×

Virgin Australia ยื่นล้มละลาย, นายกฯ เยอรมนีชี้ ไม่ควรผ่อนมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (22 เม.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
22.04.2020
  • LOADING...
Finnomena
  • พอล สเคอร์ราห์ ซีอีโอสายการบิน Virgin Australia ประกาศล้มละลาย พร้อมเปิดเผยแผนปรับโครงสร้างทางธุรกิจและการเงินของบริษัทต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากมีบริษัทมากกว่า 10 แห่งที่แสดงความสนใจใน Virgin Australia ซึ่งถือเป็นสายการบินแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ประกาศล้มละลาย

 

  • อังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระบุว่าเวลานี้ไม่ควรผ่อนผันมาตรการล็อกดาวน์เร็วจนเกินไป เพราะอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อ แม้ทางธนาคารกลางเยอรมนีเปิดเผยว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังเผชิญภาวะถดถอยและไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ หลังแนวโน้มโรคระบาดยังคงมีอยู่ หากยังไม่มีวัคซีนออกมา

 

  • ICICI ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของอินเดีย ยอมรับว่าได้ปล่อยกู้ให้กับบริษัทฮินเหลียง เทรดดิ้ง บริษัทนํ้ามันยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์ที่ได้ยื่นเรื่องล้มละลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากแรงกดดันจากราคานํ้ามันที่ลดลง โดยสื่อรายงานว่ายอดการปล่อยกู้นั้นอยู่ที่ระดับ 100 ล้านดอลลาร์

 

  • วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มวงเงินให้กับโครงการ Paycheck Protection Program กว่า 3.1 แสนล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ขณะที่วงเงินประมาณ 75,000 ล้านดอลลาร์จะถูกนำไปสนับสนุนโรงพยาบาลต่างๆ และอีก 25,000 ล้านดอลลาร์จะใช้สนับสนุนการตรวจหาผู้ติดโควิด-19 ต่อไป

 

  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศข้อมูลปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ซึ่งยังคงต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาน้ำมันลดลงสู่ระดับ 14 ดอลลาร์ในคืนที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าจะประกาศออกมาที่ 15.15 ล้านบาร์เรล ลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 19.248 ล้านบาร์เรล สืบเนื่องจากการลดกำลังการผลิตลง หลังเผชิญราคาน้ำมันตกต่ำในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่สหราชอาณาจักรมีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.5%YoY ลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 1.7%YoY จากแนวโน้มการบริโภคที่ชะลอตัวลงท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

 

  • วานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงอีกครั้งท่ามกลางความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การปรับลดคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่สำคัญ และการลดลงอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน สร้างแรงกดดันเป็นอย่างยิ่งต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นผู้นำตลาดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เอเชีย และยุโรป ปิดลบกว่า 2.70-4.0% ในคืนที่ผ่านมา 

 

  • ขณะที่ทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ตลาดหุ้นปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนเข้าลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงแตะระดับ 0.56% และ Dollar Index เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 100 จุดอีกครั้ง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 อยู่ที่ 23,018.88 ลดลง 631.56 (-2.67%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 2,736.56 ลดลง 86.6 (-3.07%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 8,263.23 ลดลง 297.5 (-3.48%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 10,249.85 ลดลง 426.05 (-3.99%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 5,641.03 ลดลง 171.8 (-2.96%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2,791.34 ลดลง 118.16 (-4.06%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 16,450.85 ลดลง 613.29 (-3.59%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 19,280.78 ลดลง 388.34 (-1.97%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5,221.3 ลดลง 131.7 (-2.46%)
  • Shanghai อยู่ที่ 2,827.01 ลดลง 25.54 (-0.9%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 10,506.86 ลดลง 114.64 (-1.08%)
  • China A50 อยู่ที่ 12,996.84 ลดลง 160.16 (-1.22%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 23,793.55 ลดลง 536.47 (-2.2%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 10,288.42 ลดลง 298.29 (-2.82%)
  • SET อยู่ที่ 1,252.92 ลดลง 13.48 (-1.06%)
  • KOSPI อยู่ที่ 1,879.38 ลดลง 18.98 (-1%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 4,501.92 ลดลง 73.99 (-1.62%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 30,636.71 ลดลง 1011.29 (-3.2%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5,592.25 ลดลง 141.4 (-2.47%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 14.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 7.25 (-34.08%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 19.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 6.5 (-24.86%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1,688.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 3.1 (-0.18%)

FINNOMENA

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising