×

รพ.สต. บุกทำเนียบ ขอประยุทธ์เร่งถ่ายโอนไปอยู่กับ อบจ. จะทำงานได้เต็มที่ ชี้พรรคไหนทำให้ได้ พร้อมที่จะสนับสนุน

โดย THE STANDARD TEAM
25.03.2022
  • LOADING...
รพ.สต. บุกทำเนียบ ขอประยุทธ์เร่งถ่ายโอนไปอยู่กับ อบจ. จะทำงานได้เต็มที่ ชี้พรรคไหนทำให้ได้ พร้อมที่จะสนับสนุน

วันนี้ (25 มีนาคม) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล สมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. (ประเทศไทย) พร้อมด้วยสมาชิก รพ.สต. จังหวัดต่างๆ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่ได้เห็นชอบกรอบวงเงินปีงบประมาณ 2566 เพื่ออุดหนุน ให้แก่ รพ.สต. ถ่ายโอนบุคลากร จำนวน 3,384 แห่ง มีบุคลากรสมัครใจจำนวน 22,265 คน โดยชมรมเห็นว่ารายละเอียดกรอบวงเงินที่สำนักงบประมาณเสนอ ครม. นั้นไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)  กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ซึ่งไม่เป็นไปตามมติคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เห็นชอบให้มีการถ่ายโอนภารกิจดังกล่าวให้แก่ อบจ. 49 แห่ง ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งสำนักงบประมาณ เสนอ ครม. เห็นชอบตามกรอบวงเงินงบประมาณ ให้มีการถ่ายโอนเพียง 512 แห่ง ทำให้เกิดข้อขัดข้องทางกฎหมาย และไม่เป็นไปตามหลักการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้นจึงขอเร่งรัดให้มีการถ่ายโอน รพ.สต. ให้ครบทั้งหมด ตามที่เคยเป็นมติคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายในปีงบประมาณ 2566 โดยมี ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ

 

สมศักดิ์ระบุว่า การถ่ายโอน รพ.สต. ให้ อบจ. พวกเราเชื่อมั่นว่าจะทำให้การบริการประชาชนดีกว่าเดิม เพราะเราจะได้รับงบประมาณและคนอย่างเต็มที่ และเมื่อไปอยู่ภายใต้ อบจ. สายการบังคับบัญชาจะสั้นลง และจะตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว และวันนี้เรามี รพ.สต. ทั้งประเทศประมาณ 10,000 แห่ง แต่ละแห่งมีบุคลากร 5 คน และยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ดูแลประชาชนทั่วประเทศอยู่ประมาณ 1.04 ล้านคน แต่ละคนดูแลประชาชน 15 ครัวเรือน แต่ละหลังเฉลี่ย 3 คน เราถือว่ามีคนในเครือข่ายเยอะมาก สามารถตั้งพรรคการเมืองได้เลย หากพรรคการเมืองใดดูแลเราเพื่อให้เราไปดูแลประชาชน เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน และหาก พล.อ. ประยุทธ์ ผลักดันในเรื่องนี้ เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ต่อ แต่ขอให้สนับสนุนเราจริงๆ

 

ทั้งนี้หากรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองได้ แสดงว่าไม่ตอบสนองประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง เราจะเอาประชาชนเป็นตัวตั้งในการดูแลสุขภาพ และหากรัฐบาลไม่ตอบสนองก็จะแสดงปฏิกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising