×

ByteDance หาทางรอด เจรจารัฐบาลสหรัฐฯ ทำข้อตกลง, 9 บริษัทยาร่วมลงนามผลิตวัคซีนเน้นความปลอดภัย สวนทางท่าทีทรัมป์: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (10 ก.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
10.09.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้มีกำหนดการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อตัดสินใจด้านนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ -0.50% สำหรับ Deposit Facility Rate และ 0.25% สำหรับ Marginal Lending Facility Rate แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในการแถลงการณ์ครั้งนี้ มีแนวโน้มที่ ECB จะพิจารณาถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่ม เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้เต็มศักยภาพมากขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 846,000 ราย ลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 881,000 ราย ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 และต่ำกว่าระดับ 1.0 ล้านรายอีกครั้ง สะท้อนภาวะการฟื้นตัวทางการจ้างงานทั่วสหรัฐฯ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

  • บริษัทไฟเซอร์จากสหรัฐฯ, บริษัทแอสตราเซเนกาจากอังกฤษ ร่วมกับอีก 7 บริษัท Biotechnology ออกแถลงการณ์และลงนามในสัญญาร่วมกันว่า บริษัทจะปฏิบัติตามพันธกิจในการพัฒนาและทดสอบวัคซีนตามมาตรฐานขั้นสูงทางด้านจริยธรรมและหลักการด้านวิทยาศาสตร์ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการยึดหลักความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน และจะยื่นขออนุมัติหรือขออนุญาตใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉิน ก็ต่อเมื่อวัคซีนนั้นมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นที่แน่ชัด หลังจากผ่านการทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายแล้วเท่านั้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสวนทางท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ระบุถึงความเป็นไปได้ในการอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามเร่งอนุมัติวัคซีนเพื่อสร้างคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

 

  • วานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยยอดตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ประจำเดือนกรกฎาคมออกมาที่ 6.618 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 6.0 ล้านตำแหน่ง และขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.001 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนตัวเลขการลาออกและเปลี่ยนงานมีมากถึง 2.96 ล้านตำแหน่ง นำโดยกลุ่มพนักงานค้าปลีกและบริการด้านสุขภาพ ขณะที่ยอดการจ้างงานทดแทนอยู่ที่ 5.8 ล้านตำแหน่ง นำโดยการจ้างงานของภาครัฐเพื่อชดเชยยอดการเกษียณในปี 2020 ที่ประมาณ 33,000 ตำแหน่ง

 

  • วานนี้ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ได้กล่าวสนับสนุนนโยบาย Made in America ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน แต่ในแนวทางที่ต่างออกไป กล่าวคือ เขาต้องการสนับสนุนบริษัทสหรัฐฯ กลับมาใช้สหรัฐฯ เป็นฐานการผลิตอีกครั้ง ด้วยการปฏิรูปภาษีแบบใหม่ที่จะเพิ่มเติม ‘Offshoring Tax Penalty’ 2.8% บนกำไรของบริษัทที่ได้จากการขายสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศและกลับมาขายในสหรัฐฯ เพื่อจูงใจให้กลับมาใช้ฐานการผลิตในสหรัฐฯ รวมไปถึงการยกเลิกมาตรการลดภาษีที่ทรัมป์ได้ดำเนินการในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา

 

  • บริษัท ByteDance ผู้สร้างแอปพลิเคชันวิดีโอขนาดสั้นชื่อดัง TikTok ได้เข้าร่วมหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะช่วยให้ ByteDance ไม่ต้องเลิกทำธุรกิจในสหรัฐฯ ตาม Executive Order ของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการเจรจาในครั้งนี้ ByteDance ระบุว่าหากจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างบริษัทใหม่ เพื่อไม่ให้ต้องขายกิจการทั้งหมดก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ทางการจีนได้ออกกฎหมายควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้แนวโน้มการขายกิจการทั้งหมดอาจทำได้ยากขึ้น

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากแรงเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนหลังตลาดปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันที่ผ่านมา รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานใหม่ (JOLTS Job Openings) ออกมาที่ 6.618 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.00 ล้านตำแหน่ง บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น จากความคาดหวังการประชุม ECB ที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืน ว่าจะมีมาตรการใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง 

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากแรงเข้าซื้อของนักลงทุน หลังตลาดปรับตัวลงมาแรงก่อนหน้านี้ รวมทั้งการคาดการณ์สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ว่าจะปรับตัวลง ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำถูกลง รวมไปถึงความกังวลที่วัคซีนโควิด-19 อาจไม่สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ หลังสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) กังวลเรื่องความปลอดภัยการใช้งาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการผลิต

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 27940.47 เพิ่มขึ้น 439.58 (1.6%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3398.96 เพิ่มขึ้น 67.12 (2.01%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 11141.56 เพิ่มขึ้น 293.87 (2.71%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 13237.21 เพิ่มขึ้น 268.88 (2.07%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6012.84 เพิ่มขึ้น 82.54 (1.39%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3324.83 เพิ่มขึ้น 57.46 (1.76%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19771.32 เพิ่มขึ้น 391.14 (2.02%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23032.54 ลดลง -241.59 (-1.04%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5878.6 ลดลง -129.2 (-2.15%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3254.63 ลดลง -61.79 (-1.86%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 12861.75 ลดลง -431.58 (-3.25%)
  • China A50 อยู่ที่ 15188.48 ลดลง -232.4 (-1.51%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24468.93 ลดลง -155.41 (-0.63%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12608.58 ลดลง -54.98 (-0.43%)
  • SET อยู่ที่ 1293.4 ลดลง -0.4 (-0.03%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2375.81 ลดลง -26.1 (-1.09%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5149.38 ลดลง -94.7 (-1.81%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 38193.92 ลดลง -171.43 (-0.45%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5932.84 ลดลง -3.01 (-0.05%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 37.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.16 (3.17%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 40.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.88 (2.21%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1947.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.05 (0.89%)

 

Finnomena

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising