หากนึกถึงการ์ตูนคาแรกเตอร์ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและใครๆ ก็หลงรัก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น ‘Hello Kitty’ อมตะจากญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัท โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ ชินทาโร ทสึจิ ผู้ก่อตั้ง Sanrio ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างตัวละครนี้ขึ้นมา แต่หลังจากนั่งตำแหน่งผู้บริหารมาหลายสิบปี ถึงเวลาแล้วที่บอสใหญ่แห่ง Sanrio จะเปลี่ยนจากคำทักทาย ‘Hello Kitty’ เป็นการบอกลา ‘Goodbye Kitty’ เมื่อเขาประกาศก้าวลงจากเก้าอี้ซีอีโอในวัย 92 ปี
การตัดสินใจสละเก้าอี้หัวเรือใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน โดยทสึจิจะลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งผู้ที่จะมาสานงานต่อจากเขาคือ โทโมกุนิ ทสึจิ หลานชายวัย 31 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่ Sanrio
ชื่อเดิมของ Sanrio คือ Yamanashi Silk Company ก่อนเปลี่ยนมาเป็น Sanrio ในปี 1973 โดยหลังจากตั้งบริษัทได้ไม่นาน พวกเขาพบว่าสินค้าที่เน้นการออกแบบให้น่ารักเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของบริษัท และ Hello Kitty การ์ตูนคาแรกเตอร์ไม่มีปากติดโบ ก็ถือกำเนิดขึ้นและเปิดตัวในปี 1974 โดยผู้ออกแบบคือ ยูโกะ ชิมิซึ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Sanrio นับแต่นั้น
ตลอดเวลาเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา Hello Kitty ทำรายได้รวมหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทผ่านทางสินค้าของที่ระลึก ของเล่น เครื่องเขียน เสื้อผ้า กระเป๋า รวมถึงการขายลิขสิทธิ์ต่างๆ และธีมพาร์ก ไม่เพียงแต่เด็กๆ ที่หลงรักในความน่ารักของมันเท่านั้น ผู้ใหญ่ก็ชื่นชอบ Hello Kitty นี้ไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยอดขายของ Sanrio ในญี่ปุ่นตกลงไปมาก และปัจจุบันบริษัทต้องพึ่งพาธุรกิจในต่างประเทศซึ่งมีความเปราะบาง ดังนั้นการก้าวลงจากเก้าอี้ผู้บริหารของทสึจิเพื่อหลีกทางให้คนรุ่นใหม่ในเวลานี้จึงเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบริษัท
ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งบริษัทมักถ่ายโอนตำแหน่งให้คนในครอบครัว แต่บุตรชายของทสึจิเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายในปี 2013 ดังนั้นจึงเป็น โทโมกุนิ หลานชายที่เข้ามาสืบทอดกิจการต่อ
โดยโทโมกุนิได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะเร่งทรานส์ฟอร์มบริษัทให้กลับมาแข่งขันได้อย่างเฉิดฉาย ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่เขาจะทำคือการโยนไอเดียเก่าๆ ที่ล้าสมัยทิ้งไป ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าคงไม่ได้หมายถึง Hello Kitty ที่อายุมากกว่าซีอีโอคนใหม่นี้หรอกนะ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
