แพทย์ที่ปรึกษาทำเนียบขาวระบุ การตัดสินใจของ FDA ที่ไม่สนับสนุนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้บุคคลทั่วไป ยังไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้

วานนี้ (19 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางด้านการแพทย์ประจำทำเนียบขาว หรือหมอใหญ่สหรัฐฯ ระบุว่า การตัดสินใจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ที่ลงมติไม่สนับสนุนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้บุคคลทั่วไป (Booster Shot) ยังไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากจากโควิดในสหรัฐฯ จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 กันยายน) FDA ปฏิเสธที่จะแนะนำการให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของ Pfizer-BioNTech ให้คนทั่วไป ด้วยมติ 16 ต่อ 2 คะแนนเสียง เกือบเป็นมติเอกฉันท์ โดยสนับสนุนให้ใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อแบบรุนแรงเท่านั้น ซึ่งมติดังกล่าวสวนทางกับแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

“ผมไม่คิดว่าพวกเขาได้ตัดสินใจผิดพลาด แต่ประชาชนจำเป็นต้องตระหนักว่าข้อมูลใหม่เกิดขึ้นตลอด เข้ามาเป็นรายวัน รายสัปดาห์ พวกเขาจำเป็นจะต้องพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ อย่างเรียลไทม์ ข้อมูลในมิติต่างๆ อาจนำไปสู่การใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นในอนาคต ผมคิดว่าประชาชนจำเป็นต้องเข้าใจว่ามติในครั้งนี้ยังไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้” เฟาซีกล่าว

ขณะที่ที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) มีกำหนดจะประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อแนะนำเพิ่มเติมว่าใครจะเป็นผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นดังกล่าว ในวันที่ 22-23 กันยายนนี้

ล่าสุด สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วราว 42 ล้านราย เสียชีวิตแล้วกว่า 6.7 แสนราย ทางการเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว 385.58 ล้านโดส มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกในเชิงปริมาณ รองจากจีนและอินเดีย พลเมืองราว 211.7 ล้านราย เข้ารับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่พลเมืองราว 181.4 ล้านราย หรือคิดเป็น 54.6% ของพลเมืองทั่วทั้งประเทศ เข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง: