เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) คณะลูกขุน 12 คนของศาลในนิวยอร์กที่ประกอบไปด้วยชาย 7 คนและหญิง 5 คนตัดสินให้ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน อดีตโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เจ้าพ่อวงการฮอลลีวูด มีความผิดจริงฐานข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวทั้งในและนอกวงการ นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของกระแส #MeToo ที่ถูกจุดขึ้นในสหรัฐอเมริกา
โดยมีหญิงสาวอย่างน้อย 80 คนที่ออกมาระบุว่า ถูกอดีตโปรดิวเซอร์วัย 67 ปีรายนี้ล่วงละเมิดทางเพศในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงนักแสดงมากฝีมืออย่าง กวินเน็ธ พัลโทรว์, อูมา เธอร์แมน และ ซัลมา ฮาเยก ที่กล้าจะลุกขึ้นมาบอกเล่ามุมมืดที่เคยเกิดขึ้นกับพวกเธอในวงการฮอลลีวูด จนกลายเป็นกระแสที่ส่งต่อพลังบวกให้แก่ผู้หญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อทางเพศ และความรุนแรงทั่วสหรัฐฯ รวมถึงในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ให้กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อสิทธิของตัวพวกเธอเองที่ควรได้รับการปกป้อง
ในการพิจารณาคดีคณะลูกขุนตัดสินให้ไวน์สตีนมีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศต่อ มีมี่ ฮาเลอี (Mimi Haleyi) อดีตผู้ช่วย เมื่อปี 2006 และมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา เจสสิกา แมนน์ อดีตนักแสดงสาว เมื่อปี 2013 โดยไวน์สตีนยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่แสดงสีหน้าใดๆ พร้อมพูดคุยกับ ดอนนา โรทันโน หัวหน้าทีมทนายความของเขา ก่อนที่เขาจะถูกควบคุมตัวในช่วงเวลานี้ และศาลจะพิพากษาตัดสินในวันที่ 11 มีนาคม 2020
ภาพ: Angela Weiss / AFP
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: