วันนี้ (15 กรกฎาคม) ที่บ้านปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ บรรยากาศการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนและพรรคร่วมรัฐบาล จากนั้นได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน
และ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้องเพลง รักเธอนิรันดร์ (รอยรักรอยอดีต) ของศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ โดยในท่อนท้าย อนุทินแปลงเนื้อร้องของเพลงว่า “ฉันจะอยู่เพื่อรักตลอดไป แม้สิ้นลมหายใจ I Love You” และเดินไปหาแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
จากนั้นอนุทินเชิญแพทองธาร รวมถึงคณะรัฐมนตรี เช่น ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมร้องเพลง ‘เราและนาย’ ของวงโลโซ
ภายหลังจบเพลงผู้สื่อข่าวสอบถามอนุทินว่า รัฐบาลนี้จะอยู่จบครบ 4 ปีหรือไม่ อนุทินตอบติดตลกว่า 4 + 4 หรือเปล่า พร้อมหัวเราะกับนักข่าว
จากนั้นคณะรัฐมนตรีได้ร่วมกันแถลงข่าว แพทองธารกล่าวว่า บรรยากาศดีมาก พรรคพลังประชารัฐเป็นคนจัดงานสนุกสนาน อาหารอร่อยมาก ก่อนกลับมีการร้องเพลงเล็กน้อย
ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวเสริมว่า ต้องการเห็นความรัก ความสามัคคีในพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะขอจัดงานเช่นนี้ไปทุกเดือน เดือนนี้เป็นของพรรคพลังประชารัฐ เดือนหน้าเป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องกัญชาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย วงอาหารวันนี้สามารถหาจุดสมดุลร่วมกันได้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องที่พูดคุยกันในระดับกระทรวง โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ไม่ต้องเข้า ครม. เราพูดคุยกันเรื่องความมั่นคงของรัฐบาล จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีสิ่งที่ทำให้รัฐบาลไม่มั่นคงหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวขึ้นมาว่า “ยังไม่รู้สึกไม่มั่นคง” ก่อนที่ ร.อ. ธรรมนัสจะกล่าวว่า “อย่าทำให้บรรยากาศมันเครียด” วันนี้มีพรรคเล็กมาร่วมด้วย และร่วมมานานแล้ว หากสังเกตการโหวตงบประมาณจะเห็นว่า มีจำนวนพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น