×

รัฐบาลชดเชยรายได้ให้ กทม. 1.2 พันล้านบาท และท้องถิ่นรวม 227 แห่ง หลัง ครม. มีมติลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้รายได้ลดลง

โดย THE STANDARD TEAM
16.08.2022
  • LOADING...
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

วันนี้ (16 สิงหาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1,970 ล้านบาท สำหรับเป็นเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อชดเชยรายได้ให้แก่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,245 ล้านบาท เมืองพัทยาจำนวน 37 ล้านบาท เทศบาลนคร 30 แห่ง จำนวน 332 ล้านบาท และเทศบาลเมือง 195 แห่ง จำนวน 354 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 227 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2563 

 

โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่ กทม. เมืองพัทยา เทศบาลนคร และเทศบาลเมือง ต่อไป           

 

ทั้งนี้เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท สำหรับปีภาษี 2563 ทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง 21,890 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ที่จัดเก็บได้ในปี 2562 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประมาณการรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปีงบประมาณ 2563 โดยที่ผ่านมา อปท. กลุ่มนี้ยังไม่ได้รับการชดเชยรายได้ดังกล่าว ในขณะที่ อปท. ประเภทอื่นที่ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน ได้แก่ เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อชดเชยรายได้ดังกล่าวแล้วจำนวน 10,067 ล้านบาท ดังนั้นในครั้งนี้ อปท. กลุ่มนี้จึงมีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้มีรายได้เพียงพอที่จะดูแลและจัดทำบริการสาธารณะและกิจการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนและท้องถิ่น           

 

ไตรศุลีกล่าวต่อไปว่า ครม. มีมติเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 โดยมีสาระสำคัญเป็นการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราร้อยละ 90 ให้แก่ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากประกอบเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย และที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ สำหรับปีภาษี 2563

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising