ก้าวเข้าสู่ปี 2022 เป็นที่เรียบร้อย ปีนี้เราเชื่อว่ากำลังจะมีอะไรหลายๆ อย่างเข้ามาทำให้ชีวิตของเราตื่นเต้นและเปลี่ยนไปอีกมาก ทั้งที่เริ่มก่อร่างสร้างเทรนด์จากปีก่อนๆ หรือบางอย่างอาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้เห็น
THE STANDARD POP รวบรวม 10 เทรนด์สำคัญที่เรามองเห็นความเป็นไปได้ในปีนี้มาฝาก ลองอ่านกันเพลินๆ หากคิดเห็นตรงกัน หรือมีเทรนด์ไหนน่าสนใจเพิ่มเติม คอมเมนต์มาได้เลย
- ลดการกินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ใส่ใจในวัตถุดิบมากขึ้น
ในปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นสัญญาณการเข้ามาของเนื้อ Plant-based แม้จะยังทำออกมาได้ไม่เหมือนเนื้อสัตว์จริงมากนัก แต่ก็ก้าวหน้ากว่าเดิมมาก ทำให้หลายคนหันมาลดการกินผลิตภัณฑ์จากสัตว์ให้น้อยลง กินผักให้มากขึ้น และถ้าอยากกินผลิตภัณฑ์จากสัตว์จริงๆ ก็จะเลือกแหล่งวัตถุดิบที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นนมหรือเนื้อจากวัวที่เลี้ยงแบบ Grass Fed หรือไข่ไก่จากไก่แบบ Free Range ที่ปล่อยให้สัตว์ได้อยู่ตามธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งด้วยสารเคมีหรือสารเร่งใดๆ
ในส่วนของนมวัวก็ถูกทดแทนด้วยนมจากพืชเช่นกัน และตอนนี้ในประเทศไทยมีทางเลือกเยอะกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นนมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมมะพร้าว นมโอ๊ต นมถั่วแระ นมพิสตาชิโอ และแว่วมาว่านมมันฝรั่งก็เป็นอีกหนึ่งนมจากพืชที่กำลังจะมาในปีนี้ รอชิมกันได้เลยว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร
การใส่ใจคุณภาพและแหล่งที่มาของวัตถุดิบนั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่ทางฝั่งร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งขับเคลื่อนมาตลอด แต่สำหรับเรื่องของการเลือก ลดการบริโภคเนื้อสัตว์นั้นยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และปีที่ผ่านมาก็มีให้เห็นมากกว่าปีไหนๆ ว่ากำลังจะเป็นทิศทางใหม่ของวงการอาหารแล้ว เช่น เชฟแดเนียล ฮัมม์ จากร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งระดับ 3 ดาว Eleven Madison Park ในแมนฮัตตัน ที่กลับมาเปิดให้บริการพร้อมเมนูที่เป็น Plant-based ทั้งหมด (ยกเว้น นม และน้ำผึ้งที่เป็นทางเลือกเฉพาะชาและกาแฟเท่านั้น) เรื่อยมาถึงช่วงปลายปีที่ร้านอาหาร Geranium ในกรุงโคเปนเฮเกน ก็ประกาศตัดเนื้อสัตว์บกออกจากเมนู หรือเป็น Pescatarian นั่นเอง ถือเป็นก้าวใหญ่ของวงการที่น่าจับตามองไม่น้อย
- น้ำอัดลมเพื่อสุขภาพ ดีต่อร่างกาย ดีต่อใจ
ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำอัดลมไม่ดีต่อร่างกาย แต่ดีกับใจ เลิกได้ก็ควรเลิก แต่ถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร น้ำอัดลมเพื่อสุขภาพจะมาแทนที่เอง หลังจากที่เราได้เห็นน้ำอัดลม 0 แคลอรีที่รสชาติโดนใจไปบ้างแล้ว ปีนี้น่าจะเป็นปีของน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพที่ไม่ได้มีดีแค่ 0 แคลอรี แต่เสริมวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอื่นๆ และโพรไบโอติกที่ดีต่อลำไส้ลงไปด้วย คราวนี้น้ำอัดลมก็ดีทั้งต่อร่างกายและใจแล้ว
- ยุคของน้องหุ่นยนต์ เมื่อร้านอาหารเริ่มใช้หุ่นยนต์มาช่วยงาน
แม้การใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร และเป็นเรื่องที่เห็นในต่างประเทศมานานแล้ว แต่ปีนี้น่าจะเป็นปีของหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารในประเทศไทย เพราะร้านอาหารยักษ์ใหญ่หลายร้านเริ่มหันมาใช้หุ่นยนต์ในการเสิร์ฟอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะร้านประเภทบุฟเฟต์ที่ลูกค้ามักจะสั่งอาหารเพิ่มบ่อยครั้ง นอกจากจะช่วยแบ่งเบางานของพนักงานในร้านแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย เพราะอาหารจะถูกส่งผ่านมือต่อมือน้อยลง
นอกจากหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ปัจจุบันเริ่มมีร้านกาแฟที่ใช้หุ่นยนต์ในการทำกาแฟแล้ว อย่าง Robosta Cafe (แท็กเพจ www.facebook.com/robostacafe/) ที่ชูข้อดีว่าคุณจะเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสแก้วกาแฟของตัวเอง คือแก้วกาแฟนี้จะไม่ผ่านมือใครเลย และรสชาติกาแฟที่ได้มา หลายคนน่าจะคิดไปแล้วว่ามันน่าจะธรรมดา ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ไม่เลย เพราะหุ่นยนต์ทำกาแฟตัวนี้ถูกป้อนสูตรในการชงจากแชมป์บาริสต้าประเทศไทยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า กาแฟของคุณจะไม่จืดจางอย่างแน่นอน
- คนในเมืองหันมาปลูกผักกินเอง ฟาร์มในเมืองจะมีเยอะขึ้น
เมื่อผักบางอย่างขึ้นราคา และผักบางอย่างถูกเปิดเผยว่ามีการใช้สารเคมีในการปลูกในปริมาณสูง การปลูกผักและทำฟาร์มในเมืองจึงเริ่มเป็นที่นิยม เพราะข้อดีของการปลูกผักเองคือ คุณจะได้ผักปลอดสารอย่างแท้จริง ผู้คนเริ่มแบ่งพื้นที่ในบ้านมาทำแปลงปลูกผัก ดาดฟ้าของตึกสูงบางตึกก็เริ่มเปลี่ยนจากพื้นที่โล่งกลายเป็นแปลงปลูกผักแล้วเช่นกัน
- อาหารหมักดองเพิ่มโพรไบโอติก ขับถ่ายดี ผิวสวยใส
อาหารหมักดองไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพเสมอไป เพราะผลดีจากอาหารหมักดองก็มีมากมาย เมื่อคนเริ่มรู้ความลับเรื่องความงามของคนญี่ปุ่นและเกาหลี ที่มีที่มาจากของหมักดองอย่างกิมจิ มิโซะ และนัตโตะแล้ว นักโภชนาการยังออกมาบอกอีกว่า การกินของหมักดองช่วยทำให้สุขภาพทางเดินอาหารดีขึ้น และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ ทำให้อาหารหมักดองเริ่มแพร่หลายมากขึ้น สังเกตจากตอนนี้กิมจิโฮมเมดใส่ขวดเริ่มวางขายเต็มไปหมด ยังไม่รวมคอมบูชาที่เริ่มหากินง่ายขึ้น หลังจากที่นิยมเฉพาะกลุ่มอยู่พักหนึ่ง มิโซะเริ่มมาเป็นวัตถุดิบของอาหาร ขนม ซอส และน้ำสลัดมากขึ้น และคีเฟอร์ก็เริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว
ลองเพิ่มอาหารหมักดองสักหนึ่งเมนูในหนึ่งวันดู อาจจะเป็นกิมจิ ซุปมิโซะ โยเกิร์ตโฮมเมด หรืออะไรก็ตามที่คุณชื่นชอบ คุณน่าจะพบกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขับถ่ายที่ดีขึ้น หรือภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น จะแบบไหนก็ย่อมดีทั้งสิ้น
- การจองร้านอาหารจะเป็นเรื่องปกติ
หลายๆ ร้านอาหารมีระบบการจอง หรือสามารถจองผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ อยู่แล้ว แต่นิตยสาร Food & Wine เห็นด้วยกับเราในเรื่องหนึ่งว่า ด้วยสถานการณ์โควิดตลอดสองปีที่ผ่านมา ทำให้ร้านอาหารต้องเจอกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอด บางร้านต้องลดจำนวนลูกค้าที่รับได้ต่อวัน การจองล่วงหน้าทำให้ร้านสามารถกะเกณฑ์วัตถุดิบได้แบบไม่มีความเสียหาย ส่วนสำหรับเราทางฝั่งผู้บริโภค การจองร้านอาหารก่อนสร้างความปลอดภัยได้มากกว่า มั่นใจว่ามีที่นั่งแน่ๆ และสามารถเช็กความแออัดของร้านอาหารได้ด้วย
ความปลอดภัยและระบบของร้าน ทำให้ผู้บริโภคมีวินัย เคารพการจองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน กลายเป็นพฤติกรรมใหม่ที่น่าจะทำให้แอปการจองร้านอาหารอาจเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ฮอตในปีหน้าได้
- ร้านอาหารมีความเฉพาะทาง และเมนูเล็กลงมากขึ้น
ข้อนี้เกิดขึ้นจากหลายๆ ปัจจัย อย่างแรกเลยสืบเนื่องมาจากเทรนด์ในปี 2021 ที่ร้านอาหารเริ่มมีความเฉพาะทางมากขึ้นเช่น ร้านอาหารอิตาเลียนที่เน้นเมนูแถบชายฝั่งเท่านั้น หรือร้านพาสต้าเส้นสดที่มีแค่เมนูพาสต้า เป็นต้น
ประจวบเหมาะกับความไม่แน่นอนในวงการอาหารตลอดสองปีที่ผ่านมา เชฟไม่ต้องการแบกความเสี่ยงในเมนูที่ใหญ่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาสามารถเลือกจานเฉพาะที่ตัวเองถนัดเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน และตั้งใจทำมันให้ดี เมนูที่เพิ่มขึ้นมาอาจเป็นในรูปแบบของ Weekly หรือ Daily Special ให้ลูกค้าจำเอกลักษณ์ของร้านได้ และสามารถสนุกกับเมนูที่เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ
- ร้านอาหารจากเชฟมิชลินจะเปิดมากขึ้นในปีหน้า
ปลายปีที่ผ่านมาเราได้ข่าวดีว่ามิชลิน ไกด์ได้ต่อสัญญากับ ททท. อีกเป็นเวลา 5 ปี จนถึงปี 2569 เพื่อจัดทำไกด์แนะนำร้านอาหารในประเทศไทย ที่เราก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่า หลังจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว มิชลินจะเดินทางไปยังจังหวัดไหนต่อ
ตัดกลับมาที่กรุงเทพฯ นอกจากปีนี้เราจะมีร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินเพิ่มมากขึ้น เราเพิ่งได้ต้อนรับการเข้ามาบริหารร้านอาหารในประเทศไทยของเชฟอลัง รูซ์ แห่งร้านอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลิน 3 ดาว The Waterside Inn ซึ่งในปีหน้าก็มีข่าวว่า กำลังจะมีร้านอาหารจากเชฟผู้ครองดาวมิชลินมาเปิดอีกหลายแห่ง หากร้านไหนคอนเฟิร์มแล้ว เราจะรีบรายงานให้ทราบทันที
- Natural Wine จะเป็นแอลกอฮอล์แห่งปี
เทรนด์การบริโภคภายใต้ความยั่งยืนไม่ได้จำกัดอยู่ในวงการอาหารเท่านั้น ทางด้านฝั่งแอลกอฮอล์เอง ผู้บริโภคใส่ใจและเลือกบริโภคสิ่งที่เขาเชื่อว่าดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเช่นกัน
Natural Wine ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการไวน์ แต่หากจะมีช่วงเวลาไหนที่บอกว่าการผลิตไวน์ของโรงบ่มขนาดเล็กที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ประสบความสำเร็จกลายเป็นทางเลือกหลัก มันก็คือช่วงเวลานี้ ในประเทศไทยมีร้านไวน์ที่เลือกเฉพาะ Natural Wine ในเมนูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้บริโภคเองก็ถามหาทั้ง Organic Wine, Biodynamic Wine หรือแม้แต่ Plant-based Wine ตอนนี้ก็มีให้เลือกให้ศึกษาแล้ว
- มัทฉะจะครองซีน Specialty Cafe ในปีหน้า
เราว่ามัทฉะมีการเดินทางที่ไม่ต่างจาก Natural Wine กล่าวคือ มัทฉะได้รับความนิยมมานานแล้วในประเทศไทย แต่จะเป็นในลักษณะเมนูชาทางเลือกในร้านกาแฟ คือเมนูยอดฮิตต่างๆ ในสเกลอุตสาหกรรม
มัทฉะมีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นชัดเจนตามแหล่งที่ปลูก มีพิธีการชงที่ผู้ชงต้องฝึกฝน รวมถึงวิธีการชงด้วยน้ำร้อน น้ำเย็น หรือนม เหล่านี้ส่งผลต่อรสชาติทั้งสิ้น และหากคุณเคยอินกับกาแฟสเปเชียลตีจากทั่วโลกมาแล้ว ปีหน้าจะเป็นปีที่มีคาเฟ่มัทฉะสายสเปเชียลตีมากขึ้น ชวนให้คุณอยากศึกษาเรื่องราวของวัตถุดิบชนิดนี้อย่างแน่นอน
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
อ้างอิง: