×
SCB Omnibus Fund 2024

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงหนัก ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 700 จุด นักลงทุนผวาเดลตาแห่ขายสินทรัพย์เสี่ยง เข้าสินทรัพย์ปลอดภัย

20.07.2021
  • LOADING...
ตลาดหุ้นทั่วโลก

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดที่ปะทุขึ้นอีกระลอกในหลายพื้นที่ทั่วโลก แม้แต่ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูงอย่างสหรัฐฯ ส่งผลฉุดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกปิดตลาดเมื่อวานนี้ (19 กรกฎาคม) ปรับตัวในแดนลบทั่วหน้า

 

โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งแรงถึง 725.81 จุด หรือ 2.1% ปิดตลาดที่ 33,962.04 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ลดลง 68.67 จุด หรือ 1.6% มาอยู่ที่ 4,258.49 จุด หลังจากที่เพิ่งทำนิวไฮไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนีแนสแด็กลดลง 152.25 จุด หรือ 1.1% มาอยู่ที่ 14,274.98 จุด

 

ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มสายการบิน เรือ และการท่องเที่ยว เป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อวานนี้ คล้ายคลึงกับช่วงที่เกิดเหตุระบาดของไวรัสโควิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปี 2020 โดยหุ้นของสายการบิน United Airlines ลดลง 5.5% และหุ้นของบริษัทเรือสำราญ Carnival ลดลง 5.7%

 

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวในแดนลบทั่วหน้า โดยตลาดหุ้นในยุโรปลดลงเฉลี่ยราว 2.5% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียลดลงเล็กน้อย ซึ่งการแห่เทขายของนักลงทุนเมื่อวานนี้เป็นผลมาจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

 

ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่า 1.20% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวในตลาดเป็นผลจากปฏิกิริยาตอบสนองที่ตกใจเกินกว่าเหตุของนักลงทุนและเชื่อว่าตลาดจะสามารถดีดตัวฟื้นกลับมาได้ในระยะเวลาอันสั้น

 

ด้านราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงถึง 8% ทำให้ราคาอยู่ต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขานรับข่าวดีที่กลุ่มโอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิตจำนวน 400,000 บาร์เรลต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปและยาวต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน ปี 2022

 

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลดลง 7.51% มาอยู่ที่ 66.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลดลง 6.75% มาอยู่ที่ 68.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising