×

‘ต่างชาติ’ ซื้อหุ้นไทยอีก 7.8 พันล้านบาท โบรกมั่นใจยังทยอยซื้อต่อเนื่อง

11.11.2020
  • LOADING...
การลงทุน หุ้น

นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามา ‘ซื้อสุทธิ’ ในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยวันนี้ (11 พฤศจิกายน) ซื้อสุทธิอีก 7,232 ล้านบาท หลังจากที่เมื่อวานนี้ (10 พฤศจิกายน) ซื้อสุทธิกว่า 18,958 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดการซื้อสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ภายในวันเดียว

ส่วนดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดที่ 1,345.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.10 จุด หรือ 0.31% มูลค่าการซื้อขายรวม 117,152 ล้านบาท

หากย้อนดูสถิติการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ พบว่า นักลงทุนกลุ่มนี้ได้ ‘ขายสุทธิ’ ในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2556-2563 มีเพียงปี 2559 ที่ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 7.79 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการขายสุทธิทั้งหมด ทำให้ตลาดระยะเวลาเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา ต่างชาติขายหุ้นไทยรวมถึง 9.5 แสนล้านบาท

การกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในรอบนี้ หลายคนน่าจะมีคำถามว่า เป็นการกลับเข้ามาลงทุนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการเข้าซื้อเพราะกลัว ‘ตกรถ’ เท่านั้น

ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บอกกับ THE STANDARD WEALTH ว่า นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสที่จะเข้าซื้อหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง หลังจากที่ซื้อมาติดกันสองวันกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเห็นว่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากวัคซีนป้องกันโควิด-19 พัฒนาได้สำเร็จจริง ตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่จะกลับมาโดดเด่นกว่าตลาดอื่น จากก่อนหน้านี้ที่แย่กว่ามาโดยตลอด เพราะการพึ่งพิงการท่องเที่ยว

“ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยมา 4 ปีติดต่อกัน ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2544 ต่างชาติไม่เคยขายหุ้นไทยติดต่อกันถึง 5 ปี และด้วยปัจจัยบวกที่เข้ามารอบนี้ อาจจะเห็นภาพการซื้อขายของต่างชาติที่กลับทิศ โดยอาจจะเห็นการเข้าซื้อต่อเนื่องไปถึงปีหน้า จากประมาณการกำไรหุ้นไทยที่มีโอกาสถูกปรับขึ้นได้”

ในเชิง Valuation ณ ระดับดัชนี 1,340 จุด คิดเป็นค่า P/E ปีหน้าประมาณ 17 เท่า ถือว่าค่อนข้างจะตึงตัว เพราะยังเป็นประมาณการโดยอิงจากสมมติฐานว่าการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว แต่หากมีการปรับประมาณการกำไรขึ้นจริง ค่า P/E น่าจะลดลงมาอยู่ในระดับ 15-16 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ถูกไม่แพงนัก

“ในปีหน้ายังมองเป้าหมายดัชนีที่ 1,450 จุด โดยหากนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อต่อเนื่องจริง กลุ่มหุ้นที่จะน่าสนใจคือธนาคารและพลังงาน ส่วนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาแรง อาจจะรอซื้อเมื่ออ่อนตัว

สรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นในสัดส่วน 27% เทียบกับจุดสูงสุดในอดีตที่ราว 37-38% โดยกลุ่มหุ้นที่ต่างชาติถือครองมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ 78% ธนาคาร 45% สื่อสาร 43% ปิโตรเคมี 42% และยานยนต์ 35%

อย่างไรก็ตาม เงินทุนที่ไหลเข้าหุ้นไทยเป็นลักษณะของการซื้อทั้งภูมิภาค ไม่ได้เป็นการเจาะจงมาที่ตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะเน้นไปที่หุ้น Value โดยเป็นกลุ่มที่ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี กำไรใกล้ผ่านจุดต่ำสุด มีเงินปันผลดี ซึ่งกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติน่าจะสนใจ จะเป็นกลุ่มที่คุ้นเคยอยู่แล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการถือครองสูงอยู่แล้ว

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า กระแสเงินลงทุน (Fund Flow) ยังคงไหลเข้าเอเชียอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน รวมกว่า 5,870 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการไหลเข้ากลุ่ม TIPs (ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะไทยที่วานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 620 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดซื้อสุทธิในช่วงสองวัน รวม 695 ล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ ต่างชาติขายหุ้นไทยกว่า 3.9% ของมูลค่าตลาดเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน ใกล้เคียงวิกฤตปี 2551 ที่ขาย 4-4.4% ของมูลค่าตลาดเฉลี่ย ล่าสุดเริ่มเห็นแรงซื้อกลับบางส่วน สะท้อนความเสี่ยงเชิงมูลค่า (Valuation) และแรงกดดันของแรงขายต่างชาติลดลงพอสมควร จากนี้ขึ้นกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ดังนั้นจึงปรับมุมมองตลาดไทยขึ้นเป็น ‘กลาง’ จาก Underweight โดยนักลงทุนสามารถเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยอีก 10% รวมเป็น 35% เพื่อลงทุนระยะยาวได้

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising