กูรูจับตาประชุม Fed สัปดาห์นี้ คาดเร่งยุติ QE สกัดเงินเฟ้อพุ่ง พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีหน้า

ถือเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ สำหรับการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) และยังนับเป็นครั้งส่งท้ายในรอบปี 2021 ด้วย

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานรวบรวมความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ตรงกันว่า Fed จะพูดคุยหารือเพื่อเร่งรัดการยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการลดปริมาณการซื้อคืนพันธบัตรรายเดือน พร้อมส่งสัญญาณที่จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2022

สำหรับนักกลยุทธ์ ทิศทางความคาดหวังข้างต้นส่งผลให้ผลการประชุม Fed ในครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวใดๆ ของตลาดในรอบสัปดาห์นี้มากนัก เว้นเสียแต่ว่า ทาง Fed จะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจนภายในปีหน้า

การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามท่าทีของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ที่ขึ้นแถลงชี้แจงนโยบายต่อวุฒิสมาชิกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยพาวเวลล์ระบุจะมีการหารือการเร่งกระบวนการลดปริมาณซื้อคืนพันธบัตรรายเดือนมูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางเสียงสนับสนุนจากสมาชิก Fed ที่ส่วนใหญ่แนะให้ยุติโปรแกรม QE ให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้เบื้องต้นที่เดือนมิถุนายน ปี 2022

สำหรับภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันที่ปรับตัวฟื้นขึ้นมาในแดนบวกในตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุม Fed ครั้งนี้ หากไม่มีเซอร์ไพรส์ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นในรอบสัปดาห์นี้มีสิทธิ์ขยับปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากนักลงทุนค่อนข้างปรับตัวได้บ้างแล้วกับภาวะเงินเฟ้อพุ่ง เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของตลาดหลังมีรายงานเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนที่พุ่งสูงถึง 6.8% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982 แต่ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตลาด ต่างปรับตัวในอัตรารายสัปดาห์เพิ่มขึ้น คือ ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.8 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 3.6 เปอร์เซ็นต์ และดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์

เดวิด เบียนโค หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนแห่ง DWS Group กล่าวว่า ตลาดค่อนข้างรู้สึกสบายใจในสิ่งที่ Fed ทำหน้าที่ของตนเองเพื่อจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น นักลงทุนน่าจะกลับมาซื้อขายกันคึกคักรับช่วงส่งท้ายปี บวกกับข่าวดีเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 จากทาง Pfizer/BioNTech ที่มีประสิทธิภาพต่อการรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างรอฟังแถลงการณ์หลังการประชุมของพาวเวลล์ในวันพุธที่ 15 ธันวาคมนี้ ซึ่งการเร่งรัดกระบวนการลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรายเดือน หมายความว่า Fed จะยุติ QE ได้เบ็ดเสร็จภายในเดือนมีนาคมปีหน้า

ทั้งนี้ นอกจากจะจับตาดูท่าทีของ Fed แล้ว นักวิเคราะห์ยังรอดูข้อมูลรายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตัวอื่นๆ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ Producer Price Index (PPI) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงรายงานยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก อย่าง CNBC และ Moody Analytics Rapid Update คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าจะสามารถขยายตัวได้เฉลี่ย 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นแรงส่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในรอบของขาขึ้นส่งท้ายปี

อ้างอิง: