×

ออมสินขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.40% ต่อปี ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% มีผล 10 เม.ย. เป็นต้นไป

11.04.2023
  • LOADING...
ธนาคารออมสิน ขึ้นดอกเบี้ย

ธนาคารต่างๆ ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ หลัง กนง. มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยล่าสุดคือธนาคารออมสินที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.40% ต่อปี และขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% มีผลวันที่ 10 เมษายนเป็นต้นไป 

 

วันนี้ (11 เมษายน) วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.75% ต่อปี มีผลวันที่ 29 มีนาคม 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องตามแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ธนาคารจึงได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.40% ต่อปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมแก่ลูกค้าบุคคลธรรมดารายย่อย และดูแลผู้ฝากเงินให้ได้รับประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น

 

โดยเป็นการปรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน, 6 เดือน, 12 เดือน, 24 เดือน และ 36 เดือน เพิ่มขึ้น 0.05-0.20% ต่อปี และเงินฝากประจำรายเดือนยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.40% ต่อปี

 

รวมถึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทในอัตรา 0.25% ต่อปี ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยของตลาดด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้โดยคำนึงถึงผลกระทบ และเพื่อให้ลูกค้ามีระยะเวลาการปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามทิศทางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว

 

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2566 เป็นต้นไป

 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา กฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.75% ต่อปี ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน 

 

ดังนั้นเพื่อส่งผ่านนโยบายดังกล่าว ธอส. จึงมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ 0.05-0.40% ต่อปี

 

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2566 เป็นต้นไป เช่นเดียวกัน

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising