- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปลด จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ออกจากตำแหน่ง หลังมีความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศหลายประเด็น ทั้งในกรณีอิหร่าน เกาหลีเหนือ และกลุ่มตาลีบัน โดยโบลตันถือเป็นที่ปรึกษา ‘สายเหยี่ยว’ ซึ่งสนับสนุนการใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นต่อประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีอิหร่าน ซึ่งการประกาศปลดฟ้าผ่าดังกล่าว กดดันราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงทันที 0.21%
- อารามโก เดินหน้า IPO ปลายปีนี้ โดยวานนี้ อามิน นาสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทซาอุดิอารามโก บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยืนยันจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) โดยมีแผนการที่จะนำหุ้นจำนวน 1% เข้า IPO ในปีนี้ และอีก 1% ในปี 2020 แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะจดทะเบียนในตลาดใด และวาณิชธนกิจเจ้าใดจะทำหน้าที่เป็นผู้เสนอขายในครั้งนี้ แต่มีแนวโน้มว่า เจพี มอร์แกนมีโอกาสที่จะได้รับหน้าที่นี้สูง ซึ่งหากประสบความสำเร็จ จะทำให้เป็นการ IPO หุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
- จีนเดินหน้าปลดล็อกต่างชาติเข้าลงทุน สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เผย เตรียมดำเนินการยกเลิกข้อจำกัดโควตานักลงทุนต่างชาติ ทั้งแบบ QFII และ RQFII ซึ่งจำกัดการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันต่างชาติทั้งในรูปแบบดอลลาร์และสกุลเงินหยวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าลงทุนได้ง่ายขึ้น ทั้งในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ตลาดการเงินจีนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกมากยิ่งขึ้น โดยการยกเลิกโควตาครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่อง หลังจากที่เดือนสิงหาคม ทางการจีนได้เพิ่มโควตาในส่วนของ QFII ขึ้น 2.5% ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าลงทุนเพิ่มเติมกว่า 2,800 ล้านดอลลาร์
- รัฐบาลเดินหน้าดึงดูดเม็ดเงินลงทุน พร้อมหนุนเลื่อน VAT 10% ออกไป วานนี้ กอบศักดิ์ ภูตระกูล เลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการรองรับการย้ายฐานการผลิตจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า (ไทยแลนด์ พลัส) โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมด 7 ด้าน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ สิทธิประโยชน์จากกระทรวงการคลัง ซึ่งเน้นไปที่การฝึกบุคลากรเป็นหลัก ขณะที่ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผย คณะรัฐมนตรีมีมติขยายระยะเวลาการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% อีก 1 ปี เนื่องจากอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เหมาะสม และจะดำเนินการประเมินแบบปีต่อปีต่อไป
- CLSA คาด หยวนจีนอ่อนค่าแตะระดับ 7.3 หยวนต่อดอลลาร์ โดย อีริก ฟิสวิคก์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน CLSA คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนของจีนอาจอ่อนค่าลงได้ถึงระดับ 7.3 หยวนต่อดอลลาร์ จากระดับปัจจุบันที่ 7.11 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2008 โดยมีเหตุผลมาจากความตึงเครียดกรณีสงครามการค้าที่ไม่มีข้อยุติ ซึ่งทางการจีนมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการอ่อนค่าลง เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการทางภาษีต่างๆ อย่างไรก็ตามในปี 2020 มีแนวโน้มที่ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัว และการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกบางส่วน
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวเคลื่อนไหวในกรอบแคบ คาดนักลงทุนรอติดตามปัจจัยกระตุ้นจากธนาคารกลางต่างๆ โดยธนาคารกลางยุโรปมีกำหนดประชุมกำหนดนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะเริ่มประชุมกันในสัปดาห์หน้า
- ด้านความเสี่ยงทางการเมืองยังไม่มีปัจจัยรุนแรงเข้ามากระทบต่อการตัดสินใจ แม้ความคลุมเครือยังคงอยู่ ทั้งกรณีของ Brexit และเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองฮ่องกง แต่ในฟากสหรัฐฯ กลับส่งสัญญาณด้านดีต่อกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง เนื่องจากทรัมป์ได้ปลดที่ปรึกษาความมั่นคง จอห์น โบลตัน อย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นคนที่มีแนวคิดที่เด็ดขาดต่อการจัดการกับอิหร่านและเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ความขัดแย้งต่ออิหร่านมีแนวโน้มผ่อนคลายลง
- ราคาน้ำมันจึงปรับตัวลงเล็กน้อย โดย WTI ปิดที่ 57.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.47 (-0.81%) ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ Brent Oil ปิดที่ 62.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.25 (-0.4%)
- ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ ตามแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งปรับขึ้นสู่ระดับ 1.716%, ส่วนบอนด์ อายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 1.664% และอายุ 30 ปี ปรับขึ้น 2.201%
อเมริกา
- Dow 30 ปิดที่ 26909.43 เพิ่มขึ้น 73.92 (0.28%)
- S&P500 ปิดที่ 2979.39 เพิ่มขึ้น 0.96 (0.03%)
- Nasdaq ปิดที่ 8084.16 ลดลง -3.28 (-0.04%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 12268.71 เพิ่มขึ้น 42.61 (0.35%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7267.95 เพิ่มขึ้น 32.14 (0.44%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3498.99 เพิ่มขึ้น 3.97 (0.11%)
- FTSE MIB ปิดที่ 21869.01 ลดลง -120.72 (-0.55%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 21392.1 เพิ่มขึ้น 73.68 (0.35%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6614.1 ลดลง -33.9 (-0.51%)
- Shanghai ปิดที่ 3021.2 ลดลง -3.54 (-0.12%)
- SZSE Component ปิดที่ 9964.93 ลดลง -37 (-0.37%)
- China A50 ปิดที่ 13890.26 ลดลง -58.05 (-0.42%)
- Hang Seng ปิดที่ 26683.68 เพิ่มขึ้น 2.28 (0.01%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 10753.58 ลดลง -47.56 (-0.44%)
- SET ปิดที่ 1665.93 ลดลง -5.29 (-0.32%)
- KOSPI ปิดที่ 2032.08 เพิ่มขึ้น 12.53 (0.62%)
- IDX Composite ปิดที่ 6336.67 เพิ่มขึ้น 10.46 (0.17%)
- BSE Sensex ปิดที่ 37145.45 เพิ่มขึ้น 163.68 (0.44%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7929.48 ลดลง -30.64 (-0.38%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 57.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.47 (-0.81%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 62.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.25 (-0.4%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1499.65 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง -11.45 (-0.76%)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing