×

‘Gwyneth Paltrow’ บนเส้นบางๆ ระหว่างเพี้ยนกับเพอร์เฟกต์

22.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • กวินเน็ธ พัลโทรว์ เริ่มต้นงานแสดงจากผลงานละครโทรทัศน์เรื่อง High ที่ บรูซ พัลโทรว์ พ่อของเธอกำกับเอง ก่อนจะกลายเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงอย่างเป็นทางการจากภาพยนตร์อย่าง Sliding Doors (1998), The Royal Tenenbaums (2001), Iron Man (2008) และภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้อีกหลายเรื่อง
  • กวินเน็ธตัดสินใจเปิดเว็บไซต์ Goop ของตัวเองในปี 2008 รวบรวมทั้งเรื่องสุขภาพ ความงาม อาหาร สไตล์ การท่องเที่ยว ไปจนถึงการทำงาน จนในที่สุดก็เกิดเป็นแบรนด์ในชื่อเดียวกัน แต่ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักมากตามมา
  • ในปี 2016 เธอทำเงินไปได้เกือบ 20 ล้านเหรียญสหรัฐจากแบรนด์ Goop และยังจับมือกับนิตยสาร Condé Nast Traveler ออก Goop เป็นรูปเล่มวางแผงขาย และล่าสุดยังเปิดหน้า Goop Lab ในซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย อีกด้วย

     แม้จะเข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 แต่ กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow) ก็ยังคงมีผลงานและข่าวคราวในวงการบันเทิงตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งกรณีล่าสุดกับการเป็นหนึ่งในนักแสดงสาวคดีล่วงละเมิดทางเพศของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน และการหันมาทำธุรกิจด้านสุขภาพอย่างเต็มตัวกับแบรนด์ Goop ของตัวเอง ซึ่งทำให้มีกระแสตอบรับทั้งด้านบวก และส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็น ‘ด้านลบ’ ที่มีต่อนักแสดงวัย 45 ปีคนนี้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นนักแสดงสาวสวยแสนฉลาด แถมมีดีกรีรางวัลออสการ์ หรือเธอกำลังจะเริ่มเพี้ยนไปแล้วกันแน่

     ด้วยความที่เติบโตมาในครอบครัวสายบันเทิง กวินเน็ธเริ่มต้นงานแสดงจากผลงานละครโทรทัศน์เรื่อง High ที่ บรูซ พัลโทรว์ พ่อของเธอกำกับเอง ก่อนจะกลายเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงอย่างเป็นทางการจากภาพยนตร์อย่าง Sliding Doors (1998), The Royal Tenenbaums (2001), Iron Man (2008) และภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้อีกหลายเรื่อง จนมีกระแสว่าเธอเลือกรับงานแบบผิดๆ อย่างไรก็ตาม เธอก็เคยได้รับรางวัลจากเวทีใหญ่ๆ ทั้งออสการ์และโกลเดนโกลบ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Shakespeare in Love ในปี 1999

 

 

     กวินเน็ธไม่ได้แค่แสดงดีเท่านั้น เธอยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยเกือบได้ออกอัลบั้มเดี่ยวกับ Atlantic Records แต่ก็ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2011 ด้วยเหตุผลที่เธอยังลังเลกับทางเลือกของตัวเองอยู่ แต่ถ้าอยากฟังเสียงของเธอ ลองหาเพลงประกอบภาพยนตร์ Country Strong (2010) ที่เธอเล่นเอง ร้องเอง จนได้เข้าชิงออสการ์สาขา Best Achievement in Music Written for Motion Pictures, Original Song และ Best Original Song – Motion Picture บนเวทีโกลเดนโกลบ และถ้าใครจำได้ เราเคยเห็นเธอไปโผล่เป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่อง Glee ด้วย นอกจากนี้เธอยังเป็นพรีเซนเตอร์ของน้ำหอม Estée Lauder ตั้งแต่ปี 2005 และยังโด่งดังในด้านการทำอาหารจนมีหนังสือสอนทำอาหารของเธอเองออกมาหลายเล่ม

 

 

     ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเธอคือนักแสดงสาวที่มีดีทั้งหน้าตา รูปร่าง การแต่งตัวก็มีสไตล์ตลอดเวลา เธอให้ความสนใจทั้งรูปลักษณ์ภายนอกไปจนถึงด้านจิตใจ นี่จึงเป็นสาเหตุให้เธอผันตัวเองมาเป็นกูรูด้านสุขภาพและความงาม กวินเน็ธตัดสินใจเปิดเว็บไซต์ Goop ของตัวเองในปี 2008 รวบรวมทั้งเรื่องสุขภาพ ความงาม อาหาร สไตล์ การท่องเที่ยว ไปจนถึงการทำงาน เพราะเธอเริ่มจากความอยากรวบรวมรีวิวเรื่องพวกนี้แบบไม่มีอคติ เลยสร้างเว็บไซต์ของตัวเองเสียเลย ในที่สุดก็เกิดเป็นแบรนด์ในชื่อเดียวกัน แต่ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักมากตามมา

 

     อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 เธอก็ทำเงินไปได้เกือบ 20 ล้านเหรียญสหรัฐจากแบรนด์ Goop และยังจับมือกับนิตยสาร Condé Nast Traveler ออก Goop เป็นรูปเล่มวางแผงขาย และล่าสุดยังเปิดร้าน Goop Lab ในซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย ให้สาวกแบรนด์ไปเดินชมร้านเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

 

 

     เธอยังนำ Goop ไปจับมือกับแบรนด์ต่างๆ มากมายทั้ง Stella McCartney, Christian Louboutin และอีกเพียบ แต่ใครที่ยังไม่รู้จัก Goop มาก่อนอาจจะสงสัยว่าทำไมแบรนด์จิตใจดีถึงโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ล่ะ? นั่นเป็นเพราะคำแนะนำด้านการใช้ชีวิตของเธอผ่าน Goop มันแทบไม่มีข้อเท็จจริงอยู่เลย เช่น การใส่บราหรือชุดชั้นในรัดตัวอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งได้, การให้ผึ้งต่อยเป็นเทอราปีอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้น, การใส่เมล็ดทับทิมในอาหารทำให้ผู้ชายตกหลุมรักคุณได้ หรือถ้าคุณอยากซื้อโปรดักต์จาก Goop มันก็แพงเกินเรื่องมากๆ อย่างดัมเบลล์ทองคำ ราคา 125,000 เหรียญสหรัฐ และสเปรย์ไล่แวมไพร์ (มีขายจริงๆ) ที่ในเว็บไซต์ระบุว่าเป็นน้ำมันกลิ่นหอมที่จะช่วยไล่พลังงานร้ายออกไปได้ในราคา 30 เหรียญสหรัฐ หรือ 995 บาท จนล่าสุด Goop ได้รางวัล Rusty Razor สาขา Best at Promoting Pseudoscientific Nonsense หรือแบรนด์ที่นำเสนอเรื่องเหลวไหลเชิงวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมไปครอง แต่ด้วยความพีกของ Goop นี่แหละ เธอจึงตัดสินใจทำรายการทีวีเกี่ยวกับสุขภาพโดยเชิญแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และผู้รู้ มาให้คำแนะนำในรายการของเธอที่ใช้ชื่อว่า The Radical Wellness Show

     ถึงแม้ว่าพักหลังๆ แบรนด์ Goop ของเธอจะทำให้โดนกระแสสังคมโจมตีตลอดเวลา รวมไปถึงการเลิกรากับ คริส มาร์ติน ด้วยเหตุผลว่าจบกันด้วยดี คิดดีแล้วว่าอยากเลิก (ใครจะหย่ากับคริสได้ลงคอ?) แต่สุดท้ายก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่ จนกวินเน็ธได้ไปอยู่ในบทความตามเว็บไซต์ที่มีหัวข้ออย่าง ‘The unbearable wrongness of Gwyneth Paltrow’ (Please do not buy into her bullshit) ที่รวบรวมความเพ้อเจ้อของเธอให้คนทั่วโลกได้รู้กัน

 

 

     อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองกวินเน็ธ พัลโทรว์ เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการออกจากกรอบหลังโดนตราหน้าว่าเป็น ‘ดารา’ ตั้งแต่วัยรุ่น และถ้าเธอพยายามตั้งต้นธุรกิจของตัวเองจากความชอบและความเชื่อ กวินเน็ธก็ถือว่าทำสำเร็จทีเดียว แม้เสียงวิจารณ์ต่างๆ เหล่านั้นอาจจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะความที่เธอเป็นจุดสนใจตั้งแต่แรก แต่ในขณะเดียวกันคำวิจารณ์เหล่านั้นก็ช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้ทั้งตัวเธอเองและแบรนด์ Goop อย่างต่อเนื่อง… สุดท้ายเราก็ยังอยากเชื่อว่ากวินเน็ธเป็นทั้งนักแสดงและนักธุรกิจหญิงมากความสามารถคนหนึ่งที่อาจจะเผลอคิดอะไรเพี้ยนๆ ในบางทีเท่านั้นเอง

 

Photo goop.com

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising