สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประเทศเยอรมนีเตรียมปฏิรูปอุตสาหกรรมยานยนต์ และจูงใจประชาชนให้หันมาใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการออกคำสั่งให้สถานีบริการน้ำมันทุกแห่งในประเทศติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ภายใต้งบลงทุนรวมกว่า 1.3 แสนล้านยูโร หรือราว 4.65 ล้านล้านบาท
โดยเยอรมนีเชื่อว่า กลยุทธ์ดังกล่าว รวมถึงภาษีรถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิล (สูงกว่าภาษีรถยนต์พลังงานทางเลือก) ตลอดจนการช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ 6,000 ยูโร หรือราว 215,000 บาท จะช่วยกระตุ้นความต้องการให้พลเมืองในประเทศหันมาซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น
ตามข้อมูลจากกรมขนส่งเยอรมนีระบุว่า จากจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่จดทะเบียนในเดือนพฤษภาคมที่ 168,148 คัน มีเพียง 3.3% เท่านั้นที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า โดยตลอดทั้งปี 2019 มีรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนใหม่ในประเทศน้อยกว่า 2% ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไม่สูงเท่าที่ควร เป็นผลจากความกังวลของผู้ใช้งานที่มีต่อการชาร์จแบตเตอรี่ตัวรถยนต์
ด้าน The Mobility House บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านหน่วยจัดเก็บพลังงาน Energy Storage ในเยอรมนี กล่าวถึงนโยบายกระตุ้นการซื้อรถไฟฟ้าของรัฐบาลว่า สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ชัดเจนสำหรับการใช้รถยนต์แบตเตอรี่พลังงานไฟฟ้า และเสริมสร้างความคล่องตัวด้านเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับโลกอนาคต
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: