ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ความฝันอันแสนโรแมนติกในการเดินไปตามทางเดินที่โรยด้วยดอกไม้ กำลังทำให้คู่หนุ่มสาวหลายคู่คิดใหม่เกี่ยวกับบรรทัดฐานการแต่งงานแบบดั้งเดิม การสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้โดย Thriving Center of Psychology เปิดเผยว่า 75% ของคู่รัก Gen Z และ Millennial รู้สึกหวาดกลัวกับค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน
ปีที่แล้ว ความฝันของงานแต่งงานที่งดงามราวกับภาพวาดมีราคาสูงลิบ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,000 ดอลลาร์จากปีก่อนหน้า ตามการศึกษาประจำปีของ The Knot
ถึงกระนั้น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเงินนี้ คนรุ่นใหม่ยังคงมองโลกในแง่ดี ในขณะที่ตระหนักถึงค่าใช้จ่ายจำนวนมาก Gen Z 66% รู้สึกว่างานแต่งงานเป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า การอุทิศตนเพื่อความรักของพวกเขา แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ตอกย้ำความโรแมนติกที่ไม่สิ้นสุดของพิธีสมรส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ฟองสบู่กำลังแตกเหมือน Bitcoin? พบ ‘นาฬิกาหรูมือสอง’ ราคาดิ่งลงมากสุดในรอบ 2 ปี ชี้อาจเป็นโอกาสทองของ Gen Z ที่ช้อนซื้อเพื่อสะสม
- โปสการ์ดหรือแม่เหล็กติดตู้เย็นเชยไปแล้ว คนรุ่น Millennial และ Gen Z เปลี่ยนมานิยม ‘รอยสัก’ เป็นของที่ระลึกจากการท่องเที่ยว
- อิสระทางการเงินยังเป็นเรื่องยาก เมื่อคน Millennial และ Gen Z ในสหรัฐฯ ยังแบมือ ‘ขอเงิน’ พ่อแม่อยู่ แม้จะรู้สึกอับอายก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คู่รักหลายคู่อย่าง Janet และ Brian Counts กำลังนิยามความฝันใหม่ โดยพิสูจน์ให้เห็นว่าการแต่งงานที่น่าจดจำไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายเสมอไป เพราะการสมรสของทั้งคู่ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2022 ทำให้ทั้งคู่มีค่าใช้จ่ายไม่ถึง 15,000 ดอลลาร์ หรือราว 5 แสนบาท
Janet เชื่อว่ากุญแจสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจลำดับความสำคัญของคนคนหนึ่ง “มันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจากงานแต่งงาน” เธอกล่าว
Jason Rhee นักวางแผนงานแต่งงานในแคลิฟอร์เนียจับสาระสำคัญของความรู้สึกนี้ เขาตั้งข้อสังเกตว่างานแต่งงานในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนจากความยิ่งใหญ่ไปสู่ความใกล้ชิด ซึ่งเกิดจากการที่คู่รักควักเงินในกระเป๋าของตัวเองเพื่อหาเงินแต่งงาน เพื่อให้แน่ใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้ไปนั้นสอดคล้องกับลำดับความสำคัญของพวกเขา ได้กระตุ้นให้ฉลาดขึ้นในการเลือกมากขึ้น
ตามคำแนะนำ คู่บ่าวสาวจัดลำดับความสำคัญของพวกเขาให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการดื่มด่ำกับสถานที่ในฝัน หรือช่างภาพที่มีชื่อเสียงสามารถทำได้ ขณะที่การประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ สามารถช่วยรักษาสมดุลของค่าใช้จ่ายได้
ตัวอย่างเช่น Janet และ Brian Counts ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณภาพ บาร์แบบเปิดโล่ง และการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้เหมาะกับยุคของ Pinterest และ Instagram ขณะเดียวกันถ่วงดุลกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ พวกเขาเลือกใช้ดอกไม้ประดิษฐ์สำหรับตกแต่งแทนดอกไม้สด
การปรับตัวตามข้อจำกัดด้านงบประมาณยังทำให้มีแนวโน้มเกิดขึ้นใหม่ นั่นคือแทนที่จะตัดชุดเจ้าสาว หลายๆ คนก็เลือกที่จะเช่าแทน ซึ่ง Miriam Williams ผู้ร่วมก่อตั้ง Laine London บริษัทให้เช่าชุดเจ้าสาวในแอตแลนตา รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในลำดับความสำคัญโดยพบว่า “ว่าที่เจ้าสาวรุ่นต่อไปกำลังคิดถึงประสบการณ์มากกว่าทรัพย์สิน”
สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่มีงบจำกัดอาจเลือกผู้จัดหน้าใหม่ ซึ่งของที่ถูกกว่าไม่ได้หมายความถึงคุณภาพที่ลดลง แต่อาจหมายความว่าพวกเขาใหม่กว่าในอุตสาหกรรม
อ้างอิง:
