ทุกวันนี้ประเด็นที่กลุ่มคนรักสุขภาพพูดคุยกัน นอกเหนือจากเรื่องวิธีการออกกำลังกาย แบบไหนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญไขมันได้ดี และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ ของตัวเองแล้ว เรื่องของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และช่วยเพิ่มการเผาผลาญก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่คนกลุ่มนี้ให้ความสนใจ

เห็นได้จากงานวิจัยมากมายที่พูดถึงสารสกัดที่เกี่ยวโยงกับการลดลงของมวลไขมัน และความทุ่มเทของนักวิจัยทั่วโลกก็ยังไม่หยุดใคร่รู้ และหาต้นตอของสารสกัดที่เกี่ยวโยงกับการลดไขมันในร่างกาย เพราะอย่างที่รู้ ไขมันที่สะสมในร่างกายไม่ได้เพิ่มแค่ก้อนไขมันย้วยๆ ตามพุง ท้องแขน ต้นขา เท่านั้น แต่ยังตามมาด้วยสารพัดโรคร้ายนับไม่ถ้วน ล่าสุดมีการค้นพบเมล็ดกาแฟสดที่ไม่ผ่านการคั่ว ซึ่งมีสีเขียวทั้งเมล็ด หรือที่รู้จักกันในชื่อ กรีนคอฟฟี่บีน (Green Coffee Bean) ส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญไขมันในร่างกาย ประเด็นนี้ได้รับความสนใจในหมู่คนรักสุขภาพขนาดที่ว่า The Dr.Oz Show รายการทอล์กโชว์สุขภาพอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการตอบรับ และถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกยังต้องเปิดประเด็นที่ว่า สารสกัดจากกรีนคอฟฟี่บีนช่วยยับยั้งการสร้างไขมันสะสม และนี่จะเป็นการลดน้ำหนักอีกวิธีหนึ่งหรือเปล่า?

Green Coffee Bean (กรีนคอฟฟี่บีน) คืออะไร ทำไมถึงเชื่อมโยงกับการยับยั้งการสร้างไขมันสะสม  
Green Coffee Bean เป็นเมล็ดกาแฟสดสีเขียวที่ไม่ผ่านการคั่ว เมื่อนำไปสกัดจะได้สารโพลีฟีนอลที่สำคัญ ได้แก่ กรดคลอโรเจนิค (Chlorogenic Acid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมาก และมีความเข้มข้นสูงในเมล็ดกาแฟสดสีเขียวที่ไม่ผ่านการคั่ว เนื่องจากกระบวนการคั่วจะทำให้กรดคลอโรเจนิคถูกทำลายไปประมาณ 60% ในการคั่วแบบปานกลาง แต่ถ้าเป็นการคั่วเข้มมีโอกาสสูญเสียสารสำคัญนี้ไปเกือบ 100% นอกจากนั้นการคั่วเมล็ดกาแฟยังมีผลต่อปริมาณคาเฟอีน เนื่องจากสารสกัดกรีนคอฟฟี่บีนจากเมล็ดกาแฟสดสีเขียวที่ไม่ผ่านการคั่ว จะมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วแล้ว 

ทำไมกรดคลอโรเจนิคจึงได้รับความสนใจในกลุ่มคนที่มองหาตัวช่วยเผาผลาญไขมันใน ร่างกาย? งานวิจัยพบว่า กรดคลอโรเจนิคเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย จึงช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันในร่างกาย และป้องกันการสะสมของไขมันในตับ (Fatty Liver) ได้ รวมถึงยับยั้งการดูดซึมของไขมัน และการทำงานของเอ็นไซม์ที่ย่อยไขมัน (Pancreatic Lipase) ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และยังช่วยยับยั้งการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรต และการทำงานของเอ็นไซม์อัลฟ่ากลูโคซิเดส (α-Glucosidase) ซึ่งจะช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด ชะลอการเพิ่มของระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ 

ไม่เพียงเท่านั้น กรดคลอโรเจนิคยังช่วยให้เอ็นไซม์คาร์นิทีน ปามิโตอิล ทรานซ์เฟอร์เลส (Carnitine Pamitoyl Transferase) ในตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้นำไขมันไปใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น และกระตุ้นการสร้างคาร์โบไฮเดรจจากสารที่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต ทำให้เกิดการใช้พลังงานที่สูง จึงช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานอีกทางหนึ่งด้วย

มีการทดลองที่ให้กลุ่มตัวอย่างรับประทานสารสกัดกรีนคอฟฟี่บีนเสริม พบว่า ค่าดัชนีมวลกายลดลง ระดับมวลไขมันในร่างกายลดลง และยังช่วยลดระดับไขมันไม่ดี LDL-C และเพิ่มระดับไขมันดี HDL-C ในเลือดได้ 

ยังมีข้อดีที่พวกเราอาจจะปลื้ม นั่นคือ กรดคลอโรเจนิคยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำดียิ่งขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เซลล์ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น ที่สำคัญยังเพิ่มการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ซูเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase, SOD) ช่วยยับยั้งริ้วรอยก่อนวัยอันควร  

ลองเสิร์ชบทความเกี่ยวกับ Green Coffee Bean ดูจะพบว่า ต่างประเทศเขาคุยเรื่องนี้ กันมาสักพัก ก็คงเหมือนกับที่นักวิจัยใคร่รู้ และผู้ที่สนใจเรื่องสุขภาพอยากเคลียร์ข้อสงสัยถึงคุณสมบัติของสารสกัดในกรีนคอฟฟี่บีน จะกลายมาเป็นตัวช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้จริงอย่างที่หลายงายวิจัยค้นพบหรือไม่ นี่เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคอย่างเราต้องศึกษาหาข้อมูลกันไว้อีกทาง เพราะสุดท้ายแล้ว การเลือกอาหารที่ดีก็ส่วนหนึ่ง การออกกำลังกายก็สำคัญ ทำควบคู่กันได้ สุขภาพดีไม่หนีไปไหนแน่นอน

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

• 1.งานวิจัยการยับยั้งเอ็นไซม์ อัลฟ่า-กลูโคซิเดส http://www.crdc.kmutt.ac.th/document/download/agr/agr4/301-304.pdf
  
• 2.Green Coffee Bean: Do Benefits Outweigh Risks of This Weight Loss Supplement? https://draxe.com/nutrition/green-coffee-bean/
• 3.Coffee polyphenols extracted from green coffee beans improve skin properties and microcirculatory function. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/28675091
• 4.The effects of green coffee bean extract supplementation on lipid profile in humans: A systematic review and meta-analysis of randomized controlled trials https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0939475319303837
• 5.Effects of green coffee extract on fasting blood glucose, insulin concentration and homeostatic model assessment of insulin resistance (HOMA-IR): a systematic review and meta-analysis of interventional studies. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/31709016
• 6.A simple meal plan of ‘eating vegetables before carbohydrate’ was more effective for achieving glycemic control than an exchange–based meal plan in Japanese patients with type 2 diabetes http://apjcn.nhri.org.tw/server/APJCN/20/2/161.pd
• 7.Food Order Has a Significant Impact on Postprandial Glucose and Insulin Levels  https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4876745/