×

11 ดาวรุ่งอนาคตไกลน่าจับตาในฟุตบอลโลก 2018

05.06.2018
  • LOADING...

ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับชาตินอกจากจะเป็นเวทีให้นักฟุตบอลดาวดังได้ลงเล่นโชว์ผลงานพาชาติบ้านเกิดของตนเข้ารอบลึกๆ หรือคว้าโทรฟีแชมป์ประดับเกียรติยศแล้ว ก็ยังเป็นสังเวียนให้นักฟุตบอลดาวรุ่งหรือสตาร์อายุน้อยได้มีโอกาสแจ้งเกิดให้สโมสรใหญ่ๆ ได้รู้จักเช่นกัน

 

ตัวอย่างในครั้งที่ผ่านมาก็มีให้เห็นมาแล้ว ทั้ง ไมเคิล โอเวน (Michael Owen) ที่แจ้งเกิดได้เจิดจรัสสุดๆ ในฟรองซ์ 1998 (ฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส) หรือโธมัส มุลเลอร์ (Thomas Müller) ที่ได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมและดาวซัลโว (5 ประตู) ประจำทัวร์นาเมนต์เมื่อปี 2010 ก่อนที่อีก 4 ปีถัดมาจะกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญพาทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ที่บราซิล

 

THE STANDARD ได้คัดเลือก 11 ผู้เล่นอายุน้อย ศักยภาพสูง เฉลี่ยทุกกลุ่มจาก 32 ทีมชาติที่เข้าร่วมแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้ที่รัสเซีย โดยใช้เกณฑ์การเลือกจากผลงานในนามทีมชาติและสโมสร ศักยภาพของความเป็นไปได้ในการพัฒนา รวมถึงชื่อเสียงและการถูกตั้งความหวังจากสื่อทั่วโลก

หมายเหตุ : สถิติการลงเล่น ข้อมูลอายุและสโมสรต้นสังกัด นับจนถึงวันพุธที่ 6 มิถุนายนเท่านั้น

 

Photo: Wikimedia Commons

 

อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน (Aleksandr Golovin) ห้องเครื่องคนสำคัญของชาติเจ้าภาพ

 

ตำแหน่ง: กองกลาง

 

อายุ : 22 ปี

 

ทีมชาติ: รัสเซีย

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 18 นัด ยิงได้ 2 ประตู

 

สโมสร: ซีเอสเคเอ มอสโก

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม A – ซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์, อุรุกวัย

 

เขาคือใคร: มิดฟิลด์ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงจากรัสเซีย มีจุดเด่นอยู่ที่ทักษะการเอาตัวรอดที่ดี การจ่ายบอลที่มีทีเด็ดที่ขาดพอจะเป็นลูกคิลเลอร์พาสได้เสมอ การคุมเกมและการวิ่งไล่สกัดที่ไม่มีหมด ซึ่งที่กล่าวๆ มานี้ก็แทบจะเรียกว่า ‘ครบ’ แล้วสำหรับทักษะที่กองกลางสมบูรณ์แบบคนหนึ่งพึงมี!

 

ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงกับต้นสังกัดซีเอสเคเอ มอสโก ในฤดูกาลที่ผ่านมา ส่งผลให้โกโลวินทะลวงตาข่ายทีมคู่แข่งได้ถึง 5 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 27 นัด พลอยทำให้เจ้าตัวถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปรุมจีบส่งแมวมองประกบชิดติดตัวกันเป็นพัลวัน โดยเฉพาะ ‘อาร์เซนอล’  

 

ศึกฟุตบอลโลกในครั้งนี้ โกโลวินน่าจะเป็นอีกหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกจับตา และหัวใจสำคัญบัญชาเกมแดนกลางของทีมชาติรัสเซีย

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 4/5 (รอบแบ่งกลุ่มที่ยังไม่เจอของหนักมาก น่าจะมีโอกาสปล่อยของ)

 

Photo: AFP

 

กอนซาโล เกดิส (Gonçalo Guedes) ปีกจอมลากเลื้อยที่ยังต้องรอโอกาส

 

ตำแหน่ง: ปีกซ้าย (เล่นได้เกือบทุกตำแหน่งในแนวรุก)

 

อายุ : 21 ปี

 

ทีมชาติ: โปรตุเกส

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 9 นัด ยิงได้ 1 ประตู

 

สโมสร: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฤดูกาลที่แล้วถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสรวาเลนเซีย)

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม B – สเปน, โมร็อกโก, อิหร่าน

 

เขาคือใคร: ปีกผู้มีลีลาการกระชากลากเลื้อยหลบคู่ต่อสู้สุดพลิ้ว (จากภาพ คนซ้าย) โดยฤดูกาล 2017/2018 ที่ผ่านมา เขาถูกสโมสรต้นสังกัด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ปล่อยตัวให้วาเลนเซียยืมใช้งานชั่วคราว หลังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากพอและเคยถูกปรามาสว่าอาจเป็น ‘ของปลอมทำเหมือน’

 

แต่เมื่อเกดิสต้องเล่นให้กับวาเลนเซีย อดีตดาวรุ่งจากเบนฟิกาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง เมื่อสามารถพิสูจน์ตัวเองด้วยการยิงประตูในลาลีกาไป 5 ลูก ส่งให้เพื่อนทำประตูอีก 9 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 33 นัด

 

โจทย์สำคัญที่เกดิสยังต้องเผชิญในนามทีมชาติคือการพิสูจน์ตัวเอง งัดฟอร์มเด่นให้เข้าตา เฟอร์นานโด ซานโตส กุนซือของทีมให้ได้ โดยใช้ความสดและความสารพัดประโยชน์ที่มีเบียดสู้กับรุ่นพี่อย่าง ริคาร์โด ควาเรสมา และ เจา มาริโอ เพื่อสอดแทรกลงชุด 11 ตัวจริงของทีม

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 2.5/5 (โอกาสสอดแทรกทีมชุดใหญ่ยังยาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มี)

 

Photo: AFP 

 

ซาร์ดาร์ อัซมูน (Sardar Azmoun) เพชฌฆาตเปอร์เซียจมูกไว ดาวยิงสูงสุดลำดับ 5 ของประเทศ

 

ตำแหน่ง: กองหน้า

 

อายุ : 23 ปี

 

ทีมชาติ: อิหร่าน

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 32 นัด ยิงได้ 23 ประตู

 

สโมสร: รูบิน คาซาน

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม B – สเปน, โมร็อกโก, โปรตุเกส

 

เขาคือใคร: เพชฌฆาตหนุ่มหน้าละอ่อน เจ้าของสมญานาม ‘เมสซีอิหร่าน’ ทำผลงานในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียไว้ได้เอกอุเป็นอย่างมาก ลงเล่นไปทั้งหมด 14 นัด ยิงได้ถึง 10 ประตู เป็นสถิติที่ดีที่สุดของผู้เล่นอิหร่านในรอบคัดเลือก

 

อัซมูนคือหนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญที่ คาร์ลอส เคยรอซ ผู้จัดการทีมชาติอิหร่านหวังรีดศักยภาพพิสูจน์ผลงานในระดับโลกเพื่อลุ้นคว่ำทีมยักษ์ใหญ่ให้ได้ ถูกคาดหวังขนาดไหน ถึงขนาดที่เว็บไซต์ FIFA ยกให้เขาเป็นทายาทลูกหนังคนสำคัญที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์ของ อาลี ดาอี ตำนานกองหน้าของอิหร่าน เจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในทีมชาติที่ 109 ลูกในวันข้างหน้า และถ้าอัซมูนเข้าฝักเมื่อไรละก็ ไม่ว่าจะสเปน โปรตุเกส หรือใครหน้าไหนก็ต้องคอยระวังเขาไว้ให้ดี!

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 4/5 (ตัวความหวังเบอร์ต้นๆ ของประเทศ)

 

Photo: Wikimedia Commons

 

คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) โกลเดนบอยโลกลูกหนังคนปัจจุบัน

 

ตำแหน่ง: กองหน้าและปีกฝั่งขวา

 

อายุ : 19 ปี

 

ทีมชาติ: ฝรั่งเศส

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 14 นัด ยิงได้ 3 ประตู

 

สโมสร: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม C – ออสเตรเลีย, เปรู, เดนมาร์ก

 

เขาคือใคร: ด้วยวัยเพียง 19 ปี เด็กหนุ่มจากย่านบอนดีในปารีสติดทีมชาติไปแล้วมากกว่า 13 นัด และยิงประตูได้ 3 ประตู ผ่านการพิสูจน์ด้วยประสบการณ์เกมระดับสโมสรมาพอสมควร ปีที่ผ่านมาย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี (พ่วงออปชันซื้อขาดรวมกว่า 166 ล้านปอนด์) พร้อมโชว์ฟอร์มหรูกดไปถึง 21 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการรวม 44 นัด

 

จุดแข็งของเอ็มบัปเป้อยู่ที่ลีลาลูกหนังเหลือร้าย สปีดต้นและความคล่องตัวที่ไปกับบอลได้ดี รวมถึงการตัดสินใจและความนิ่งเกินวัย ซึ่งเป็นคุณสมบัติชี้วัดลำดับต้นๆ ว่านักฟุตบอลดาวรุ่งคนนั้นจะขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่มีศักยภาพในอนาคตได้หรือไม่

 

ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกอย่างเป็นทางการของเอ็มบัปเป้ โดยเจ้าตัวจะยึดสัมปทานแนวรุกกราบขวาของ เลอ เบลอส์ ส่วนจะช่วยให้ฝรั่งเศสไปได้ไกลแค่ไหนต้องติดตามกัน

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 5/5 (แม้ประสบการณ์ยังน้อย แต่ความสำคัญไม่แพ้สตาร์อย่าง กรีซมันน์ หรือ กองเต)

 

Photo: AFP

 

จิโอวานนี โล เซลโซ (Giovani Lo Celso) ดาวเด่นรอวันฉายแสง

 

ตำแหน่ง: กองกลางตัวรับ

 

อายุ : 22 ปี

 

ทีมชาติ: อาร์เจนตินา

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 4 นัด ยิงได้ 0 ประตู

 

สโมสร: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม D – ไอซ์แลนด์, โครเอเชีย, ไนจีเรีย

 

เขาคือใคร: อีกหนึ่งแคนดิเดตดาวรุ่งศักยภาพไกลส่งประกวดจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง โล เซลโซ เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลดาวรุ่งหน้าใหม่ที่ ฮอร์เก ซามเปาลี ผู้จัดการทีมเพิ่งเรียกตัวเข้ามาติดทีมชาติในครั้งนี้ หลังทำผลงานกับต้นสังกัดในฤดูกาลที่ผ่านมาได้น่าชื่นชม

 

จุดแข็งของหนุ่มหน้าหยกคนนี้คือความสามารถบัญชาเกมหน้าแผงแบ็กโฟร์ การมีส่วนร่วมกับเกมรับที่สูง และการจ่ายบอลที่แม่นยำ ส่วนข้อเสียคือด้วยประสบการณ์ในนามทีมชาติที่ยังน้อยอยู่ อาจทำให้เจ้าตัวยังคงต้องรอรับโอกาสต่อจากรุ่นพี่ดับเบิลบี เอแวร์ บาเนกา และ ลูคัส บิเกลีย อีกสักระยะ

 

แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่ซามเปาลีอาจจะเลือกเดิมพันโดยใช้ความสดของโล เซลโซ ลงคุมเกมในแดนกลาง เพราะ 2 นัดอุ่นเครื่องล่าสุดเขาก็ได้ลงตัวจริงมาตลอด

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 3.5/5 (ลูกเก๋าและความนิ่งอาจยังไม่พอเบียดคู่หูดับเบิลบี)

 

Photo: Wikimedia Commons

 

กาเบรียล เฆซุส (Gabriel Jesus) ความหวังใหม่ที่ไว้ใจได้จากเซเลเซา

 

ตำแหน่ง: กองหน้า (ขยับเป็นปีกและกองหน้าตัวต่ำได้เช่นกัน)

 

อายุ : 21 ปี

 

ทีมชาติ: บราซิล

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 16 นัด ยิงได้ 9 ประตู

 

สโมสร: แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม E – สวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา, เซอร์เบีย

 

เขาคือใคร: หนึ่งในดาวรุ่งและความหวังใหม่จากแดนแซมบาที่น่าจับตามองสุดๆ ประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ เฆซุสสามารถระเบิดฟอร์มยิงประตูได้สูงสุดในทัพเซเลเซาที่ 7 ลูก เทียบเท่ากับสตาร์ดังรุ่นพี่ ลิโอเนล เมสซี และ อเล็กซิส ซานเชซ เป็นรองเพียงแค่ เอดิสัน คาวานี จากอุรุกวัยแค่คนเดียว (10 ประตู)

 

ขณะที่การประกาศหมายเลขเสื้อนักฟุตบอลเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เฆซุสยังได้สิทธิ์สวมเสื้อหมายเลข 9 เบอร์เดียวกับ ‘โรนัลโด’ ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลอีกด้วย นับเป็นการประกาศอยู่กลายๆ ว่า หากไม่มีอะไรผิดพลาด เจ้าตัวน่าจะได้ลงประสานงานเกมรุกที่ดุดันร่วมกับเนย์มาร์และคูตินโญ

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 4.5/5 (ด้วยทรัพยากรแวดล้อมและการสร้างสรรค์เกมจากเพื่อนร่วมทีมที่ดี น่าจะมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันได้แน่ๆ)

 

Photo: AFP

 

เปแดร็ก ไรจ์โควิช (Predrag Rajković) กำแพงหินสุดแกร่งชาวเซิร์บ

 

ตำแหน่ง: ผู้รักษาประตู

 

อายุ : 22 ปี

 

ทีมชาติ: เซอร์เบีย

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 7 นัด ยิงได้ 0 ประตู

 

สโมสร: มัคคาบี เทลอาวีฟ

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม E – บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา

 

เขาคือใคร: ความจริงปีนี้ทีมชาติเซอร์เบียเต็มไปด้วยขุมกำลังอายุน้อยที่มีศักยภาพเป็นจำนวนมาก ทั้ง เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช ที่ทำผลงานกับลาซิโอ ต้นสังกัดได้น่าประทับใจสุดๆ หรือ อันดริยา ซิฟโควิช ปีกร่างมะข้ามป้อมจากเบนฟิกา ที่ได้รับโอกาสมากขึ้นเรื่อยๆ ในซีซันนี้

 

แต่ เปแดร็ก ไรจ์โควิช เองก็มีศักยภาพมากพอๆ กับดาวรุ่งคนอื่นๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้เหมือนกัน การันตีด้วยรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม FIFA U-20 World Cup เมื่อปี 2015 ถึงจะเป็นผู้รักษาประตูมือ 2 ของทีมที่ยังต้องรอคอยโอกาสและเพิ่งติดทีมชาติไปแค่ 7 นัดก็ตาม (ลงเล่นในรอบคัดเลือกไป 2 นัด เก็บคลีนชีตได้ 1 นัด ส่วนอีกแมตช์เสียไป 2 ประตู)

 

ถ้าใครเป็นเซียนเกม Football Manager ภาคล่าสุดก็น่าจะคุ้นชื่อนายทวารรายนี้ดี เพราะเขาถูกทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปแย่งตัวกันอย่างดุเดือด ส่วนในโลกแห่งความเป็นจริง ไรจ์โควิชก็ทำผลงานกับมัคคาบี เทลอาวีฟได้น่าประทับใจเช่นกัน ซึ่งการย้ายมาเล่นในลีกอิสราเอลก็ช่วยทำให้เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 2.5/5 (เคสเดียวกับเกดิส คือรอรับโอกาสลงตัวจริงพิสูจน์ตัวเองอย่างเดียว และทัวร์นาเมนต์ในปีนี้ก็อาจจะยังเร็วไป)

 

Photo: AFP

 

โจชัว คิมมิช (Joshua Kimmich) ทายาทนอกสายเลือดของฟิลิปป์ ลาห์ม

 

ตำแหน่ง: แบ็กขวา (เล่นกองหลังตัวกลางและกองกลางได้ด้วย)

 

อายุ : 23 ปี

 

ทีมชาติ: เยอรมนี

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 28 นัด ยิงได้ 3 ประตู

 

สโมสร: บาเยิร์น มิวนิก

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม F – สวีเดน, เม็กซิโก, เกาหลีใต้

 

เขาคือใคร: นักเตะดาวรุ่งสารพัดประโยชน์รายนี้ได้เรียนรู้หลักสูตรฟุตบอลจากตำนานรุ่นพี่ในทีมชาติ ฟิลิปป์ ลาห์ม ในช่วงที่ยังค้าแข้งไปมากพอสมควร ราวกับว่าคิมมิชถอดรูปแบบการเล่นของลาห์มมาแบบเหมือนเป๊ะเลยก็ไม่ผิด

 

ทั้งทักษะความเข้าใจเกมที่สูง ความสารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะช่วงหลังๆ ที่เริ่มสุขุมและส่อเค้าความเป็นผู้นำมากขึ้น ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาลงเล่นไปทั้งหมด 29 นัด ได้รับใบเหลืองไปแค่ใบเดียว

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วในทัวร์นาเมนต์ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส คิมมิชได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงมากถึง 4 นัด ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอจะทำให้เขาได้เจิดจรัสและถูกยกเป็น 1 ใน 11 ทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย ซึ่งฟุตบอลโลกในปีนี้ คิมมิชคืออีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยผลักดันเยอรมนีให้เข้ารอบลึกๆ ได้

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 5/5 (ผ่านการพิสูจน์ในเกมใหญ่ๆ มานับไม่ถ้วน)

 

Photo: Wikimedia Commons

 

เออร์วิง โลซาโน (Hirving Lozano) จรวดทางเรียบแดนจังโก้

 

ตำแหน่ง: ปีกซ้ายและขวา

 

อายุ : 22 ปี

 

ทีมชาติ: เม็กซิโก

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 26 นัด ยิงได้ 7 ประตู

 

สโมสร: พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม F – เยอรมนี, สวีเดน, เกาหลีใต้

 

เขาคือใคร: ปีกความเร็วสูงจากเม็กซิโก ถูกคาดหวังเป็นอย่างมากว่าน่าจะโชว์ฟอร์มร้อนแรงในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ หลังฤดูกาล 2017/2018 ที่ผ่านมา เพิ่งย้ายมาเล่นบนเวทียุโรปในครั้งแรกกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ก็ยิงไปแล้วถึง 17 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 29 นัด นำโด่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม และช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ

 

กับผลงานในนามทีมชาติ ช่วงฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนคอนคาเคฟ เขาก็นำเป็นดาวซัลโวของทีมที่ 4 ประตูเช่นกัน เพราะฉะนั้นใครที่ต้องโคจรมาเจอกับเม็กซิโกก็ห้ามประมาทหมอนี่เป็นอันขาด

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 5/5 (ทีเด็ดที่ทุกทีมต้องสั่งจับตาย)

 

Photo: Reuters

 

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (Trent Alexander-Arnold) สิงโตหนุ่มรอวันเติบใหญ่
ตำแหน่ง: แบ็กขวา

 

อายุ : 19 ปี

 

ทีมชาติ: อังกฤษ

 

สถิติในนามทีมชาติ: – (เพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติเป็นครั้งแรก)

 

สโมสร: ลิเวอร์พูล

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม G – เบลเยียม, ตูนิเซีย, ปานามา

 

เขาคือใคร: หากจะเปรียบเปรยว่าฤดูกาลนี้ของอาร์โนลด์เป็นเหมือนฝันของนักฟุตบอลดาวรุ่งทุกคนก็ไม่ผิดนัก เริ่มต้นตั้งแต่การได้รับความไว้วางใจลงเล่นทีมชุดใหญ่แทนซีเนียร์ที่บาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง พาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (คงไม่นับรวมผลการแข่งขัน) จนได้รับหมวกทีมชาติเป็นใบแรกในชีวิตเตรียมลุยศึกฟุตบอลโลก!

 

ถึงการเรียกตัวอาร์โนลด์ติดทีมชาติในครั้งนี้ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะพอเข้าใจได้ว่าแบ็กขวาดาวรุ่งจากลิเวอร์พูลคือตัวเลือกเบอร์ 2 รองจาก เควิน ทริปเปียร์ (ไคล์ วอล์กเกอร์ ถูกหุบไปเล่นเป็นปราการหลังตัวกลางฝั่งขวาในระบบ 3-5-2) แต่เจ้าตัวก็น่าจะพร้อมพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอหากได้รับโอกาส (คลิกอ่านบทความเพิ่มเติมของอาร์โนลด์ได้ที่นี่)

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 2.5/5 (แบ็กอัพดาวรุ่งที่ยังพัฒนาได้อีก)

 

Photo: AFP

 

เดวินสัน ซานเชซ (Dávinson Sánchez) ตัวเซตเกมจากแผนหลังชั้นยอด

 

ตำแหน่ง: กองหลังตัวกลาง

 

อายุ : 21 ปี

 

ทีมชาติ: โคลอมเบีย

 

สถิติในนามทีมชาติ: ลงเล่น 9 นัด ยิงได้ 0 ประตู

 

สโมสร: ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

 

ทีมที่ต้องลงดวลแข้ง: กลุ่ม H – โปแลนด์, เซเนกัล, ญี่ปุ่น

 

เขาคือใคร: ถ้า ราดาเมล ฟัลเกา และ ฮาเมส โรดริเกวซ คือพระเอกในเกมรุกของทีมชาติโคลอมเบีย กองหลังดาวรุ่งวัย 21 ปีคนนี้ก็คือหัวใจสำคัญของเกมรับและการขึ้นเกมจากแดนหลังไม่แพ้กัน

 

เดวินสัน ซานเชซ โดดเด่นจากสไตล์การเล่นแบบ Ball Playing Defender หรือกองหลังที่สามารถตั้งเกมจากแดนหลัง และพาบอลลุยขึ้นไปข้างหน้าได้ดี และผลพวงจากการได้ลงเล่นเคียงข้าง แยน แฟร์ตองเกน และ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ อยู่บ่อยๆ ในฤดูกาลที่ผ่านมากับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ก็ทำให้เจ้าตัวมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งความนิ่งและลูกโฉ่งฉ่างที่มีน้อยลง

 

ตัดสกอร์ความน่าจะพึ่งพาได้: 3.5/5 (ผู้นำเกมรับแบบไม่ต้องสงสัย)

 

Photo: dreaminem

 

แผนการเล่น 3-4-3

 

ผู้รักษาประตู: เปแดร็ก ไรจ์โควิช (Predrag Rajković) เซอร์เบีย

 

กองหลัง: โจชัว คิมมิช (Joshua Kimmich) เยอรมนี, เดวินสัน ซานเชซ (Dávinson Sánchez) โคลอมเบีย, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (Trent Alexander-Arnold) อังกฤษ

 

กองกลาง: เออร์วิง โลซาโน (Hirving Lozano) เม็กซิโก, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน (Aleksandr Golovin) รัสเซีย, จิโอวานนี โล เซลโซ (Giovani Lo Celso) อาร์เจนตินา, กอนซาโล เกดิส (Gonçalo Guedes) โปรตุเกส

 

กองหน้า: คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) ฝรั่งเศส, ซาร์ดาร์ อัซมูน (Sardar Azmoun) อิหร่าน, กาเบรียล เฆซุส (Gabriel Jesus) บราซิล

Cover Photo: dreaminem

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising