คลื่นความร้อนที่กำลังแผ่ขยายปกคลุมทวีปยุโรป ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วในหลายประเทศและเกิดไฟป่ารุนแรงหลายจุด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอีก
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักร (Met Office) ออกประกาศเตือนอากาศร้อนจัดระดับ ‘สีแดง’ เป็นครั้งแรก โดยคาดว่าอุณหภูมิอาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียสในวันจันทร์หรือวันอังคารที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอังกฤษ
ขณะที่อีกหลายประเทศในภูมิภาคประสบกับไฟป่าที่โหมกระหน่ำ นอกเหนือไปจากอากาศที่ร้อนจัดผิดปกติ
สถานการณ์คลื่นความร้อนในยุโรปรุนแรงแค่ไหนในตอนนี้ ถึงจุดสูงสุดแล้วหรือยัง… นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และคาดว่ากำลังจะเกิดขึ้น
☀️ ทางการออกมาตรการฉุกเฉินรับมืออุณหภูมิพุ่งสูง
อุณหภูมิที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักรต้องออกคำเตือนอากาศร้อนจัดระดับ ‘สีแดง’ เป็นครั้งแรก และคาดว่าคณะรัฐมนตรีอังกฤษจะจัดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตด้านสภาพอากาศที่เกิดขึ้น
Met Office คาดการณ์ว่า ในต้นสัปดาห์นี้อุณหภูมิอาจสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ทางตอนใต้ของอังกฤษ ส่งผลให้โรงเรียนบางแห่งประกาศหยุดเรียนในสัปดาห์หน้า
“ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เราออกมาตรการรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศที่รุนแรงในฤดูร้อน” ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน กล่าว “โดยปกติแล้วเราจะทำสิ่งนี้ในฤดูหนาวเมื่ออากาศหนาวมาก และเป็นอันตรายสำหรับการนอนนอกบ้านท่ามกลางอากาศหนาว”
สำหรับในลอนดอนมีการคาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะแตะ 32 องศาเซลเซียสในวันจันทร์ ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดของเมืองในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมอยู่ราว 10 องศาเซลเซียส
ขณะที่อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ในสหราชอาณาจักรคือ 38.7 องศาเซลเซียส โดยเกิดขึ้นที่เมืองเคมบริดจ์เมื่อปี 2019
☀️ การควบคุมเพลิงเป็นเรื่องยากมาก
คลื่นความร้อนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ในฝรั่งเศส, โปรตุเกส, สเปน และกรีซ โดยเพลิงได้เผาทำลายพื้นที่ป่าหลายพันเฮกตาร์ และคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ไปหลายคนตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ฤดูไฟป่าของยุโรปมาเร็วกว่าปกติในปีนี้ หลังบ่อน้ำพุร้อนเหือดแห้งผิดปกติ ส่งผลให้ดินแห้งผาก ซึ่งทางการระบุว่า มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
นักผจญเพลิงในอาร์คาชง ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งในจังหวัดฌีรงด์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส พยายามควบคุมไฟป่า 2 แห่งที่กินเนื้อที่มากกว่า 24,700 เอเคอร์ มาตั้งแต่วันอังคาร ด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1,200 คน และเครื่องบิน 5 ลำ
“มันเป็นงานที่ยากลำบาก” พ.ท. โอลิวิเยร์ ชาวาตต์ จากหน่วยดับเพลิงและกู้ภัย กล่าว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฝรั่งเศส (Meteo France) คาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะสูงถึง 41 องศาเซลเซียสในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศช่วงวันอาทิตย์ และอุณหภูมิจะสูงแตะ 35 องศาเซลเซียสทางทิศตะวันตก-เหนือ ก่อนพุ่งทำสถิติใหม่ในวันจันทร์
ขณะที่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสเปน นักผจญเพลิงกำลังต่อสู้กับเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้นหลายจุด หลังอุณหภูมิสูงผิดปกติมาหลายวัน โดยอุณหภูมิในสเปนสูงสุดถึง 45.7 องศาเซลเซียส
ส่วนในโปรตุเกส สถาบันอุตุนิยมวิทยาของประเทศคาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะสูงถึง 42 องศาเซลเซียสต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า
☀️ กลุ่มเปราะบางเสี่ยงที่สุด
ทางการสเปนระบุว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นยาวนานเกือบ 1 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 360 ราย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของโปรตุเกสระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 238 ราย ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคมที่ผ่านมา
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization: WMO) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา กล่าวว่า คลื่นความร้อนจะทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง โดยเฉพาะในเมือง
“สภาพอากาศนิ่งทำให้เกิดการสะสมมลพิษในชั้นบรรยากาศ ซึ่งรวมถึงฝุ่นละอองด้วย” ลอเรนโซ ลาบราดอร์ เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของ WMO กล่าวในการแถลงข่าว “สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้คุณภาพอากาศย่ำแย่ลง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มเปราะบาง”
ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน ประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือบรรดาคนไร้บ้านในลอนดอน ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนมากที่สุด
☀️ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นปกติหรือไม่
นักวิทยาศาสตร์โทษว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์เป็นสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง เช่น คลื่นความร้อน เกิดขึ้นบ่อยหรือถี่กว่าเดิม
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดคลื่นความร้อนนี้” เฟรเดอริเก ออตโต อาจารย์ด้านภูมิอากาศศาสตร์ของสถาบันแกรนแทม แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจ ลอนดอน กล่าว
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน ก๊าซ และน้ำมัน กำลังทำให้คลื่นความร้อนร้อนขึ้น ยาวนานขึ้น และเกิดบ่อยขึ้น
“คลื่นความร้อนเป็นเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงอย่างหนึ่ง แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้เหตุการณ์เหล่านี้มีโอกาสเกิดได้มากขึ้น” Met Office ระบุทางเว็บไซต์
ภาพ: Zowy Voeten / Getty Images
อ้างอิง: