เช่นเดียวกับธุรกิจโรงภาพยนตร์ อีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถกลับมาเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาคือ ‘ธุรกิจฟิตเนส’ หลังจากต้องปิดชั่วคราวมาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม รวมๆ แล้ว 75 วันด้วยกัน
อรวรรณ เกลียวปฏินนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีแบรนด์ในมือ 2 แบรนด์คือ Fitness First และ Celebrity Fitness กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาถือเป็นครั้งแรกที่ต้องปิดให้บริการทุกสาขาพร้อมกันเป็นครั้งแรก แม้จะประเมินแล้วว่าจากสถานการณ์ต่างๆ มีแนวโน้มที่จะต้องปิดตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องปิดนานขนาดนี้
“มี 3 เรื่องที่เราวางเป้าหมายไว้และต้องทำให้ดีที่สุดคือ รักษาพนักงานให้มากที่สุด รักษาเมมเบอร์ให้มากที่สุด และกลับมาแข็งแรงให้เร็วที่สุด ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะพลิกหรือหาโซลูชันใหม่ๆ ไม่ได้”
เรื่องแรก พนักงาน 1,000 กว่าคนไม่มีการปลด ไม่มีการลดเงินเดือน แม้ว่าเทรนเนอร์ที่ Fitness First จะเป็นพนักงานประจำทั้งหมด ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นฟรีแลนซ์ก็ตาม ทั้งนี้แม้ไม่ลดเงินเดือน แต่รายได้รวมของพนักงานจะลดอยู่แล้ว เพราะส่วนหนึ่งจะมาจากการเทรนด์ส่วนบุคคล
เรื่องที่สอง การรักษาความสัมพันธ์กับเมมเบอร์และเก็บเมมเบอร์ไว้ให้มากที่สุด นอกเหนือจากการให้พนักงานโทรไปหาเมมเบอร์รายบุคคลแล้ว ยังเลือกที่จะสร้างเอ็นเกจเมนต์ให้เมมเบอร์ยังผูกพันกับแบรนด์ผ่านคลาสออกกำลังกายที่ไลฟ์สดผ่าน Facebook โดยคัดเลือกพนักงานบางส่วนมาทำหน้าที่
สรุปแล้วช่วงที่ผ่านมามีการไลฟ์สดไปทั้งหมด 400 คลาส มียอดชม 9.5 ล้านวิว ช่วยเพิ่มผู้ติดตามให้กับ Facebook Fanpage ได้อีกประมาณ 70,000 คน
“โปรเจกต์ไลฟ์สดจะมีการทำแบบต่อเนื่อง หลังจากนี้จะมีการออกอากาศ 5 คลาสต่อวัน โดยมองว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะได้พูดกับคนที่ไม่รู้จักและเช็กกระแสบางอย่าง”
ขณะเดียวกันโปรเจกต์ไลฟ์สดยังเป็นอีกช่องทางในการหารายได้ให้กับ Fitness First โดยร่วมกับ BEC ในการเป็นตัวแทนหาลูกค้า ซึ่งมีทั้ง เมจิ ไฮโปรตีน ซูเปอร์สปอร์ต CPN และทำโปรเจกต์กับเนสกาแฟ เป็นต้น อรวรรณย้ำว่า การทำเรื่องนี้ไม่ได้ทำเพื่อหวังรายได้เป็นหลัก แต่มองว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างแบรนด์ไปในตัว
เรื่องสุดท้ายคือ การกลับมาเปิดอย่างแข็งแรง นอกเหนือมาตรการความปลอดภัย การทำ Social Distancing ทำให้ Capacity ลดลง 50% ยังมีการปรับแผนแพ็กเกจให้เข้ากับทิศทางพฤติกรรมของเมมเบอร์ โดยเปิดโอกาสให้ปรับแพ็กเกจเดิมของตัวเอง สามารถจ่ายในราคาที่ลดลง แลกกับสิทธิประโยชน์บางอย่างที่ลดลง
เช่น จากที่สามารถเล่นได้ทุกสาขา ก็เล่นได้ที่สาขาเดียว หรือหากตั้งการเข้าคลาสก็สามารถจ่ายเพิ่มได้ สำหรับคลาสได้มีเพิ่มจากช่วงปกติอีก 1,000 คลาส รวมเป็น 30,000 คลาสในทุกสาขารวมกัน โดยสามารถเช็กได้ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ และจองภายใน 48 ชั่วโมง
“หลังจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคจะหันมาใส่ใจเรื่องของความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนคำถามว่าลูกค้าจะตัดลดค่าใช้จ่ายในการออกกำลังกายลงไหม ส่วนตัวคิดว่า นี่จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกสำหรับคนที่มองว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพ ส่วนการออกกำลังกายออนไลน์หรือหันไปออกกำลังกายที่บ้าน เราก็เชื่อว่าไม่กระทบ”
ปัจจุบัน Fitness First มีสมาชิกประมาณ 7.5 หมื่นคน แอ็กทีฟประมาณ 80% โดยเฉลี่ยอายุการเป็นสมาชิกจะอยู่ที่ 26 เดือน
ทั้งนี้อรวรรณยืนยันว่า การเปิดแบรนด์น้องใหม่ GoFit เจาะกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ เน้นการนำเอาเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันมาช่วยในเรื่องให้บริการให้เกิดความคล่องตัว จะยังเปิดภายในปีนี้อย่างแน่นอน แต่จะเลื่อนกำหนดออกไปเล็กน้อย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
