×

รอยร้าวแห่งอิสตันบูล การลงมติของเฟเนร์บาห์เช เพื่อออกจากลูกหนังตุรกี?

04.04.2024
  • LOADING...
เฟเนร์บาห์เช

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • สิ่งที่นำไปสู่การโหวตครั้งนี้เกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลของทีมแทร็บซอนสปอร์ต่างกรูกันลงมาในสนาม เพื่อไล่ทำร้ายนักเตะของพวกเขา ซึ่งเป็นฝ่ายชนะ 3-2 ในสนาม
  • อาลี ค็อก ในฐานะประธานสโมสร ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเกี่ยวกับสิ่งที่เฟเนร์บาห์เชเผชิญตลอดมา ซึ่งไม่ได้เป็นแค่เฉพาะในปีนี้เท่านั้น แต่เจอเรื่องราวที่ดูแปลกๆ มาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคมิลเลนเนียลเป็นต้นมา
  • ตามกฎของสโมสรเฟเนร์บาห์เชแล้ว สโมสรมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 45,174 คน ซึ่งการโหวตรับรองเรื่องใดๆ จะมีผลก็ต่อเมื่อมีแฟนบอลเข้ามาเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ขององค์ประชุม

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แฟนบอลเฟเนร์บาห์เชหลายหมื่นคนเดินทางมาที่สนามซุครู ซาราโคกลู สเตเดียม สนามที่ตั้งอยู่ทางฝั่งเอเชียของกรุงอิสตันบูล

 

แฟนบอลเหล่านี้ไม่ได้เดินทางมาเพื่อชมการแข่งขันในสนามของทีมรักแต่อย่างใด และไม่ได้มาเพื่อชมคอนเสิร์ตหรือการแสดงอะไรด้วย

 

พวกเขามาเพื่อแสดงพลังในการโหวตตัดสินอนาคตของสโมสรว่า เฟเนร์บาห์เชจะถอนตัวจากซูเปอร์ลีก ตุรกี หรือไม่

 

อะไรที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น? และบทสรุปของการโหวตครั้งประวัติศาสตร์เป็นอย่างไร?

 

เฟเนร์บาห์เช

อาลี ค็อก ประธานสโมสร ขึ้นกล่าวก่อนการลงมติครั้งประวัติศาสตร์

 

ในสนามซุครู ซาราโคกลู มีผืนผ้าขนาดยักษ์อยู่ด้านหลังเวที

 

บนผืนผ้านั้นด้านหนึ่งคือธงชาติตุรกีทางซ้าย ทางขวาคือตราของสโมสรเฟเนร์บาห์เช และตรงกลางคือภาพของ มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก รัฐบุรุษผู้เป็น ‘บิดา’ ของประเทศตุรกี ซึ่งเฟเนร์บาห์เชอ้างว่าเป็นแฟนตัวยงของสโมสร

 

ที่ใต้ผืนผ้านั้นมีข้อความเป็นภาษาตุรกีอ่านได้ว่า ‘ADIL REKABET’ ที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ด้วยว่า ‘FAIR COMPETITION’

 

การแข่งขันที่ยุติธรรม

 

นี่คือต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่ทำให้เฟเนร์บาห์เชจัดการโหวตครั้งประวัติศาสตร์ ในการกำหนดอนาคตของสโมสรว่าจะอยู่หรือจะถอนตัวจากซูเปอร์​ลีก ตุรกี หรือไม่

 

ก่อนหน้านี้เป็นที่เชื่อกันว่า สิ่งที่นำไปสู่การโหวตครั้งนี้เกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลของทีมแทร็บซอนสปอร์ต่างกรูกันลงมาในสนาม เพื่อไล่ทำร้ายนักเตะของพวกเขา ซึ่งเป็นฝ่ายชนะ 3-2 ในสนาม

 

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็น ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ ของเฟเนร์บาห์เช ที่ไม่อยากอดทนต่อเกมฟุตบอลที่เป็นเหมือนสงครามแบบนี้แล้ว

 

โดยที่ในระหว่างเกมก็มีความพยายามที่จะสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้น เช่น มีการขว้างปาสิ่งของลงมาในสนาม ทำให้กัปตันทีมของเฟเนร์บาห์เช โดมินิก ลิวาโควิช ซึ่งเป็นผู้รักษาประตู ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโดนเหรียญปาเข้าที่ศีรษะ

 

ก่อนที่ลิวาโควิชจะโดนแฟนบอลที่บุกลงมาในสนามชกเข้าอีกดอก ในเหตุการณ์ที่สุดวุ่นวาย นักเตะเฟเนร์บาห์เชไม่เพียงแต่ต้องหนีเอาตัวรอดเท่านั้น แต่พวกเขาก็ต้องสู้ด้วยเหมือนกัน เราเลยได้เห็นภาพที่ไม่อยากเชื่อสายตา เมื่อนักฟุตบอลเอาคืนแฟนบอลจอมห่ามเหมือนกัน

 

ไบรท์ โอซายี-ซามูเอล เป็นหนึ่งในคนที่ลุกขึ้นสู้และได้ซัดแฟนบอลแทร็บซอนสปอร์ไปรายหนึ่งเหมือนกันเพื่อป้องกันตัว ซึ่งทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ของแฟนเฟเนร์บาห์เชในการกระทำที่ถูกมองว่ากล้าหาญและไม่ได้รับการลงโทษ แต่ เจย์เดน อูสเตอร์โวลด์ เพื่อนร่วมทีมที่เล็งจะเตะเข้าที่ศีรษะของแฟนบอล กลับโดนแบนหนึ่งนัด

 

อาลี ค็อก ประธานสโมสร ประกาศกร้าวหลังเหตุการณ์ในวันนั้นทันที โดยขู่ว่าจะนำสโมสรถอนตัวจากการร่วมแข่งขันในซูเปอร์ลีก!

 

เฟเนร์บาห์เช

ไบรท์ โอซายี-ซามูเอล (เสื้อเหลืองซ้ายสุด) ซัดกับแฟนบอลแทร็บซอนสปอร์ที่ลงมาหวังทำร้ายในสนาม เพื่อปกป้องตัวเองและทีม

 

อย่างไรก็ดี ในการตัดสินเรื่องสำคัญของสโมสรนั้นค็อกไม่สามารถที่จะดำเนินการได้เพียงลำพัง และนั่นทำให้มีการจัดการโหวตลงคะแนน เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกของสโมสร

 

แต่การโหวตนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นการโหวตในหัวข้อ ‘จะถอนตัวจากซูเปอร์ลีก ตุรกี หรือไม่’ เพราะการโหวตนั้นเป็นการเลือกว่าจะ ‘มอบอำนาจให้แก่ประธานสโมสรในการดำเนินการหรือไม่’ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่แตกต่างและมีความสำคัญ

 

อย่างไรก็ดี ในความรู้สึกของแฟนบอลก็ไม่ได้แตกต่างกัน มันทำให้พวกเขาฮึกเหิมในการที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรมที่ถูกกระทำให้รู้สึกตลอดมา

 

ค็อก ในฐานะประธานสโมสร ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเกี่ยวกับสิ่งที่เฟเนร์บาห์เชเผชิญตลอดมา ซึ่งไม่ได้เป็นแค่เฉพาะในปีนี้ แต่เจอเรื่องราวที่ดูแปลกๆ มาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคมิลเลนเนียลเป็นต้นมา

 

“นับตั้งแต่เข้าศตวรรษนี้ มีอะไรแปลกประหลาดหลายอย่างเกิดขึ้นทั้งในและนอกสนาม ในเรื่องที่มันดูไม่เหมาะสมและยอมรับไม่ได้ และมันทำให้เราต้องคิดทบทวนจุดยืนของเราต่อวงการฟุตบอลตุรกี”

 

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายฤดูกาล 2005/06 เฟเนร์บาห์เชมีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ได้ถ้าชนะเดนิซลิสปอร์ ซึ่งมีโอกาสแล้ว แต่เกมถูกปั่นป่วน เมื่อมีแฟนบอลปาข้าวของลงมาในสนาม จนต้องมีการหยุดพักการแข่งขัน และสุดท้ายเกมก็จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1

 

กาลาตาซารายกลายเป็นแชมป์ในฤดูกาลดังกล่าว

 

ในช่วงต้นปี 2010 อาซิส ยิลดิริม อดีตประธานสโมสร ถูกจับกุม ส่งผลให้สหพันธ์ฟุตบอลตุรกีแบนเฟเนร์บาห์เชจากการลงแข่งขันในรายการสโมสรยุโรป แต่ในเวลาต่อมายิลดิริมก็พ้นจากข้อกล่าวหา

 

ในปี 2015 รถโค้ชของสโมสรที่กำลังเดินทางกลับจากเกมที่พบกับริเซสปอร์ได้ถูกยิง กระสุนทะลุกระจกเข้ามาถูกคนขับได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสโมสรที่อยู่บนรถได้เข้ามาช่วยควบคุมรถก่อนที่จะไถลตกเหว

 

ไม่มีใครจับกุมมือปืนผู้ก่อเหตุได้

 

ไม่นานมานี้มีการเปิดเผยคลิปที่ผู้ตัดสินยอมรับว่า เขาต้องกลับคำตัดสินจาก VAR เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่กาลาตาซาราย สโมสรที่เป็นคู่ปรับกัน เพราะเจอแรงกดดันจากผู้เล่นในสนาม

 

และล่าสุดในเหตุการณ์กับแทร็บซอนสปอร์ที่สนามปาปารา พาร์ก มีการตั้งข้อสังเกตกันถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของเจ้าบ้าน รวมถึงสหพันธ์ฟุตบอลตุรกี ที่ปล่อยให้แฟนบอลบุกลงมาในสนามและเข้าถึงนักฟุตบอลได้อย่างง่ายดาย

 

แทร็บซอนสปอร์ถูกลงโทษปรับเงินจำนวน 3 ล้านลีรา ห้ามแฟนบอลเข้าสนามจำนวน 6 นัด และมีแฟนบอลถูกจับกุมจำนวน 13 คน

 

แต่คำถามคือ แล้วทำไมผู้ตัดสินจึงไม่ยอมสั่งหยุดเกมหรือยกเลิกเกมตั้งแต่จับสัญญาณได้ว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งผู้ตัดสินในเกมนั้นคือ ฮาลิล อุมุต เมเลอร์ (ซึ่งเป็นผู้ตัดสินคนเดียวกับที่เคยโดนประธานสโมสรอังคารากูคูชกเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้)

 

ค็อกประณามผู้ตัดสินด้วยว่า “ผู้ตัดสินมีเหตุผลมากมายที่จะสั่งหยุดเกม แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะทำ ใบอนุญาตในการเป็นผู้ตัดสินของเขาสมควรถูกยกเลิก”

 

สิ่งที่น่าสังเกตคือ ในเวลานี้เฟเนร์บาห์เชกำลังเบียดลุ้นแย่งแชมป์กับกาลาตาซารายกันแค่ 2 ทีม โดยมีคะแนนตามหลังอยู่ 2 แต้ม ทำให้มีการคาดว่าเกมที่สองคู่ปรับแห่งอิสตันบูลจะพบกันในเดือนหน้า อาจจะเป็นเกมตัดสินแชมป์ได้เลยทีเดียว

 

โดยที่หากเฟเนร์บาห์เชได้แชมป์ นี่จะเป็นแชมป์แรกของพวกเขาตั้งแต่ปี 2014 ด้วย

 

เฟเนร์บาห์เช

แฟนบอลเฟเนร์บาห์เชพร้อมใจกันเข้ามาลงมติอย่างคับคั่ง

 

บรรยากาศในการลงมติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้นเป็นไปอย่างคึกคักและเร่าร้อน การนัดหมายเดิมกำหนดไว้ในเวลา 17.00 น. แต่แฟนบอลจำนวนมากมีปัญหาในการเข้าสนาม จนทำให้ต้องเลื่อนการเริ่มประชุมไปอีก 90 นาที

 

ตามกฎของสโมสรเฟเนร์บาห์เชแล้ว สโมสรมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 45,174 คน ซึ่งการโหวตรับรองเรื่องใดๆ จะมีผลต่อเมื่อมีแฟนบอลเข้ามาเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ขององค์ประชุม

 

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ในเวลา 18.30 น. จำนวนสมาชิกที่เข้ามา 22,588 คน เกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมแล้ว และที่สุดแล้วมีสมาชิกเข้ามาเกินกว่า 30,000 คน

 

บทสรุปสุดท้ายคือ เฟเนร์บาห์เชจะยังไม่ถอนตัวจากซูเปอร์ลีก ตุรกี ‘อย่างน้อยก็ในตอนนี้’ แต่จะนำกลับมาพิจารณาใหม่ในการประชุมสามัญเมื่อฤดูกาลจบลง

 

พายุเหมือนจะสงบลงเป็นการชั่วคราว

 

“เราไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแก่เราแค่เพียงสโมสรเดียว แต่เพื่อสโมสรทุกแห่งของตุรกี หวังว่าการกระทำของเราจะเป็นการปลุกให้ทุกฝ่ายตื่น และเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมกันเปลี่ยนแปลงเกมฟุตบอล” ประธานสโมสรเฟเนร์บาห์เชกล่าวปิดท้าย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising