขึ้น
นี่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์การต่อต้านอำนาจรัฐที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในฮ่องกงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และทำให้รัฐบาลจีนรู้สึกตะขิดตะขวงใจมาตลอด
เพราะสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเมื่อเพลง God Save the Queen ของสหราชอาณาจักรถูกบรรเลงในเกมเหย้าของฮ่องกงก่อนปี 1997 ซึ่งเป็นปีที่ฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมอกจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้นโยบาย ‘1 ประเทศ 2 ระบบ’
อันที่จริงกระแสต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์ในฮ่องกงไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อปี 2014 เคยเกิดเหตุการณ์ประท้วงที่เรียกว่าการปฏิวัติร่ม (Umbrella Movement) โดยนักศึกษาและมวลชนในฮ่องกงได้ลุกฮือขึ้นชุมนุมปิดถนนในย่านศูนย์กลางการเงิน และใช้ร่มเป็นสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงโดยตรง แทนที่จะเป็นการเสนอชื่อนอมินีจากรัฐบาลจีน
การปราบปรามอย่างหนักและการดำเนินคดีกับบรรดาแกนนำนักศึกษาทำให้กระแสเรียกร้องเสรีภาพแผ่วลง ทว่านับแต่นั้นมาชาวฮ่องกงที่ต้องการเสรีภาพและประชาธิปไตยได้แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์อื่นๆ แทน และหนึ่งในนั้นคือการไม่เคารพเพลงชาติ บางคนหันหลังให้ขณะบรรเลงเพลงหรือเชิญธงชาติ หรือชูป้ายข้อความว่า ‘ฮ่องกงไม่ใช่จีน’
รัฐบาลฮ่องกงจึงพยายามผลักดันร่างกฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วย ‘เพลงชาติ’ ให้สภานิติบัญญัติพิจารณา โดยกฎหมายใหม่นี้จะเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ที่จงใจหรือแสดงออกในที่สาธารณะว่าไม่เคารพเพลงชาติจีน ซึ่งโทษสูงสุดคือจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 เหรียญฮ่องกง (ราว 200,000 บาท)
แน่นอนว่าการออกบทลงโทษดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของคนฮ่องกง ในวันที่พวกเขามองว่าสิทธิของตนถูกลิดรอนลงทุกขณะ
“ผมคิดว่าครูจะรู้สึกกังวลกับกฎหมายนี้ เพราะหากเราปล่อยให้รัฐบาลผ่านกฎหมายฉบับนี้เพื่อกำหนดว่าครูต้องสอนอะไรเด็กๆ แน่นอนว่าครั้งนี้อาจเป็นแค่เพลงชาติ แต่ครั้งหน้าอาจเป็นสิ่งอื่นๆ อีกก็ได้” ไซมอน ฮัง ครูโรงเรียนมัธยมในฮ่องกงให้ความเห็นกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส
คาดว่าร่างบทบัญญัติเพลงชาติจะผ่านการลงมติเห็นชอบในสภาฮ่องกงอย่างง่ายดาย เนื่องจากฝ่ายค้านมีจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอในการขัดขวางกระบวนการนิติบัญญัติ โดยก่อนหน้านี้ฮ่องกงเคยผ่านกฎหมายเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ที่ดูหมิ่นตราสัญลักษณ์และเพลงชาติมาก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 3 ปีเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของสีจิ้นผิงที่มองว่าฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน เป็นส่วนหนึ่งของจีนอย่างแยกจากกันไม่ได้
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สีจิ้นผิงกล่าวในโอกาสครบรอบ 40 ปีแห่งการประกาศสาสน์ถึง ‘เพื่อนร่วมชาติ’ ไต้หวัน โดยย้ำว่าไต้หวันยังคงเป็นมณฑลหนึ่งของจีน พร้อมเรียกร้องให้คนไต้หวันกลับมารวมชาติกับจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อความเป็นปึกแผ่น ขณะเดียวกันก็เตือนว่าหากไต้หวันคิดแยกตัวเป็นเอกราช จีนอาจใช้กำลังทางทหารกับไต้หวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- www.voachinese.com/a/hong-kong-to-make-insulting-chinese-anthem-a-crime-20190122/4754985.html
- www.reuters.com/article/us-china-hongkong-anthem/hong-kong-moves-to-make-disrespecting-chinese-national-anthem-a-crime-idUSKCN1PH04Y
- www.economist.com/china/2019/01/19/hong-kongers-could-be-jailed-for-disrespecting-chinas-anthem?fsrc=scn/fb/te/bl/ed/hongkongerscouldbejailedfordisrespectingchinasanthemfacingthemusic