TASTE: กากี่นั้ง รูฟท็อปบาร์ของคนกันเองในย่านเมืองเก่า พร้อมชมวิวเจดีย์วัดบวรฯ

หนึ่งในกิจกรรมที่เราอยากให้คุณลองในช่วงเย็นวันหยุดคือการเดินเล่นย่านวัดบวรฯ และมาชมวิวท้องฟ้าสีชมพูม่วงยามเย็นที่ กากี่นั้ง รูฟท็อปบาร์หน้าใหม่ของพระนคร

เมื่อคุณเดินข้ามสะพานอุษาสวัสดิ์ ก็จะพบกับตึกใหญ่กว่าสามคูหาที่ตกแต่งอย่างสวยงามตระหง่านอยู่ตรงหน้า ตึกหัวมุมทำเลดีแห่งนี้เป็นตึกที่ถูกซื้อไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ปัจจุบันถูกรีโนเวตให้ชั้น 1-2 เป็นส่วนของคาเฟ่และร้านอาหาร ส่วนชั้น 3 เป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่าที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้ ส่วนชั้น 4 หรือชั้นบนสุดก็คือ กากี่นั้ง รูฟท็อปบาร์ที่เรากำลังจะพาทุกคนไปสัมผัสนี่เอง

บรรยากาศร้าน

การจะขึ้นไปชั้นบนสุดคุณจะต้องเดินผ่านทุกชั้นของร้าน เราแนะนำให้ลองแวะไปดูพิพิธภัณฑ์ของเก่าที่ชั้น 3 ก่อนที่จะเดินต่อไปยังชั้น 4 คุณจะได้เห็นของหายากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ร้านตัดผม เปียโน ออร์แกน นาฬิกาดีไซน์แปลก และอีกหลากหลายอย่าง

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 4 ก็จะเจอกับร้านที่เปิดโล่งให้มองเห็นวิวย่านวัดบวรฯ ได้แบบรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของชาวบ้านย่านนี้ที่เดินไปเดินมา นักตกปลาที่มาจับจองพื้นที่ริมสะพาน หรือมองไปไกลหน่อยก็จะเจอกับวิวเจดีย์ของวัดบวรฯ สีทองอร่ามตัดกับสีท้องฟ้า

บรรยากาศร้าน

ถึงจุดนี้ก็สามารถจับจองที่นั่งกันตามชอบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นโซฟาริมระเบียง โต๊ะหน้าตู้เครื่องดื่ม ทางร้านตั้งใจเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาเพื่อให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันในทุกครั้งที่คุณกลับมา ถ้าคุณเคยนั่งเก้าอี้ไม้หน้าตู้เครื่องดื่มแล้ว ครั้งหน้าลองนั่งเก้าอี้เอนหลังริมระเบียงดูก็ได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง

บรรยากาศร้าน

การตกแต่งในร้านมีเอเลเมนต์สของความเป็นจีนอยู่ในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝาบ้านที่แกะสลักเป็นลวดลายแบบจีน ป้ายไฟนีออนที่ทำเป็นรูปมังกร โคมจีน เคาน์เตอร์บาร์กับฝาไม้สีแดงสดแกะสลักลวดลายสวยงาม

กากี่นั้ง เป็นคำจีนแต้จิ๋ว แปลว่า คนกันเอง ครอบครัวเดียวกัน พวกพ้อง เพราะที่มาของร้านนั้นก็เป็นความร่วมแรงร่วมใจของคนในครอบครัวและคนใกล้ตัว

“เป้าหมายของเราคือเราอยากให้เป็นคราฟต์เบียร์บาร์ เรากินคราฟต์เบียร์มา 3 ปี ได้รู้จักคนหลายคน คุยกับร้านแถวนี้ทุกคนก็สนับสนุนกันดี มีความเป็นเพื่อนพ้อง รวมกันเราอยู่มากๆ” ทับทิม เจ้าของร้านกากี่นั้งที่ชื่นชอบคราฟต์เบียร์เป็นชีวิตจิตใจ เล่าถึงช่วงแรกเริ่มทำร้านว่าเธออยากมีตู้เป็นของตัวเอง อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนคราฟต์เบียร์ไทย และเป็นหนึ่งเสียงที่ทำให้ต่างชาติได้รู้ว่ามีคราฟต์เบียร์ไทยที่ดีอยู่มากมาย

อาหารของทางร้าน

ในส่วนของอาหาร แม้จะเป็นคราฟต์เบียร์บาร์ แต่เป็นร้านสไตล์จีนขนาดนี้ คงไม่ปล่อยคุณหิวกลับบ้านแน่นอน เมนูอาหารของกากี่นั้งนั้นเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกของอาหารจีนหลากหลายชนิดที่สามารถสั่งมาแชร์กันตรงกลางได้ เมนูเหล่านี้ถูกสร้างสรรค์โดย แดนนี่ ลูกครึ่งฮ่องกงที่รักการทำอาหารยิ่งกว่าสิ่งใด

หมูแดงฮ่องกงสูตรแดนนี่ทำเอง (160 บาท)

ผัดหมี่ฮ่องกง (180 บาท) และ หมูแดงฮ่องกงสูตรแดนนี่ทำเอง (160 บาท)

สองเมนูเด็ดที่มาถึงแล้วอยากให้สั่งสุดๆ ไปเลยคือ หมูแดงฮ่องกงสูตรแดนนี่ทำเอง (160 บาท) แดนนี่เล่าว่าเขาชอบกินหมูแดงอยู่แล้ว แต่หมูแดงแบบไทยและแบบฮ่องกงนั้นไม่เหมือนกันเลย ปกติหมูแดงของไทย เนื้อหมูจะเป็นหมูที่ไม่มีกลิ่นหมักของเครื่องเทศมากนัก รสชาติจะอยู่ที่น้ำราดข้นหนืดแทน แต่หมูแดงแบบฮ่องกงนั้นจะเข้มข้นจากเนื้อหมูโดยไม่มีน้ำราด หรือถ้ามีน้ำราดก็เป็นเพียงน้ำราดเนื้อใสเท่านั้น หมูแดงฮ่องกงสูตรแดนนี่ทำเองจึงเป็นหมูแดงที่หนานุ่ม คงความชุ่มฉ่ำไว้ได้ดี

ยิ่งเอาหมูแดงมาจับคู่กับ ผัดหมี่ฮ่องกง (180 บาท) อีกหนึ่งเมนูที่แดนนี่ชอบ จะยิ่งเป็นคู่ที่ลงตัว ผัดหมี่ฮ่องกงจานนี้เป็นเมนูคอมฟอร์ตแบบฮ่องกงจากส่วนผสมง่ายๆ อย่างเส้นหมี่ฮ่องกง กะหล่ำปลี กุ้ง ต้นหอม เห็ด และซอสทำเอง ทางร้านเลือกใช้เส้นหมี่ฮ่องกงที่แปลกออกไปอย่างเส้นบะหมี่กุ้ง เป็นเส้นบะหมี่ที่ทำจากแป้งและกุ้ง ทำให้เส้นมีกลิ่นหอมคล้ายกุ้งแห้ง

เกี๊ยวปลาท่าฉลอมทอด (80 บาท) และ ปอเปี๊ยะทอด (60 บาท)

ส่วนเมนูของกินเล่นทางร้านก็มีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่เมนูของทอดเบสิกแชร์กันกินสนุกๆ อย่าง ปอเปี๊ยะทอด (80 บาท) และ เกี๊ยวปลาท่าฉลอมทอด (80 บาท) ที่ทับทิมเล่าว่าอยากมีเมนูของทอดที่ไม่เหมือนคนอื่น แล้วบังเอิญได้ไปอ่านบทความเกี่ยวกับท่าฉลอมและได้รู้ว่าตรงนั้นเป็นหมู่บ้านที่มีคนจีนอยู่เยอะ และมีเกี๊ยวปลาที่ขึ้นชื่อ ก็เหมาะกับกากี่นั้งสุดๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอ เลยขับรถออกไปตามหาเกี๊ยวปลากันเลย ปกติเกี๊ยวปลาจะเสิร์ฟในรูปแบบต้มหรือนึ่งมากกว่า เมื่อทางร้านนำมาทอดจนกรอบก็เป็นเท็กซ์เจอร์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใครสมดั่งความตั้งใจของทับทิม

ไก่ทอดฉงชิ่ง (210 บาท)

มันฝรั่งเนื้อหั่นเต๋าผัดซอสพริกไทยดำ (280 บาท)

หมึกทอดคั่วพริกเกลือสไตล์ฮ่องกง (240 บาท) และ ต้มเกี่ยมบ๊วยหมูสับ (160 บาท)

แต่ถ้าใครมองหาของกินเล่นที่พิเศษและออกเผ็ดเสริมกับรสชาติเครื่องดื่มขึ้นมาหน่อย ก็อยากให้ลอง ไก่ทอดฉงชิ่ง (210 บาท) เมนูอาหารจีนดั้งเดิมที่เป็นไก่ชิ้นเล็กชุบแป้งทอดนำไปผัดกับเครื่อง ทั้งพริกแห้ง พริกเสฉวน เน้นความหอม กรอบ เผ็ด และเผื่อความสนุกในวง ตอนเสิร์ฟทางร้านจะวางไก่ไว้ด้านล่าง แล้วฝังทับด้วยพริกแห้งจำนวนมหาศาล เป็นเหมือนชาเลนจ์เบาๆ ว่าในวงนี้ใครจะคีบไก่ได้มากกว่ากัน

หรือจะเป็นเมนู มันฝรั่งเนื้อหั่นเต๋าผัดซอสพริกไทยดำ (280 บาท) อีกหนึ่งเมนูรสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อน จากการเอามันฝรั่งและเนื้อวัวมาหั่นเต๋าให้เท่ากันแล้วนำไปผัดกับซอสพริกไทยดำ แต่เท่านั้นยังไม่พอ ทางร้านซอยพริกใส่มาเพิ่มให้อีก โดนใจคนชอบกินเผ็ดแน่นอน หรือจะ หมึกทอดคั่วพริกเกลือสไตล์ฮ่องกง (240 บาท) เมนูกับแกล้มยอดฮิตของฮ่องกง ที่ถ้ามีเครื่องดื่มแล้วจะไม่มีเมนูนี้ไม่ได้ ปิดท้ายด้วย ต้มเกี่ยมบ๊วยหมูสับ (160 บาท) ซุปรสชาติเปรี้ยวเค็มที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นหลังจากดื่ม

ถ้ามาแล้วยังไม่รู้ว่าจะกินหรือดื่มอะไรดี เราแนะนำให้คุณลองคุยกับทีมกากี่นั้งดู แล้วคุณอาจจะได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคน เพราะที่นี่มีแต่คนกันเอง!