กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด ซึ่งประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 3 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564 มีการใช้จ่ายวันแรกรวมกันแล้ว 1,646 ล้านบาท จากจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ทุกโครงการรวม 7.8 ล้านราย
ทั้งนี้หากแยกจำนวนผู้ใช้สิทธิ์และปริมาณการใช้จ่ายในแต่ละโครงการพบว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 3.5 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 791.3 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 399.4 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 391.8 ล้านบาท โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 3,428 ราย มียอดการใช้จ่ายรวม 9.1 ล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 4.2 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 826.3 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวนกว่า 1 แสนราย มียอดการใช้จ่ายรวม 19.6 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวอีกว่า การใช้จ่ายในทุกโครงการจะต้องเป็นการจ่ายเงินระหว่างประชาชนกับร้านค้าหรือผู้ให้บริการแบบพบหน้า (Face-to-Face) เท่านั้น และจะต้องไม่มีกระบวนการใดๆ รองรับการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์หรือผ่านคนกลางไม่ว่าด้วยวิธีการใดที่เป็นการหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว เช่น การนำ QR Code ไปคัดลอกส่งต่อแก่บุคคลอื่นเพื่อสแกนจ่ายเงิน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและตรวจสอบความถูกต้องได้ นอกจากนี้ในการสแกนจ่ายค่าสินค้าหรือบริการจะต้องระบุยอดเงินให้ตรงตามมูลค่าสินค้าหรือบริการนั้น เนื่องจากไม่สามารถทอนเงินหรือรับแลกสินค้าหรือบริการคืนเป็นเงินสดได้
สำหรับบรรยากาศการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ในวันนี้ จากการสำรวจของ THE STANDARD WEALTH ไม่พบปัญหาแอปพลิเคชันเป๋าตังล่มเหมือนวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ร้านค้าหลายแห่งยังพูดตรงกันว่าจำนวนคนมาใช้สิทธิ์ยังน้อยกว่าช่วงเฟสที่ 1 และ 2 ของโครงการ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการกำหนดให้ผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 3 ต้องยืนยันตัวตนก่อนเริ่มใช้สิทธิ์
โดยผู้ได้รับสิทธิ์รายใหม่ ต้องยืนยันตัวตนทุกคน ส่วนผู้รับสิทธิ์รายเดิม เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยยืนยันด้วยบัตรประชาชนที่สาขา และตู้ ATM ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา หรือ ตู้ ATM สีเทาของกรุงไทย เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล ตรวจสอบว่าเป็นตัวจริง ป้องกันการแอบอ้างสวมสิทธิ์
สำหรับโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีทั้งหมด 31 ล้านสิทธิ์ โดยปัจจุบันยังมีสิทธิ์คงเหลืออยู่อีกกว่า 2 ล้านสิทธิ์ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยได้จนกว่าสิทธิ์จะเต็ม