เยอรมนีโควิดระลอก 4 รุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากประชาชนบางส่วนยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) เยอรมนีกำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่ 4 ที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากประชาชนบางส่วนยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ประกอบกับเชื้อเดลตาที่เป็นเชื้อหลักในการแพร่ระบาดที่มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อสูง ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่นาน

โรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยในเมืองกีเซิน หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำด้านระบบทางเดินหายใจของเยอรมนี มีจำนวนผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด

ดร.ซูซาน แฮโรลด์ หัวหน้าทีมด้านโรคติดต่อของโรงพยาบาล สอบถามเหตุผลว่าทำไมผู้ป่วยถึงตัดสินใจไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน คำตอบที่เธอได้รับส่วนใหญ่มาจากความไม่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีน ความไม่เชื่อใจในรัฐ และบ่อยครั้งก็ยากที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่คัดกรองและตรวจสอบความถูกต้องแล้ว

ก่อนหน้านี้เยอรมนีถือเป็นหนึ่งในประเทศที่บริหารจัดการวิกฤตได้ดี มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดต่ำมาก ตรวจหาเชื้อ คัดกรอง กักกัน และติดตามกลุ่มเสี่ยงอย่างรวดเร็ว เพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วย รวมถึงเชื่อมั่นในตัวผู้นำรัฐบาลอย่างอังเกลา แมร์เคิล ก่อนที่เยอรมนีจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง อัตราการฉีดวัคซีนลดต่ำลง โดยเฉพาะวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยนักไวรัสวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดมองว่าประชาชนบางส่วนยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน มีส่วนสำคัญทำให้การแพร่ระบาดระลอกนี้รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ดร.แฮโรลด์ระบุว่า เยอรมนีจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ได้อย่างน้อย 85% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ ซึ่งในขณะนี้เยอรมนียังมีผู้เข้ารับวัคซีนต่ำกว่า 70% ซึ่งเธอไม่แน่ใจว่าเยอรมนีจะเอาชนะการระบาดระลอกที่ 4 นี้ไปได้อย่างไร หรือเยอรมนีอาจจะแพ้แล้วก็เป็นได้

ล่าสุดเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อสะสม 4,957,374 ราย เสียชีวิตแล้ว 97,394 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ราววันละ 50,000 ราย ขณะที่ยอดผู้ที่เข้ารับวัคซีนโควิดครบโดสแล้วอยู่ที่ 55,926,691 ราย หรือคิดเป็น 67.27% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง: