×

รัฐมนตรียุติธรรมฮ่องกงส่งสัญญาณถึงการนำกฎหมายต้านการคว่ำบาตรจากต่างชาติของจีนมาใช้ในฮ่องกง คาดสภาประชาชนจีนหารือในที่ประชุม 17-20 ส.ค. นี้

09.08.2021
  • LOADING...
Hongkong-China

เทเรซา เชง รัฐมนตรียุติธรรมของฮ่องกง ระบุว่า กฎหมายของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างชาติอาจสามารถนำมาใช้ในฮ่องกงได้โดยการระบุลงไปในอนุรัฐธรรมนูญของฮ่องกง และมีรายงานจากสื่อว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาโดยรัฐสภาของจีน

 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ความเห็นของรัฐมนตรียุติธรรมของฮ่องกงเป็นสัญญาณอย่างเป็นทางการที่แข็งแรงที่สุดจนถึงขณะนี้ว่าฮ่องกงจะยอมรับกฎหมายของจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งผ่านออกมาเป็นกฎหมายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านการคว่ำบาตรจากเหตุที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเพิ่มแรงกดดันจากเหตุทางการค้า เทคโนโลยี และจากกรณีของฮ่องกงและซินเจียง และภายใต้กฎหมายฉบับนี้ บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำหรือใช้มาตรการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองหรือหน่วยงานของจีนอาจถูกจัดอยู่ในรายการต่อต้านการคว่ำบาตรโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลจีน

 

ทั้งนี้ เชงระบุผ่านบล็อก (Blog) อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรียุติธรรมบนเว็บไซต์ของกระทรวง เธอกล่าวถึงมาตรการรับมือการคว่ำบาตรจากต่างชาติ โดยเฉพาะการกล่าวถึงการคว่ำบาตรที่เธอระบุว่า “ไม่ได้รับอนุญาตจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสามารถอธิบายได้ดีกว่าในฐานะมาตรการบีบบังคับแต่เพียงฝ่ายเดียว และบอกว่าการคว่ำบาตรที่ไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและกรอบการทำงานของสหประชาชาติ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการฝ่าฝืนหลักการไม่แทรกแซงภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”

 

เธอระบุว่ามีตัวอย่างที่รัฐกำหนดมาตรการบีบบังคับแต่เพียงฝ่ายเดียวต่อรัฐหรือบุคคลอื่นเพื่อบังคับหรือเพื่อให้บรรลุการเอาชนะโดยอ้อม ซึ่งเธอกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้ถูกทำด้วยแรงจูงใจทางการเมือง เธอยกตัวอย่างโดยตรงถึงกรณีของฮ่องกงว่ามี ‘ประเทศจำนวนหนึ่ง’ ที่บังคับใช้มาตรการบีบบังคับเพียงฝ่ายเดียวต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลของจีนและฮ่องกงหลังการตรากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ นอกจากนี้เธอบอกว่ามาตรการรับมือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และบอกว่ารัฐหนึ่งๆ มีความชอบธรรมในการดำเนินมาตรการตอบโต้เมื่อเผชิญกับการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

 

และต่อกรณีการนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้ในฮ่องกง เธอระบุว่าหนทางที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมที่สุดในการนำกฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรมาใช้ในฮ่องกงคือการเพิ่มกฎหมายฉบับนี้ลงไปในภาคผนวกของกฎหมายพื้นฐานหรืออนุรัฐธรรมนูญ (Mini Constitution) ของฮ่องกง การดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากองค์กรสูงสุดของรัฐสภาจีน นั่นคือสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress)

 

อีกด้านหนึ่ง นักวิจารณ์เตือนว่ากฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศอาจบ่อนทำลายชื่อเสียงของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก และทำให้เสียความรู้สึกในหมู่บริษัทต่างชาติ และเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำทางธุรกิจเพื่อเตือนบริษัทต่างๆ ว่าพวกเขาอยู่ภายใต้กฎหมายของดินแดน ซึ่งรวมถึงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีน ซึ่งมีการจับกุมชาวต่างชาติ รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ คนหนึ่งไปแล้วภายใต้กฎหมายดังกล่าว

 

ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่าอาจมีการหารือในเรื่องดังกล่าวระหว่างการประชุมคณะกรรมการถาวรแห่งสภาประชาชนแห่งชาติจีนที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว South China Morning Post รายงานคำให้สัมภาษณ์ของเชงหลังการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ซึ่งในขณะนั้นเธอยังปฏิเสธที่จะระบุว่ากฎหมายดังกล่าวจะถูกเพิ่มเข้าไปในอนุรัฐธรรมนูญของฮ่องกงหรือไม่ แต่ย้ำว่ากฎหมายจะถูกใช้เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรที่ไม่สมเหตุสมผลต่อฮ่องกงและจีนเท่านั้น ซึ่งเป็นความพยายามแสดงท่าทีเพื่อผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสถาบันการเงินเมื่อฮ่องกงใช้กฎหมายดังกล่าว

 

ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรหลายรอบต่อฮ่องกงและเจ้าหน้าที่ทางการจีน ซึ่งเชงเองก็อยู่ในรายชื่อบุคคลที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2020 ร่วมกับ แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงรายอื่นๆ โดยในการแถลงคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ทางการฮ่องกงและจีนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ครั้งเมื่อ 7 สิงหาคม 2020 ระบุเหตุผลจากการ ‘บ่อนทำลายการปกครองตนเองของฮ่องกง และจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกหรือการชุมนุมของพลเมืองฮ่องกง’ และยังกล่าวถึงการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงด้วย

 

อย่างไรก็ตาม บล็อกของเชงที่กล่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรจากต่างประเทศนั้นไม่ได้กล่าวหรือเอ่ยถึงชื่อประเทศสหรัฐอเมริกาโดยตรงแต่อย่างใด

 

ภายใต้กฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรฉบับดังกล่าว บุคคลอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศจีนหรือถูกขับออกจากประเทศ ทรัพย์สินของพวกเขาในประเทศจีนอาจถูกยึดหรืออายัด และพวกเขาอาจถูกจำกัดไม่ให้ทำธุรกิจกับหน่วยงานหรือบุคคลภายในประเทศจีนด้วย

 

ภาพ: Marc Fernandes / NurPhoto via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising