×

Fed ลดดอกเบี้ยแตะ 0% ฉุดบาทแข็งค่าแตะ 31.75 บาทต่อดอลลาร์

16.03.2020
  • LOADING...

วันนี้ (16 มีนาคม) จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดการเงินและการลงทุน หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทเช้าวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 31.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน (13 มีนาคม) ที่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งเพราะความผันผวนในตลาดการเงินเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติฉุกเฉิน ‘ลดดอกเบี้ย’ อีก 1% ลงสู่ระดับ 0-0.25% และประกาศว่าจะมีการทำ QE หรือซื้อพันธบัตรรัฐบาลและ MBS อีก 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตตลาดการเงิน 

 

ทั้งนี้ด้านตลาด Futures ในสหรัฐฯ ไม่มีผลตอบรับเชิงบวกและเห็นความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคตมากขึ้น ทำให้ต้องจับตาสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดในระยะนี้ ขณะที่ในระยะสั้นประเมินว่าการลดดอกเบี้ยจะทยอยส่งผลกระทบกับตลาดการเงินทีละจุด ได้แก่

 

“ตามทฤษฎีการลดดอกเบี้ยฯ จะส่งผลให้เงินทิศทางของค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่ในช่วงที่ผ่านมากลับแข็งค่าเนื่องจากนักลงทุนสถาบันบางส่วนขาดสภาพคล่อง ดังนั้นด้วยการลดดอกเบี้ยอีก 1% และการใช้นโยบาย QE ควรเห็นปัญหานี้หมดไปและดอลลาร์ควรอ่อนค่าลงเป็นสัญญาณแรก”

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องจับตาทิศทางของผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐและราคาทองคำ จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายนี้ น่าจะทำให้ยีลด์พันธบัตรรัฐบาลในฝั่งของสหรัฐฯ ปรับตัวลงทั้งหมด หนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นพร้อมกับสกุลเงินเอเชียด้วยภาพการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) 

 

ขณะเดียวกันต้องติดตามทิศทางของตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งควรจะเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้รับแรงหนุนมากที่สุด (Risk-On Asset) เนื่องจากเป็นภูมิภาคเดียวที่ปัญหาโควิด-19 เริ่มชะลอตัวลง ต่างกับฝั่งสหรัฐฯ ที่ยังต้องรออีกสักระยะให้นักลงทุนกลับมากล้าเปิดรับความเสี่ยง

 

ด้านเงินบาทเชื่อว่ามีโอกาสผันผวนต่อเนื่องเพราะสภาพคล่องอยู่ในระดับต่ำ โดยในปัจจุบันมีเพียงธนาคารต่างประเทศที่เข้ามาเก็งกำไรในค่าเงินบาท ขณะที่ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวสูง เงินบาทจึงอาจปรับตัวผันผวนตามทิศทางของค่าเงินภูมิภาคเอเชีย แต่เชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ครั้งนี้จะส่งผลหนุนให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าได้เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในระยะยาว โดยกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 31.20-32.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising