×

พาวเวลล์กล่อมนักลงทุน คลายกังวลเงินเฟ้อ ดันดัชนีดาวโจนส์พลิกปิดตลาดแดนบวก

24.02.2021
  • LOADING...
พาวเวลล์กล่อมนักลงทุน คลายกังวลเงินเฟ้อ ดันดัชนีดาวโจนส์พลิกปิดตลาดแดนบวก

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปปิดตลาดเมื่อวานนี้ (23 กุมภาพันธ์) พลิกกลับมายืนในแดนบวกได้สำเร็จ หลังจากที่ช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับลดลงอย่างหนัก โดยการรีบาวด์ของดัชนีดาวโจนส์เกิดขึ้นหลังจากที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ทำให้นักลงทุนในตลาดคลายความวิตกกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

โดยหุ้นในดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 15.66 จุด มาอยู่ที่ 31,537.35 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ก็ปรับตัวขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 3,881.37 จุด และส่วนดัชนี Nasdaq คอมโพสิตปิดปรับตัวลงมาเล็กน้อยที่ 0.5% มาอยู่ที่ 13,465.20 จุด

 

การปิดตลาดที่พลิกฟื้นกลับมาอยู่ในแดนบวก ซึ่งตรงข้ามกับช่วงเปิดตลาดที่เปิดตัวกันในแดนลบนี้ได้รับอานิสงส์จากถ้อยแถลงของพาวเวลล์ ประธาน Fed ที่ขึ้นแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา โดยส่งสัญญาณชัดเจนว่า Fed จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายด้านเงินเฟ้อและการจ้างงานที่ Fed ตั้งไว้ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มว่ายังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะก่อนที่จะมีความคืบหน้ามากขึ้น

 

ขณะเดียวกันพาวเวลล์ยังใช้โอกาสนี้เน้นย้ำยืนยันจุดยืนของ Fed ที่จะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทำให้มั่นใจได้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเป็นไปอย่างแข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประธาน Fed ยอมรับว่ายังคงมีความไม่แน่นอนในระดับสูง ดังนั้น Fed จะยังคงเดินหน้ามาตรการ QE ต่อไปจนกว่าจะมีความคืบหน้าตามเป้าที่ Fed ตั้งไว้ คืออัตราการว่างงานในระดับต่ำและอัตราเงินเฟ้อที่คงที่อยู่ที่ระดับ 2%ต่อปี

 

ทั้งนี้ประธาน Fed ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยการที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดต่ำลง และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในวงกว้าง ได้กลายเป็นความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยพาวเวลล์ประเมินว่ามีความเป็นได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวได้ 6% ตามที่นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ไว้

 

นอกจากนี้พาวเวลล์ยังเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ อาจดีดตัวกลับขึ้นไปแตะระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

 

ถ้อยแถลงของพาวเวลล์ยังกล่าวถึงตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นแล้ว ขณะที่การลงทุนของภาคธุรกิจและภาคการผลิตได้ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก Fed และสภาคองเกรส กระนั้น ประธาน Fed กลับไม่ได้เอ่ยถึงการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะนี้แต่อย่างใด

 

การขึ้นกล่าวแถลงของพาวเวลล์ในครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัวในหลายภาคส่วน เช่น ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ฟื้นตัวกลับมาได้ แม้จะยังคงมีปัญหาติดขัดในการฟื้นตลาดงานอยู่ก็ตาม ซึ่งหลังจากนี้พาวเวลล์มีกำหนดขึ้นกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising