แม้ภาคธุรกิจจะเป็นกระบอกเสียงหนึ่งเรื่องความยั่งยืน แต่แท้จริงแล้ว ‘ความยั่งยืน’ คือเรื่องของเรา ‘ทุกคน’ แม้ปัจจุบันอุณหภูมิโลกกำลังเดือดขึ้นทุกวัน แต่เราทุกคนสามารถสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าได้ เพราะโลกของเราต้องไปต่อ
SUSTAINABILITY EXPO 2024 ที่มีแนวคิด GOOD BALANCE, BETTER WORLD ‘พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก’ มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และนับได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ก็กลับมาอีกครั้งในเฉกเช่นทุกปี จากความเชื่อที่ว่าเราทุกคนร่วมสร้างอนาคตที่ดีได้ ขอเพียงเราตระหนักถึงและเรียนรู้ร่วมกัน ก็จะสร้างสรรค์อนาคตของโลกเราที่ดีได้ ผ่านนิทรรศการจากทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันมอบองค์ความรู้ในการดูแลโลกของเราอย่างยั่งยืน ผ่านองค์ประกอบและวิธีการต่างๆ ที่ให้เราตระหนักว่า ‘โลกไปต่อได้ ด้วยมือเรา’
Prologue of Our Future ความหวังที่โลกจะไปต่อ
โลกของเราพัฒนาอย่างก้าวกระโดดตลอดมา ตั้งแต่ยุคเครื่องจักรไอน้ำและการใช้ถ่านหินเป็นพลังงาน ยุคแห่งอุตสาหกรรมของมนุษย์ก็ได้เริ่มขึ้น เพื่อความรุ่งโรจน์ของมนุษยชาติที่ต้องแลกมาด้วยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งหมดคือข้อความจาก Immersive Experience จากโซน SX SEP INSPIRATION PROLOGUE บทนำของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของเรา และเราเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้
การนำเสนอเริ่มจาก ‘REFLECTION OF IMPACT’ ที่สะท้อนสู่โลกที่กำลังไร้สมดุลในธรรมชาติ ก่อนที่เราทุกคนจะได้เรียนรู้ความผิดพลาดของพวกเราใน ‘POINT OF NO RETURN’ ที่แสดงความผิดพลาดของเราที่ไม่อาจแก้ไขได้ แต่ความหวังยังมีอยู่ใน ‘HOPE AND HELP’ กับการเริ่มลงมือทำจริงๆ ของทุกคน ผ่านผลงานศิลปะที่ชื่อว่า Story from Plateau หรือเรื่องราวจากที่ราบสูง โดย อาจารย์บุญโปน โพทิสาน ซึ่งเป็นผลงานที่จะสื่อถึงปัญหาระเบิดใน สปป.ลาว เป็นการสะท้อนว่าสงครามไม่ได้ส่งผลดีต่อใครเลย
เรื่องราวต่างๆ ที่ร้อยเรียงในส่วนของ SEP INSPIRATION PROLOGUE เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ให้ทุกคนก้าวออกมาทำในสิ่งเล็กๆ แต่ได้ผลอย่างยิ่งใหญ่ เพียงเราทุกคนเริ่มต้น
ในโซน SX SEP INSPIRATION ยังแสดงให้เห็นความพยายามของทุกภาคส่วนบนโลกใบนี้ เริ่มตั้งแต่ภายในประเทศของเราอย่างภาครัฐจากกระทรวงต่างๆ ความตั้งใจของประเทศต่างๆ จากญี่ปุ่น สวีเดน หรือกลุ่มประเทศในยุโรป ยังรวมไปถึงภาคใหญ่ของโลกอย่าง World Bank และองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN)
โลกไปต่อได้ เริ่มต้นจากการเป็นอยู่ของเรา
ความหวังและอนาคตของโลกของเราเกิดขึ้นได้ เพียงการกิน การนอน และการเป็นอยู่ของเราในชีวิตประจำวัน ที่ได้จำลองและถอดแบบมาให้เห็นในโซน SX BETTER LIVING ที่มีไฮไลต์เป็น HOW TO LIVE ‘LOW CARBON LIFE’ ซึ่งเป็นส่วนที่น่าสนใจอย่างมาก
เริ่มต้นจากการตื่นนอนของเรา มนุษย์ใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอน ทำให้ห้องนอนจึงเป็นส่วนสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในโซนจะออกแบบห้องนอนจำลองตั้งแต่การใช้โซลาร์เซลล์บนหลังคา การใช้แอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส กับพัดลม การเลือกเครื่องนอนที่ใช้วัสดุธรรมชาติ
มนุษย์ทุกคนต้องกินเพื่ออยู่รอด แต่การผลิตอาหารนั้นทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึง 34% จากทั้งหมด ทำให้การเลือกวัตถุดิบและคัดแยกขยะจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในโซนนี้ได้จำลองการประกอบอาหารที่ลดการปลดปล่อยคาร์บอน รวมถึงการทำเกษตรในเมือง ที่จะส่งผลดีต่อการหมุนเวียนทรัพยากร
การแยกขยะคือส่วนต่อมา การนำเสนอรูปแบบเกมจึงช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายดาย การแยกขยะจะส่งผลกระทบที่เกิดการเปลี่ยนแปลงให้โลกได้ จะต้องเข้าใจรูปแบบของขยะ และรู้ว่าการแยกขยะแล้วจะผ่านกระบวนการอะไรที่จะส่งผลดีต่อโลกบ้าง ทั้งยังมีโมเดลการแยกขยะที่ช่วยให้เราจดจำได้ง่าย
การเริ่มต้นดูแลโลกจากตัวเรา จากจุดเล็กๆ ส่งผลให้ภาพรวมขนาดใหญ่สามารถดำเนินการต่อไปได้ง่าย นั่นยังส่งผลให้หลายภาคส่วนตระหนักและร่วมมือกับครัวเรือนในการสร้างสิ่งดีๆ ที่ส่งต่อไปให้ลูกหลานในอนาคต นี่คือไฮไลต์ความตั้งใจขององค์กรและภาคส่วนต่างๆ
- บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กับการให้ความสำคัญของน้ำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยไทยเบฟได้คืนน้ำสู่ธรรมชาติแล้วกว่า 340 ล้านลิตร และตั้งใจคืนให้ครบ 100% ภายในปี 2040
- บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารทะเลผ่านกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ที่ครอบคลุมการดูแลทั้งผู้คนและโลก 100% ของอาหารทะเลที่จับจากธรรมชาติจะผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ
- บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค บรรจุภัณฑ์ เวชภัณฑ์ และโลจิสติกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างยั่งยืนในทุกๆ วัน
- บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด (TBC) ผู้ผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมและฝาชั้นนำของไทย ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการแสดงความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ และสร้างพลังขับเคลื่อนสังคม
โซน SX BETTER LIVING นับว่าเป็นโซนที่มีความสำคัญกับเราทุกอย่าง ทั้งภาคประชาชนและมหภาคต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ที่แสดงให้เห็นว่าโลกของเราเปลี่ยนไปได้จากการเริ่มต้นรับรู้ถึงปัญหาของโลกเรา เข้าถึงสาเหตุและพฤติกรรมของเรา และลงมือทำ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกของเรา ผ่านความตั้งใจของทุกภาคส่วนและหน่วยงานต่างๆ นำเสนอใจความสำคัญในการดูแลโลกของเราในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
ไฮไลต์น่าสนใจที่พลาดไม่ได้ใน SUSTAINABILITY EXPO 2024
โลกของเราต้องไปต่อ และความน่าสนใจของงานยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทั้งในตัวเราและจากตัวเราสู่ชุมชน
โซน SX BETTER ME เน้นการเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ทั้งสุขภาพกายและใจ ส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืน เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร การดูแลจิตใจ และการชะลอภาวะสมองเสื่อมผ่านนวัตกรรมต่างๆ เช่น i-ExC จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้แอปพลิเคชัน Sati และเครื่องมือ ‘อยู่ดี-ตายดี’ ของชีวามิตร ที่ช่วยให้ผู้สูงวัยวางแผนชีวิตได้อย่างสมดุล
โซนนี้ยังมีจุดเด่นที่พลาดไม่ได้ในส่วนของ SX SENSORY EXPERIENCE ฐานการเรียนรู้ที่ให้เราทุกคนได้ทดลองใช้ชีวิตแบบไร้การมองเห็นและไร้การได้ยิน โดยอาสาสมัครผู้พิการ บนพื้นที่ที่ปิดมืดสนิทและจำลองสถานการณ์ในชีวิตประจำวันเพื่อให้เข้าถึงบรรยากาศต่างๆ ผ่านทางประสาทการรับรู้ เช่น เสียง สัมผัส รส และกลิ่น
โซน SX BETTER COMMUNITY เป็นการแสดงผลงานที่ส่งเสริมการสร้างสังคมร่วมกัน ผ่านการจัดแสดงจากเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เน้นการสร้างเมืองที่เอื้อต่อการเรียนรู้ การดูแลชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนด้วยแนวคิดที่ยั่งยืน มีการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือกระตุ้นการลงทุนและพัฒนาเมือง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ เช่น เสวนา การฉายหนังสั้น และงานแสดงศิลปะ
โซน SX BETTER WORLD สำรวจแนวคิดด้านความยั่งยืนผ่านงานศิลปะหลากหลายประเภท เช่น ภาพถ่าย จิตรกรรม และประติมากรรม ตัวอย่างงานที่น่าสนใจ เช่น ผลงานจาก BAB 2024, Trash to Treasure และ ASEAN SX Photo Contest 2024 ที่เน้นความหลากหลายทางชีวภาพและการใช้วัสดุรีไซเคิล
งาน SUSTAINABILITY EXPO 2024 (SX2024) จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยมี 5 องค์กรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมกันผนึกกำลังสร้างงานนี้ขึ้นภายใต้หัวใจหลัก ‘พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก’ (Sufficiency for Sustainability) โดยน้อมนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
SX2024 มุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือแบบ B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ซึ่งผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงธุรกิจและความยั่งยืน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรมากกว่า 600 รายจากทั่วโลก รวมถึงองค์กรยั่งยืนกว่า 500 แห่ง ร่วมแบ่งปันความรู้ โครงการ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาความยั่งยืนในระยะยาว