×

‘Father & Son’ วิวาทะลูกหนังระหว่างมูรินโญ-โซลชาร์ ที่ไม่อาจกลบความล้มเหลวของสเปอร์ส และอนาคตที่น่าคิดของ แฮร์รี เคน

12.04.2021
  • LOADING...
‘Father & Son’ วิวาทะลูกหนังระหว่างมูรินโญ-โซลชาร์ ที่ไม่อาจกลบความล้มเหลวของสเปอร์ส และอนาคตที่น่าคิดของ แฮร์รี เคน

เป็นชัยชนะที่สวยงามและถือเป็นการเอาคืนที่สาสมของเหล่าขุนพล ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกไปเอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ได้ 3-1 หลังจากที่พวกเขาเคยแพ้สเปอร์สย่อยยับคาโอลด์แทรฟฟอร์ด 1-6  

 

นี่คือฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดนัดหนึ่งในฤดูกาลนี้สำหรับทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ที่พลิกสถานการณ์จากการตามหลังกลับมาแซงหน้าเอาชนะได้ด้วยการเล่นที่น่าประทับใจ ทั้งความอดทนในการสร้างสรรค์โอกาส การสอดประสานระหว่างผู้เล่นในทีมในทั้ง 3 ประตูที่เกิดขึ้น (และไม่มีจุดโทษ!) และความสามารถระดับเอกอุของผู้เล่นระดับโลกอย่าง พอล ป็อกบา กับเอดินสัน คาวานี

 

อย่างไรก็ดี เมื่อจบเกมสิ่งที่กลายเป็นประเด็นพูดถึงกลับไม่ใช่เรื่องเหล่านี้ แต่กลับเป็นการโต้เถียงกันของสองกุนซือโซลชาร์และโชเซ มูรินโญ ที่แม้คำพูดจะไม่ได้ถึงกับรุนแรงอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้น่าฟังอะไรนักสำหรับคนทำงานในระดับนี้

 

จุดเริ่มต้นของการวิวาทะเริ่มจากโซลชาร์ที่ไม่พอใจกับ ‘การแสดง’ ของ ซนฮึงมิน ดาวยิงสเปอร์สที่ออกอาการโอเวอร์เกินเบอร์ในจังหวะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดควรจะได้ประตูขึ้นนำในช่วงครึ่งแรก

 

จังหวะดังกล่าวซนฮึงมินพยายามเข้าแย่งบอลจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มิดฟิลด์ไดนาโมที่พาบอลหนีได้สวยก่อนจะจ่ายต่อให้ป็อกบา ซึ่งดึงจังหวะก่อนจ่ายทะลุช่องให้คาวานี วิ่งสอดเข้าไปยิงผ่าน ฮูโก ยอริส นายทวารเจ้าบ้านอย่างเหนือชั้น แต่ประตูนี้ถูกริบหลัง VAR พิจารณาจังหวะเซ็ตบอลแล้วพบว่ามือของมิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์ไปโดนใบหน้าของดาวยิงชาวเกาหลีใต้

 

เหตุการณ์นี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเชียลมีเดียว่าเป็นความอัปยศอีกครั้งของ VAR แต่สำหรับโซลชาร์แล้วคนที่น่าอายมากกว่าคือซนฮึงมิน

 

“ผมคงต้องบอกว่าถ้าลูกชายผมลงไปดิ้นแบบนี้ 3 นาทีเพื่อให้เพื่อนอีก 10 คนมารุมล้อมเขาเพื่อช่วยให้เขาลุกขึ้นมาได้ เขาไม่ได้กินข้าวแน่” โซลชาร์กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์

 

ถ้อยคำนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทันที เมื่อมูรินโญตอบโต้ทันควัน โดยนอกจากจะขอคุยกับผู้จัดการทีมรุ่นน้องชาวนอร์เวย์เป็นการส่วนตัวแล้ว ยังนำเรื่องนี้มาบอกสื่อด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

 

“ผมขอพูดอะไรอย่างหนึ่ง ผมรู้สึกประหลาดใจมากๆ ที่พวกคุณไม่ได้ถามผมเกี่ยวกับความเห็นของโอเลที่มีต่อซนนี (Sonny)” มูรินโญกล่าว

 

“ผมบอกโอเลไปแล้ว เพราะผมเจอเขาเมื่อสักครู่ ถ้าเป็นผมบอกว่าผู้เล่น A B หรือ C จากสโมสรอื่นว่า ถ้าเป็นลูกชายของผมทำแบบนี้ผมไม่ให้กินข้าวเย็นแน่หรืออะไรทำนองนี้ ปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไร?

 

“มันน่าเศร้ามากๆ นะที่พวกคุณไม่คิดจะถามผมในเรื่องนี้ มันน่าเศร้าที่พวกคุณไม่ได้มีความจริงใจในการปฏิบัติต่อผมในแบบเดียวที่ปฏิบัติต่อคนอื่น

 

“ผมอยากจะบอกว่าซนนีโชคดีมากๆ แล้วที่พ่อของเขาเป็นคนที่ดีกว่าโอเล เพราะผมคิดว่าการเป็นพ่อเราต้องหาข้าวปลาอาหารให้ลูกกินอิ่มเสมอโดยไม่เกี่ยวกับว่าเขาจะทำอะไร

 

“ถึงจะต้องไปขโมยอาหารมาให้ลูกเราก็ต้องทำ ในโปรตุเกสเราพูดกันว่าขนมปังก็คือขนมปัง ชีสก็คือชีส ซึ่งที่เขาพูดมันน่าผิดหวังมาก และผมก็บอกโอเลไปแล้วว่าผมคิดอย่างไรกับความเห็นของเขา”

 

ย้อนกลับไปก่อนหน้าในช่วงพักครึ่งเวลาทั้งสองเองก็มีการปะทะคารมกันไปรอบหนึ่ง แต่โซลชาร์ยืนยันว่าเรื่องนั้นจบไปแล้ว

 

อย่างไรก็ดี การปะทะคารมครั้งนี้ไม่สามารถกลบผลงานที่น่าผิดหวังอีกครั้งของสเปอร์สภายใต้การนำของ The Special One ได้

 

ความพ่ายแพ้ทำให้พวกเขายังหยุดนิ่งอยู่ที่อันดับ 7 มี 49 คะแนนตามหลังเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เวลานี้อยู่ 6 คะแนนด้วยกัน และมีโอกาสจะหล่นไปอันดับที่ 8 หากเอฟเวอร์ตันซึ่งมี 47 คะแนน เก็บแต้มในมือที่แข่งน้อยกว่าอีก 2 นัด และทั้งสองทีมจะพบกันในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ด้วย

 

โอกาสลุ้นติด Top 4 เพื่อไปแชมเปียนส์ลีกทำท่าจะกลายเป็นเรื่องที่ยากเกินไปอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ในช่วงแรกของฤดูกาลพวกเขายังทำผลงานได้น่าประทับใจ (รวมถึงชัยชนะประวัติศาสตร์ที่โรงละครแห่งความฝันด้วย)

 

และนั่นหมายถึงโอกาสที่พวกเขาจะสูญเสีย แฮร์รี เคน ดาวยิงหมายเลขหนึ่งแห่งยุคของทีมไปหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้จะเพิ่มมากขึ้นด้วย

 

เคนกับข่าวการย้ายออกจากทีม ‘ไก่เดือยทอง’ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในทุกช่วงปิดฤดูกาล เพียงแต่สำหรับฤดูกาลนี้ดูเหมือนกระแสข่าวค่อนข้างชัดเจนว่ากองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษจะพยายามหาทางที่จะย้ายออกจากทีมให้ได้หากสเปอร์สไม่สามารถคว้าสิทธิ์ในการไปแชมเปียนส์ลีกได้

 

เพราะเคนกำลังจะอายุครบ 28 ปี กำลังจะถึงช่วงพีกของชีวิตการเล่นและเขายังไม่เคยได้สัมผัสเกียรติยศระดับสูงใดๆ กับสเปอร์สเลยแม้แต่รายการเดียว

 

ถึงจะเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสร มีโอกาสจะสร้างตำนานมากมาย แต่ความอดทนนั้นมีขีดจำกัด

 

สเปอร์สของมูรินโญเหมือนจะเป็นทีมที่ดีขึ้นแต่ก็ยังดีได้ไม่เท่ากับช่วงที่ เมาริซิโอ โปเชตติโน คุมทีมก่อนหน้านี้ ปัญหาของทีมยังคงมีอยู่ในหลายจุด โดยเฉพาะกับนักเตะหลายรายที่ดูเหมือนจะอยู่ในภาวะหมดไฟในการเล่น

 

สิ่งนี้สวนทางกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะยังดูต้องพัฒนาอีกแต่พวกเขาก็เดินทางมาไกลมากแล้วจากวันที่โซลชาร์รับงานต่อจากมูรินโญ ทีมมีไลน์แบ็กโฟร์ที่แข็งแกร่ง มีผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้อย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน มีผู้เล่นชั้นยอดอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวูด และเอดินสัน คาวานี กับ พอล ป็อกบา ที่มีโอกาสที่จะอยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า

 

เรียกได้ว่าขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างถูกทาง สเปอร์สของมูรินโญกำลังเดินถอยหลังอีกครั้ง (และ VAR ไม่ได้ก้าวไปไหนเลย)

 

ทั้งนี้แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะวางตัว เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เป็นเป้าหมายหลักสำหรับแนวรุกในอนาคตด้วยสนนราคาและอายุที่มีโอกาสจะขายทำราคาได้ แต่ตามรายงานจาก The Athletic โซลชาร์ไม่ต้องการให้เรื่องยืดเยื้อเหมือนกรณีของ จาดอน ซานโช เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว

 

หากไม่มีโอกาสคว้าตัวก็จะเปลี่ยนเป้าหมายทันที และเคนก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดเวลานี้  ซึ่งในอดีตยูไนเต็ดก็เคยได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงพระกาฬมาจากสเปอร์สเช่นกัน

 

เรื่องเหล่านี้คือสาระสำคัญที่เกิดขึ้นในระหว่างเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนที่ผ่านมา มากกว่าการโต้ตอบทางคารมแบบเด็กประถมระหว่างมูรินโญกับโซลชาร์

 

ลูกฉัน พ่อแก ลูกแก พ่อฉัน…บ้าบอ

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising