×

ผู้นำ 19 ประเทศกลุ่ม G20 ร่วมผลักดันความตกลงปารีส สหรัฐฯ ยังนิ่ง ทรัมป์ให้เหตุผลอากาศและน้ำในประเทศสะอาดอยู่แล้ว

29.06.2019
  • LOADING...

ในการประชุมซัมมิต G20 วันที่ 2 (29 มิ.ย.) อีกหนึ่งวาระที่ถูกนำขึ้นมาหารือร่วมกันคือประเด็น ‘ความตกลงปารีส’ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อนที่ส่งผลให้สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวนผันผวนอย่างรวดเร็ว รวมถึงปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน

 

เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร หนึ่งในผู้นำตัวตั้งตัวตีที่ผลักดันความร่วมมือการแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อน เรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ตื่นตัวเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังเหมือนที่สหราชอาณาจักรได้ประกาศภารกิจปล่อยมลพิษให้กลายเป็น ‘ศูนย์’ (Zero Emission) ภายในปี 2050 หรืออีกประมาณ 31 ปีต่อจากนี้

 

“ไม่กี่เดือนมานี้เราได้รับฟังเสียงเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนหลายแสนคนทั่วโลกที่เรียกร้องให้เราในฐานะผู้นำของพวกเขาดำเนินการแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจังก่อนที่มันจะสายเกินเยียวยา ฉันภูมิใจที่สหราชอาณาจักรได้ทำให้พันธกิจการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์กลายเป็นหนึ่งในข้อบังคับทางกฎหมาย และฉันขอเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ มุ่งมั่นที่จะดำเนินตามเป้าหมายเดียวกันนี้

 

“ฉันเชื่อมั่นในความสำคัญของการร่วมมือระหว่างประเทศและการประนีประนอมซึ่งกันและกัน สัปดาห์นี้ที่โอซาก้า เราได้พยายามอย่างหนักเพื่อเชื่อมโยงความต่างระหว่างประเทศในกลุ่ม G20 เข้าหากันในประเด็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่ชาติของเรากำลังเผชิญ” เมย์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุม

 

ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปในปี 2017 สหรัฐอเมริกาเป็นเพียงชาติเดียวในกลุ่ม G20 ที่ปฏิเสธและไม่สนับสนุนแนวคิดความตกลงปารีส 

 

เช่นเดียวกันกับการประชุมซัมมิตที่จัดขึ้นที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ซึ่งทรัมป์ยังคงยืนบนจุดเดิมคือไม่ร่วมความตกลงปารีส โดยให้เหตุผลว่าสภาพอากาศและน้ำที่ประเทศของตนในตอนนี้นั้นใสสะอาดกว่าที่เคยมีมาอยู่แล้ว ทั้งยังโจมตีการหันไปใช้พลังงานลมว่าจำเป็นจะต้องได้รับการลงทุนที่สูงมากๆ จากภาครัฐ

 

“พวกเรามีน้ำที่ใสสะอาดที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา มีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ผมจะไม่ยอมเสียแหล่งพลังงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เราทุ่มเทใช้เวลาสร้างมาเป็นระยะเวลานาน

 

“ผมไม่แน่ใจหรอกว่าผมเห็นด้วยกับส่ิงที่ประเทศอื่นๆ กำลังทำอยู่ นั่นคือการสูญเสียแหล่งพลังงานขนาดมหาศาล”

 

ทั้งนี้ทรัมป์ยืนยันว่าการที่เขาไม่เข้าร่วมความตกลงปารีสไม่ได้หมายความว่าเขาเพิกเฉยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษ แต่การลงไปจัดการกับปัญหาเชิงลึกในระยะยาวอาจจะส่งผลกระทบกับภาคเศรษฐกิจของประเทศได้

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising