×

ย้อนรอยเส้นทางฮ่องกง จากตลาดที่คาดว่าจะฟื้นตัว ตกชั้นสู่ประเทศที่ ‘ย่ำแย่มากสุด’ สำหรับนักลงทุนในปีนี้

19.12.2023
  • LOADING...
ฮ่องกง

ปี 2023 ควรจะเป็นปีที่ฮ่องกงสามารถกลับขึ้นมามีบทบาทในเวทีโลกได้อีกครั้ง หลังผ่านเรื่องราวการประท้วงบนถนน การปราบปรามทางการเมือง และโรคระบาดโควิด-19 แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น และกลับกลายเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดปีหนึ่งสำหรับประเทศที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินของโลก

 

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 16% ในปีนี้ ทำผลงานได้ย่ำแย่กว่าคู่แข่งอย่างตลาดในโตเกียวและมุมไบ และติดอันดับหนึ่งในดัชนีที่ดิ่งลงมากที่สุดในโลก เงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกมีมูลค่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่ฟองสบู่ดอทคอมแตก ขณะที่ยอดขายบ้านมีแนวโน้มแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2002 และค่าเช่าสำนักงานลดลงสู่ระดับเมื่อ 13 ปีที่แล้ว

 

ในโซเชียลมีเดียของจีน ฮ่องกงถูกขนานนามว่าเป็น ‘ซากปรักหักพังของศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ’ ซึ่ง Christopher Hui รัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริการการเงินและการคลังฮ่องกง ปฏิเสธฉายาดังกล่าว และระบุว่าสถานะของฮ่องกงไม่ใช่อาคารที่สามารถพังทลายลงได้ด้วยแรงกดดันเท่านั้น กระแสพันธบัตรและเบี้ยประกันใหม่แสดงให้เห็นว่าเมืองแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำของโลก

 

ถึงกระนั้น หลักฐานบ่งชี้ว่าสถานะของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำของเอเชียยังไม่สั่นคลอนในขณะนี้ ทั้งการเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของธนาคารในสหรัฐฯ ในขณะที่ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์เกือบครึ่งหนึ่งในเอเชียก็ประจำอยู่ที่นั่น ตามข้อมูลของ Preqin

 

Qi Wang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนด้านบริหารความมั่งคั่งของ UOB Kay Hian กล่าวว่า ตลาดฮ่องกงผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและวิกฤตการณ์ทางการเงินมาแล้วหลายครั้ง ความท้าทายที่เราเผชิญในวันนี้นั้นยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

 

เงินทุนต่างประเทศกำลังหลีกเลี่ยงจีนในช่วงเวลาที่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ การปราบปรามของทางการจีนได้ดักจับอุตสาหกรรมตั้งแต่เทคโนโลยีไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่นักพัฒนาอสังหาหลายรายผิดนัดชำระหนี้

 

ต้นทุนการกู้ยืมของฮ่องกงเพิ่มขึ้นเนื่องจากการตรึงสกุลเงินกับเงินดอลลาร์ ชาวต่างชาติและคนที่อายุน้อยตัดสินใจย้ายออกจากฮ่องกง เนื่องจากงานในภาคการเงินเริ่มซบเซา และความกังวลเกี่ยวกับการกำกับดูแลของทางการจีนที่อาจแผ่ขยายมาสู่ฮ่องกง ทำให้ความสามารถของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางการเงินจึงถูกตั้งคำถามเช่นกัน

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนักวิจัยได้ลดอันดับการกำกับดูแลกิจการของฮ่องกงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ โดยอ้างถึงสิทธิผู้ถือหุ้นส่วนน้อยและความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการที่ถดถอย เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฮ่องกง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความเป็นอิสระที่ลดลงในด้านการเมืองและกฎหมาย

 

การที่รัฐบาลฮ่องกงไล่ปราบปรามนักเคลื่อนไหวถือเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการสหรัฐฯ และอังกฤษวิพากษ์วิจารณ์ฮ่องกงที่ประกาศจ่ายเงินค่าหัวให้กับผู้เห็นต่าง 5 คนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ความสนใจของทั่วโลกเพ่งเล็งไปที่การพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติของเจ้าพ่อสื่อ Jimmy Lai ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติและสมคบคิดเผยแพร่เนื้อหาที่ปลุกปั่นซึ่งจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

 

Brock Silvers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Kaiyuan Capital เปิดเผยว่า ฮ่องกงจะกลับมาได้อย่างแน่นอนในช่วงเวลาที่จีนกระตือรือร้นที่จะฟื้นฟูการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ แต่การถอนตัวของบรรดาบริษัทตะวันตกจากจีนแผ่นดินใหญ่ก็ถือเป็นแรงกดดันเช่นกัน ในขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงยังไร้แนวโน้มที่จะกลับมารุ่งโรจน์จนกว่าจีนจะจัดการกับปัญหาภายในประเทศได้สำเร็จ

 

อ้างอิง :

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising