×

สัญญาณเก็งกำไรค่าบาท! ต่างชาติโหมซื้อสุทธิบอนด์ไทย 1.2 หมื่นล้านบาท เน้นเข้าตัวสั้น กดดันค่าเงินแข็งแตะ 32.76 ต่อดอลลาร์

09.11.2021
  • LOADING...
Thai bonds net

เงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดวันนี้ (9 พฤศจิกายน) เงินบาทปิดตลาดที่ 32.76 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งปิดตลาดที่ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ หรือคิดเป็นการแข็งค่าขึ้นราว 1.71%

 

การแข็งค่าของเงินบาทเป็นผลจากเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่า และเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ไหลเข้ามาทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย โดยวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยราว 12,119 ล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นไทยมียอดซื้อสุทธิ 1,990 ล้านบาท

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เงินบาทรอบนี้กลับมาแข็งค่าค่อนข้างเร็วจากหลายปัจจัย ทั้งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ แรงขายทองคำของผู้ค้าทอง รวมไปถึงเงินทุนเคลื่อนย้ายจากนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเงินไทย

 

“ถ้าดูยอดซื้อสุทธิในตลาดบอนด์ (พันธบัตร) 1.2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการซื้อสุทธิในบอนด์ระยะสั้นถึง 8.6 พันล้านบาท ซึ่งชัดเจนว่าคงหวังผลอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นการเก็งกำไรค่าเงินในฝั่งแข็งค่า หรือการปรับ Position ใหม่ จากเดิมที่เคยมองเงินบาทอ่อนค่า ก็เริ่ม Cutloss ปรับ Position มามองในฝั่งแข็งค่า”

 

นอกจากนี้ สถาบันการเงินต่างชาติบางแห่งเริ่มปรับมุมมองที่มีต่อค่าเงินบาทใหม่ โดยมองว่าเงินบาทช่วงสิ้นปีมีโอกาสกลับมาแข็งค่าแตะระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ จากเดิมที่เคยประเมินไว้บริเวณ 33 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารกรุงไทยเอง ยังคงประเมินแนวโน้มเงินบาทช่วงสิ้นปีไว้ที่ระดับเดิมคือ 32.75-33.00 บาทต่อดอลลาร์

 

สำหรับประเด็นที่ต้องจับตาดูในระยะถัดไปคือ ในวันพรุ่งนี้ (10 พฤศจิกายน) จะมีการประมูลพันธบัตรก้อนใหญ่เม็ดเงินราว 3.2 หมื่นล้านบาท เป็นพันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 ปี ซึ่งต้องดูว่าความสนใจในพันธบัตรรุ่นนี้จะมีมากน้อยแค่ไหน เพราะจะมีผลต่อเนื่องถึงแนวโน้มค่าเงินบาทด้วย

 

จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้นับว่าแข็งค่าเร็วกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาคค่อนข้างมาก สาเหตุจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดบอนด์ ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนที่เคยเปิด Position เงินบาทในฝั่งอ่อนค่าเอาไว้ เริ่มตัดขายขาดทุนหลังจากที่ค่าเงินบาทหลุดระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ลงมา

 

สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)​ ในวันพรุ่งนี้ (10 พฤศจิกายน) เชื่อว่าที่ประชุมจะมีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากการประชุมในครั้งก่อนหน้ามากนัก

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising